ตำรวจภาค 7 จับแก๊งชาวต่างชาติ ลักลอบขนยาไอซ์พร้อมเฮโรอีนได้ขณะลำเลียงยาผ่านภาค 7 เพื่อนำออกสู่ประเทศมาเลเซียก่อนส่งไปจำหน่ายยังประเทศสิงค์โปร์ รวมมูลค่ามากกว่า 60 ล้านบาท
(26พ.ย.) เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัติ รองผบ.ตร.(ปป.1) พล.ต.ท.กฤษฎา พันธ์คงชื่น ผู้ช่วย ผบ.ตร.(ปป.11) ร่วมกับ พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ. 7 แถลงข่าวการจับกุมนายแก ซูเกีย อายุ 33 ปี และนายชาน ซุง ก๊วน อายุ 49 ปี 2 ชาวมาเลเซีย แก๊งค์ขนยาเสพติดข้ามชาติ ได้พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ลักษณะเป็นเกล็ดสีขาวใส จำนวน 20 ถุง ๆ ละประมาณ 1 กก.รวมน้ำหนัก 20 กก.และเฮโรอีน จำนวน 3 ก้อน รวมน้ำหนักประมาณ 1.2 กก. ,รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา หมายเลขทะเบียน ศว. 9507 กรุงเทพฯ เหตุเกิดบริเวณจุดตรวจจุดสกัดยาเสพติด ที่ตู้นิคม ม. 1 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี
พ.ต.อ.ภานุเดช พัฒนธรรม ผกก.สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี กล่าวว่า การจับกุมแก๊งค์ต่างชาติได้พร้อมของกลางยาเสพติดจำนวนมากได้ในครั้งนี้
สืบเนื่องมาจากการตั้งจุดตรวจจุดสกัดยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การนำของ พ.ต.ท. สุรัตน์ ประทุมแก้ว สวป.สภ.ชะอำ พร้อมชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดที่บริเวณที่ตู้นิคม ม. 1 ต.เขาใหญ่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งเป็นจุดตรวจจุดสกัดที่สำคัญของภาค 7 โดยขณะที่ทางเจ้าหน้าที่กำลังปฎิบัติหน้าที่อยู่นั้น ก็ได้มีรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทาหมายเลขทะเบียน ศว 9507 กรุงเทพฯ วิ่งมาตามถนนเพชรเกษม มั่งหน้าลงใต้ เข้ามายังบริเวณจุดตรวจฯ ด้วยท่าทีมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงขออนุญาตทำการตรวจค้นพบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาไอซ์ จำนวน 20 ถุงๆละ 1 กก.และเฮโรอีน จำนวน 3 ก้อน นน.รวม 3 กก. ซุกซ่อนอยู่ในถุงใส่ขยะสีดำ วางอยู่บริเวณท้ายรถ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์,เฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวมายังสภ.ชะอำ เพื่อทำการสอบสวนและขยายผล ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ทางสามารถจับกุมผู้ลักลอบขนยาเสพติดที่เป็นชาวต่างชาติได้พร้อมของกลางเป็นจำนวนมาก เพราะที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยทั้งนั้น
พล.ต.ท.พงษ์สันต์ เจียมอ่อน ผบช.ภ. 7 กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายแก ซู เกีย ผู้ต้องหา
ได้เดินทางเข้ามาประเทศไทยทางด่านสะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมาเพื่อมาเที่ยวงานลอยกระทงที่ด่านนอก จ.สงขลา หลังจากเที่ยวงานแล้วก็ได้พักอยู่ที่จ.สงขลาเป็นเวลา 1 คืน ก่อนที่จะนั่งเครื่องบินจากอ.หาดใหญ่ไปลงที่สนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ หลังจากนั้นก็ได้ไปเที่ยวเล่นการพนันที่แถวถนนเพชรบุรี จนกระทั่งถึงเช้าของวันที่ 23 พ.ย. 53 ก็ได้ออกจากบ่อนแล้วไปเอารถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ที่นางณิชาภา แก้วโพนยอ อายุ 37 ปี ภรรยาสาวที่จอดไว้ที่เตาปูนแมนชั่น ก่อนที่จะโทรไปชักชวนนาย ชาน ซุง ก๊วน ซึ่งเป็นเพื่อนที่พักอยู่โรงแรมอิมมาลอน ถนนรัชดา ให้ไปด้วยกัน หลังจากไปรับนาย ชาน ซุง ก๊วน แล้วก็ได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวออกจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่ตลาด อ.มหาชัย โดยขับมาตามถนนพระราม 2 แล้วก็แวะกินข้าวที่ตลาดอ.มหาชัย หน้าเซเว่นฯ ซึ่งเป็นจุดที่เครือข่ายยาเสพติดใช้ในการส่งต่อโดยการนำยามาใส่ไว้ในกระโปรงรถยนต์คันที่นายแก ซู เจีย ขับมาจอดไว้
ผบช.ภ. 7 กล่าวต่ออีกว่า หลังจากควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาทำการสอบสวน
เบื้องต้นนั้นนาย แก ซู เกีย ผู้ต้องหา ได้ให้การรับสารภาพว่า ยาไอซ์และเฮโรอีน ที่พบในรถยนต์นั้น ได้รับจ้างขนจากนาย ปู่เจี่ยง ชาวมาเลเซีย ในราคา 1 ล้านบาทโดยให้นำของกลางทั้งหมดนี้ไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนที่จะมีเครือข่ายมารับยาต่อแล้วนำไปพักยาที่ประเทศมาเลเซีย ก่อนที่จะนำไปจำหน่ายยังประเทศสิงค์โปร ซึ่งถ้าของกลางทั้งหมดนี้ถูกนำออกไปยังประเทศมาเลเซียแล้ว มูลค่ายาเสพติดล๊อตนี้น่าจะมีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท