ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ที่ปรึกษา (สบ 10)มาร่วมฟังคำพิพากษาในคดีของน.ส.สุดาวดี อายุ 25 ปี
นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาธนบุรีในความผิดฐานจำหน่ายซีดีโดยไม่ได้รับอนุญาต และศาลอาญาธนบุรีกำหนดนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้
เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.น.ส.สุดาวดีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางมด จับกุมพร้อมของกลางซีดี 10 แผ่น ขณะนำซีดีเก่ามาวางจำหน่ายบนสะพานลอย ตลาดโอ๋เอ๋ ถนนพระราม 2 แขวงบางมด เขตจอมทอง พร้อมกันกับนายสมชัย นันทวณิชย์ ซึ่งถูกจับในคดีเดียวกัน และศาลอาญาธนบุรีพิพากษาในคดีของนายสมชัยไปแล้ว โดยสั่งปรับไปกว่าแสนบาท แต่นายสมชัยไม่มีเงินเสียค่าปรับ จึงถูกนำตัวไปกักขังแทนค่าปรับ ก่อนที่ปรึกษา(สบ 10) ทราบเรื่องจึงให้ความช่วยเหลือจ่ายค่าปรับแทนให้จนได้รับการปล่อยตัว ภายหลังจากเป็นข่าวตามสื่อมวลชนไป บิดาและมารดาน.ส.สุดาวดีทราบเรื่อง จึงได้พาเจ้าตัวเข้าร้องขอความช่วยเหลือ ซึ่งก็ได้รับปากว่าจะให้ความช่วยเหลือเต็มที่
ภายหลังจากร่วมรับฟังคำพิพากษา ศาลอาญาธนบุรีได้พิเคราะห์แล้วเห็นว่า น.ส.สุดาวดีในฐานะจำเลยมีการกระทำความผิดจริงตามฟ้อง แต่ไม่เคยต้องโทษดำเนินคดีมาก่อน และมีฐานะทางบ้านยากจน อยู่ระหว่างการศึกษา ไม่มีรายได้ จึงให้รอกำหนดโทษน.ส.สุดาวดีเป็นเวลา 2 ปี โดยให้มารายงานตัวตามที่ศาลกำหนด ทั้งนี้หากในระยะเวลาที่รอกำหนดโทษ 2 ปี น.ส.สุดาวดีไม่มีการกระทำความผิดจะถือว่าไม่มีโทษ ไม่มีประวัติต้องโทษใด ๆ ทั้งสิ้น
ด้านน.ส.สุดาวดี กล่าวว่า ภายหลังจากฟังคำพิพากษา รู้สึกดีใจมากที่ศาลอาญาธนบุรีมีความกรุณา อนาคตต่อไปคงไม่มีการนำซีดีเก่าไปขายแล้ว โดยจะกลับไปเรียนต่อให้จบ ทั้งนี้ช่วงระหว่างที่โดนจับ ยอมรับว่าเครียดมาก ต้องกินยาคลายเครียดตลอด เพื่อที่จะให้นอนหลับได้ อีกทั้งตนยังมีภาระที่จำเป็นต้องดูแลพ่อที่ไม่สบายอีกด้วย อยากฝากเตือนคนที่ยังมีการลักลอบนำซีดีเก่าไปขายอยู่ว่า ให้เลิกอย่าไปขาย เพราะหากถูกจับกุม จะมีโทษที่หนักมาก มีการปรับเงินเป็นหลักแสน