เมื่อ 23 พ.ย. น.พ.สมชัย ภิญโญพรพาณิชย์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ(สบส.) กระทรวงสาธารณสุข
กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุม โครงการพัฒนาบุคลากรด้านกฎหมายธุรกิจบริการสุขภาพปีงบประมาณ 2554 ที่รร.เจ้าพระยาปาร์ค กรุงเทพฯ ว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อดำเนินการตามยุทธศาสตร์ทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางสุขภาพ นานาชาติ หรือ Medical Hub จะเน้นยุทธศาสตร 4 ด้าน คือ
1.การรักษาพยาบาลโดยไม่ให้มีผลกระทบต่อคนไทย 2.ธุรกิจส่งเสริมบริการสุขภาพ ต้องเร่งยกระดับมาตรฐานสปาไทย โดนเฉพาะเรื่องคุณภาพ 3.การแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก 4.การสนับสนุนสมุนไพรไทยและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย ซึ่งในส่วนของ สบส. นั้นทาง สธ. ได้มอบหมายให้หาทางเพิ่มศักยภาพของสปาไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก แต่ขณะนี้ปัญหาที่พบกับธุรกิจสปาไทยคือ มีผู้เปิดธุรกิจสปาแอบแฝงขึ้นจำนวนมาก โดยเฉพาะจำพวก สปาที่มีการโฆษณาว่านวดโดยสาวสวย พริตตี้ ซึ่งทางสบส. ห่วงว่าสปาในลักษณะดังกล่าวอาจจะมีการพัฒนาไปจนมีการขายบริการทางเพศใน ลักษณะเดียวกับอาบอบนวด ได้ จึงต้องมีการหารือเพื่อหาแนวทางป้องกันซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือจากเจ้า หน้าที่ตำรวจด้วย
น.พ.ภัทรพล จึงสมเจตไพศาล ผอ.สำนักงานส่งเสริมธุรกิจบริการสุขภาพ สบส. กล่าวว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวนั้น จะครอบคลุมไปถึงธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ
เช่น ฟิตเนส ศูนย์บริการความงาม ลดความอ้วน ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาเกิดปัญหาในแง่ของการรับบริการที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวังของ ผู้รับบริการ และบางครั้งยังทำให้ผู้รับบริการได้รับบาดเจ็บจากเครื่องมือที่ขาดมาตรฐาน และจะต้องอาศัยกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคในการให้ความช่วยเหลือ แต่ร่างพ.ร.บ.นี้จะเน้นการป้องกันก่อนเกิดปัญหา โดยจะคุมมาตรฐาน 5 ด้าน คือ สถานที่ ผู้ดำเนินการ ผู้ให้บริการ การบริการ และความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ผ่านการทำประชาพิจารณ์ทั่วประเทศแล้ว ส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าควรมีกฎหมายดังกล่าว