รวบแล้วโจรบุกยกเซฟนับล้าน บ้าน'จิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ' นักร้องดัง
ตร.บุกจับได้ที่อพาร์ตเมนต์ย่านบาง แค มือฉกให้การวันเกิดเหตุเห็นที่บ้านนักร้องไม่มีใครอยู่และปิดไฟมืดหมด จึงปีนรั้วเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สิน พบตู้เซฟขนาดเล็กจึงเอาใส่กระสอบแล้วแบกออกมาขึ้นรถจยย.ขับผ่านยามหน้าหมู่บ้านแบบสบายๆ ก่อนเอาทรัพย์สินเครื่องประดับภายในไปขาย เอาเงินไปซื้อรถเก๋งขับ ก่อนถูกจับ ด้านลิเกสาวระบุยังขาดของกลางอีกหลายรายการ ทั้งกำไลเพชร แหวนเพชร มูลค่าหลายแสน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 พ.ย. พ.ต.อ. เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
พ.ต.ท.ธีรพรรดิ์ บัณฑิโตหิรัญโชติ รองผกก.สส. พ.ต.ต.วิศิษฏ์ มะอักษร สว.สส. นำกำลังจับกุมนายไพโรจน์ บุญเรือง อายุ 41 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนเลขที่ 114 หมู่ 1 ต.นพรัตน์ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี พร้อมด้วยของกลางแหวนเพชร เครื่องเพชร และทองรูปพรรณ หลายรายการ
พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ กล่าวว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.30. น.วันที่ 11 พ.ย. พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง
รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านของน.ส.สุรางค์ ผิวอ่อน หรือจิ้งหรีดขาว วงศ์เทวัญ ลิเกและนักร้องลูกทุ่งชื่อดัง อายุ 37 ปี ที่บ้านเลขที่ 29/1427 หมู่บ้านวรารักษ์ ซ.5 หมู่ 2 ต.คลองสาม อ.คลอง หลวง จ.ปทุมธานี ได้ทรัพย์สินจำพวกเพชรทองไปหลายรายการรวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือนายไพโรจน์ ปัจจุบันพักอยู่อุษณีย์ อพาร์ตเมนต์ ซอยเพชรเกษม 92/2 แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ออกแกะรอยติดตามจับกุมตัวนายไพโรจน์ได้ที่หอพักดังกล่าว พร้อมของกลางจำนวนหลายรายการตรงกับที่จิ้งหรีดขาวแจ้งความไว้
จากการสอบสวนนายไพโรจน์รับสารภาพว่า เข้าไปลักทรัพย์ตู้เซฟที่บ้านของจิ้งหรีดขาว
เนื่องจากในวันเกิดเหตุเห็นว่าบ้านไม่มีคนอยู่ และภาย ในบ้านปิดไฟหมด จึงปีนรั้วเหล็กเข้า ไปด้าน ในจากนั้นใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาตัดกุญแจเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินทั้งชั้นบนและชั้นล่าง โดยพบตู้เซฟอยู่ในห้องนอน เป็นตู้เซฟขนาดเล็กน้ำหนักไม่มาก จึงยกใส่กระสอบผ้าสำหรับเก็บชุดหางเครื่องที่วางอยู่หน้าบ้าน นำขึ้นรถจักรยานยนต์ขับผ่านตู้ยามหน้าหมู่บ้านไปได้สบายๆ กระทั่งถึงห้องพักอพาร์ตเมนต์ได้ใช้เครื่องมืองัดแงะเปิดตู้เซฟนำทรัพย์สินไปขายตามร้านในเขตกรุงเทพฯ นำเงินไปซื้อรถเก๋งมาขับ กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว
ด้านน.ส.สุรางค์ หรือจิ้งหรีดขาว กล่าวว่า ดีใจที่ตำรวจจับกุมคนร้ายได้และรู้สึกสบายใจขึ้น
เนื่องจากตั้งแต่หลังเกิดเหตุรู้สึกไม่สบายใจถึงขั้นคิดขายบ้านหลังนี้ไปหาที่อยู่ใหม่ที่ปลอด ภัยกว่า เพราะเสียดายทรัพย์สินมีค่าที่เก็บเงินซื้อจากการเล่นคอนเสิร์ตมาหลายปี จากการตรวจสอบทรัพย์สินพบว่ายังมีกำไลเพชรมูลค่ากว่า 300,000 บาท รวมทั้งแหวนเพชรอีก 3 วง วงละ 70,000 บาท รวม 210,000 บาท และอีกหลายรายการที่ยังไม่ได้คืน จึงขอให้ตำรวจช่วยขยายผลว่าผู้ต้องหานำกำไลเพชรและแหวนเพชรไปขายที่ไหนเพื่อติดตามกลับคืน เพราะทรัพย์สินเหล่านี้มีคุณค่ากับตนมาก และขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยเหลือเผยแพร่ข่าวสาร ทำให้เวลาไปแสดงคอนเสิร์ตได้รับการถามไถ่และเป็นห่วงเป็นใยจากแฟนๆ อย่างมาก