แจ้งไปล้างรถ กล่องเครื่องเพชรหาย

เมื่อเวลา 22.45 น. วันที่ 22 พ.ย. ร.ต.ท.นิรภัย ธะกอง พ.ง.ส.(สบ.1) สน.ห้วยขวาง 

รับแจ้ง จากน.ส. วรวลัญช์ สอนสะอาด อายุ 32 ปี เจ้าของร้าน แว็กซ์เบอรี่คาร์แคร์ สาขาเหม่งจ๋าย เลขที่ 999/246 ถ.ในหมู่บ้านรัชดานิเวศน์ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง ว่ามีลูกค้าเข้ามาล้างรถที่ร้านแล้วแจ้งว่า ทรัพย์สินมูลค่าหลายแสนบาทภายในรถสูญหายไป ขอให้มาตรวจสอบด้วย หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และรีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พาติกรณ์ ศรชัย สวป.สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน

 น.ส.เมธินี ณ หนองคาย อายุ 32 ปี ผู้เสียหาย เจ้าของรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด สีบรอนซ์เงิน ทะเบียนป้ายแดง ธ-1917 กทม. ให้การว่า

ตนพร้อมกับ นายมาลิค เมเนสซ่า อายุ 28 ปี แฟนหนุ่มชาวต่างชาติ ได้นำรถมาล้างดูดฝุ่นทำความสะอาดที่คาร์แคร์ แห่งนี้เมื่อตอนประมาณ 19.00 น. ในราคา 180 บาท หลังจากทำความสะอาดเสร็จ เวลา 19.30 น. ก็ได้ขับรถออกไปเพื่อทำธุระต่อ ระหว่างทางก้มหยิบกล่องเครื่องประดับซึ่งเป็น กล่องกำมะหยี่สีดำ ที่ตนวางซุกซ่อนเอาไว้ใต้เบาะนั่งคนขับเพื่อจะนำเครื่องประดับมาสวมใส่ แต่กลับพบว่ากล่องเครื่องประดับของตนหายไปทั้งกล่อง โดยภายในประกอบด้วยทรัพย์สินมีค่าหลายรายการ อาทิ สร้อยเพชรพร้อมจี้ กำไลเพชร สร้อยข้อมือทองคำ และทองคำแท่ง รวมมูลค่าประมาณ 3 แสนบาทเศษ จึงรีบขับรถกลับมาที่คาร์แคร์เพื่อแจ้งให้กับนางสาววรวลัญช์ เจ้าของคาร์แคร์ดังกล่าวทราบ

 ด้านนางสาววรวลัญช์ ให้การว่า ลูกค้าได้นำรถมาทำความสะอาดช่วงเวลาประมาณ 1 ทุ่ม 

โดยมีคนงานเข้าทำความสะอาดรถประมาณ 5 คน ใช้เวลาประมาณ ครึ่งชั่วโมง ก่อนที่ลูกค้าจะขับรถออกไป หลังจากนั้นช่วงประมาณ 3 ทุ่ม ลูกค้าก็ได้ขับรถกลับเข้ามาแจ้งว่าของมีค่าในรถมูลค่าหลายแสนหายไป ตนก็ตกใจเพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ จึงรีบเรียกพนักงานทั้งหมดมาสอบถามซึ่งก็ไม่มีใครทราบเรื่องกล่องเครื่องประดับดังกล่าวตามที่ น.ส.เมธินี กล่าวอ้าง ตนจึงพาผู้เสียหายขึ้นไปค้นยังห้องพักคนงานแต่ก็ยังไม่พบทรัพย์สินที่สูญหาย เพื่อความบริสุทธิ์ใจตนจึงได้ให้ผู้เสียหายแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านคาร์แคร์ที่เกิดเหตุ แต่ก็ไม่พบว่ามีลูกจ้างในร้านคนใดมีพฤติกรรมต้องสงสัย

อย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวลูกจ้างร้านคาร์แคร์ทั้งหมดรวมถึง น.ส.เมธินี ผู้เสียหายไปสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อเป็นเบาะแสในการสืบสวนหาความจริงและหาตัวผู้การทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป