'ตั๊ก-ทราย'โต้รีดลูก ผงะพันศพ สัปเหร่อแฉซุกอีก
อยู่ในสองช่องใกล้กัน พม.รุดดู11เด็กรอดตาย ที่ผู้ต้องหา-แม่รับเลี้ยง สธ.ชี้ทำแท้ง1.5แสน/ปี
นางเอกโต้ - "ตั๊ก-บงกช" นางเอกสาวพร้อมเด็กหญิงที่รับเลี้ยงจากแม่ที่พยายามทำแท้ง ยืนยันว่าไม่ใช่คนใจร้ายถึงขั้นไปทำแท้งกับคลินิกเถื่อนของน.ส.ลัญฉกร ส่วน "ทราย-เจริญปุระ" ก็เปิดใจที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งโต้ข่าวเช่นกัน เมื่อวันที่ 18 พ.ย. |
จากคดีสะเทือนสังคมพบศพทารกทำแท้งมากถึง 348 ศพซุกในโกดังเก็บศพวัดไผ่เงิน โชตนาราม ย่านบางคอแหลม กทม. พบว่ามาจากคลินิกทำแท้งซึ่งจ้างสัปเหร่อวัดให้นำมาเผาทิ้ง แต่ต่อมาเมรุเกิดเสียจึงทิ้งศพเอาไว้จนส่งกลิ่นเหม็นกระทั่งมีคนมาพบ เจ้าหน้าที่เข้าสืบสวนพบว่าเกี่ยวข้องกับสัปเหร่อวัด และสาวไปถึงต้นตอคลินิกทำแท้งเถื่อนย่านหนองแขม กทม. พร้อมจับกุมน.ส.ลัญฉกร หรือโก๊ะ จันทมนัส อายุ 33 ปี คนทำแท้ง ให้การสารภาพว่าศพบางส่วนส่งไปที่วัดดังกล่าว นอกจากนี้ ยังอ้างว่าเคยทำแท้งให้กับนางเอกชื่อดังถึง 3 คน ทำให้ตั๊ก-บงกช คงมาลัย และทราย เจริญปุระ 2 นางเอกสาวออกมาโต้ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันที่ 18 พ.ย. พนักงานสอบ สวน สน.วัดพระยาไกร นำตัวนายสุเทพ ชะบางบอน อายุ 46 ปี และนายสุชาติ ภูมี สองสัปเหร่อ วัดไผ่เงินโชตนาราม มาสอบสวนเพิ่มเติม โดยนายสุชาติ สารภาพว่านำศพทารกไปซุกซ่อนไว้ที่โกดังเก็บศพของวัดเป็นเวลานานกว่า 1 ปีแล้ว โดยรู้จักกับน.ส.ลัญฉกร เมื่อประมาณเดือนพ.ย.52 ขณะที่ทำงานอยู่หน่วยกู้ภัย ที่ผ่านมาน.ส.ลัญฉกร จะขี่รถจักรยานยนต์นำศพทารกไปมอบให้ที่หน้าวัดไผ่เงินฯ ครั้ง ละ 3-4 ถุง จากนั้นนำไปโยนไว้ในช่องเก็บศพ ส่วนสาเหตุที่ไม่ทำลายเนื่องจากยังไม่ทราบว่าจะนำไปทำลายอย่างไร จึงเก็บไว้กระทั่งซากทารกมีจำนวนมากจนล้นออกมาเป็นเหตุให้มี ผู้พบเห็น
พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร กล่าวว่า การดำเนินคดีนี้ทางพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) ได้ประ ชุมร่วมกันตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ให้โอนคดีทั้งหมดไปยังสน.หนองแขม จุดเกิดเหตุ
ที่สน.หนองแขม พ.ต.ท.สมธิชัย กลีบบัว พนักงานสอบสวน (สบ 2) เบิกตัวน.ส.ลัญฉกร มาพิมพ์ลายนิ้วมือและทำประวัติ พร้อมสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและสวัสดิการบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครปฐม เดินทางมาเพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับเด็กที่รอดชีวิตจากการทำแท้ง และผู้ต้องหาเลี้ยงดูเอาไว้
เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมฯ กล่าวภายหลังการพูดคุยกับผู้ต้องหาว่า เด็กที่อยู่ในความอุปการะมีจำนวน 7 คน อายุระหว่าง 9 เดือน - 8 ขวบ และมารดาผู้ต้องหาดูแลอีกจำนวน 4 คน อยู่ที่บ้าน อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ผู้ต้องหายืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าจะขอเลี้ยงดูเอง ซึ่งทางผู้ต้องหาแจ้งว่า หลังเด็กรอดชีวิตก็ได้แจ้งเป็นมารดา
แหล่งข่าวเปิดเผยว่าสำหรับเรื่องของดารานักแสดงที่ทำแท้งซึ่ง น.ส.ลัญฉกร ให้การนั้น เป็นเพียงคำกล่าวอ้างที่ผู้ต้องหาได้ยินมาจากแม่อีกทีหนึ่งในช่วงปีཫ-48 โดยขณะนั้นน.ส.ลัญฉกรพักอยู่ที่บ้าน และแม่ซึ่งทำงานเป็นผู้ช่วยคนทำแท้ง โทรศัพท์มาบอกว่ามีดารามาทำแท้งให้รีบมาดู แต่ก็ไม่ได้ไปดู เพียงแต่ฟังจากคำบอกเล่าของมารดาเท่านั้น
อีกพันศพ- สภาพศพในช่องเก็บศพหมายเลข 9-10 ของวัดไผ่เงินโชตนาราม เขตบางคอแหลม กทม. ที่สัปเหร่อสารภาพเพิ่มว่า ยังมีศพทารกเก็บไว้อีกกว่าพันศพ โดยรับจ้างนำมาเก็บซ่อนไว้นานถึง 6 ปีแล้ว |
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังหมู่บ้านธาณี 9 ย่านลาดปลาเค้า ซึ่งเป็นบ้านพักของนางเอกสาว ตั๊ก-บงกช คงมาลัย พบนางเอกสาวกับนางธนาภา ชีพนุรักษ์ มารดา โดยตั๊ก กำลังเตรียมข้าวของเพื่อที่จะบินไปร่วมงานเทศกาลหนังปักกิ่งในวันที่ 19 พ.ย.นี้ ตั๊ก กล่าวว่า หลังจากที่มีข่าวออกไป ก็รับโทรศัพท์แบบไม่หวาดไม่ไหวเพราะว่ามีพี่ๆ สื่อมวลชนโทร.มาสอบถามเป็นจำนวนมาก ซึ่งในตอนแรกคิดว่าจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ แต่ทุกคนก็บอกว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมันมาพาดพิงถึงจึงอยากจะให้ชี้แจง ซึ่งก็บอกไปตามที่เป็นข่าวไปแล้ว และขอปฏิเสธถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าไม่ได้ไปทำอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นบอก
"ก็ไม่รู้ว่าเขาพูดออกมาได้อย่างไงว่ามีตั๊กเข้าไปเกี่ยวข้อง เขาบอกว่าเขาเปิดทำแท้งมาประมาณ 2-3 เดือน แต่ตอนที่ตั๊กคบกับดาจิม ก็เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว เวลามันก็ไม่ตรงกันแล้ว อยากจะบอกอีกครั้งว่าสมมติตั๊กเกิดท้องและก็จะต้องทำแบบนี้จริงๆ จะเลือกคลินิกแบบนี้ทำหรือ บินไปทำเมืองนอกไม่ให้ใครรู้จะไม่ดีกว่าหรือ" นางเอกสาวกล่าว
ตั๊ก-บงกช กล่าวว่า ทุกวันนี้อุปการะเด็กอยู่ถึง 2 คน เอามาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมที่บ้านเป็นผู้หญิงทั้งคู่ คนแรกอายุ 14 ปี ส่วนอีกคนอายุ 2 ขวบครึ่ง คนแรกเกิดจากพ่อแม่อายุแค่ 14 ปี โดยแม่ของเด็กสาวรู้จักกับที่บ้าน จึงมาขอเงินเพื่อไปทำแท้ง แต่ตนกับแม่ห้ามเอาไว้และขอรับมาเลี้ยงดูเองจนถึงทุกวันนี้
"เรื่องนี้ตั๊กอยากจะขอท้าเขาให้ไปสาบานพร้อมกันที่วัดพระแก้วได้เลย เขาจะกล้าหรือเปล่า ยอมรับว่าเครียดเหมือนกันกับเรื่องนี้ แต่คิดว่าทุกอย่างมันก็จะผ่านไปได้ และก็จะมีคนโทร.มาให้กำลังใจเยอะ เรื่องนี้สงสารก็แต่แม่เพราะว่าแม่ไม่สบายอยู่ ก็จะพยายามบอกแม่ว่าไม่ต้องเครียด อย่าคิดมาก" ตั๊ก-บงกช กล่าว
ส่วนแม่ของนางเอกสาว กล่าวว่า วันนี้มีคนโทร.มาหาเยอะเช่นกัน ซึ่งก็บอกไปว่าไม่มีทางที่ตั๊กจะทำแบบนั้นแน่นอน ตั๊กเขาเป็นคนรักเด็ก และก็กลัวเรื่องแบบนี้ เขาเคยพูดว่าถ้าเขามีลูกเขาจะรักลูกให้มากที่สุด เพราะเขาเห็นตนที่เลี้ยงดูเขามาว่าลำบากขนาดไหน เราหอบหิ้วกันมาจนมาทุกวันนี้ ที่ผ่านมาถึงแม้ว่าลูกสาวจะมีข่าวไม่ค่อยจะดีผ่านเข้ามาตลอด แต่เขาก็คงไม่เลวถึงขนาดจะไปทำแท้งได้
ด้านนางเอกสาวทราย เจริญปุระ เป็นอีกคนที่ถูกกล่าวอ้าง ให้สัมภาษณ์ที่ร้าน LI BERTISH SALON CAFE อาร์ซีเอ ว่า คนส่วนใหญ่ที่รู้จักพอทราบข่าวก็จะขำ ทุกคนไม่เชื่อ คนที่รู้จักทราบว่าตนไม่มีแฟนมานานแล้ว คนจะท้องได้ต้องมีแฟนก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่าข่าวออกมาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงหรือเปล่า นางเอกร้อยล้าน กล่าวว่า ข่าวทำให้เสื่อมเสีย แต่ไม่มีแนวโน้มที่จะเป็นความจริงเลย ตนทำงานมานานมากแล้วและถือว่ามีข่าวฉาวน้อยมากๆ ช่วงไหนที่มีแฟนก็จะบอกทุกครั้ง หรือช่วงไหนที่ไม่มีใครก็บอก เปิดเผยตลอดเพราะถือว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
"ข่าวออกมาตอนแรกเป็นตัวย่อแล้วคุณแม่ยังพูดติดตลกเลยว่ามีคนคิดถึงด้วยหรือ ซึ่งมีคนถามแม่ว่ารับประกันได้หรือเปล่าว่าทรายจะไม่ทำเรื่องนี้ แม่บอกว่าแม่รู้ว่าทรายเป็นคนอย่างไร อยู่วงการบันเทิงมานานถ้าจะมีเรื่องก็คงมีนานแล้วไม่รอจนตอนนี้อายุ 30 ปี และทรายคิดว่าทุกคนก็รู้ว่าถ้าคนจะแรงจริงๆ แม่ก็คงเอาไม่อยู่หรอกค่ะ ทรายไม่มีข่าวฉาวมาก่อน ถ้ามีข่าวว่าไปตีกับคนยังจะน่าเชื่อมากกว่า" ทราย กล่าว
สลดใจ - นางสมบัติ สิโนทก สวมกอดเด็กเล็ก 4 คน ซึ่งระบุว่ารอดชีวิตจากการทำแท้งแล้วน.ส.ลัญฉกร จันทมนัส ลูกสาวซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมนำศพทารกไปซุกในวัด นำมาให้เลี้ยงดูที่บ้านพักที่นครปฐม เมื่อวันที่ 18 พ.ย. |
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะฟ้องร้องหมอทำแท้งที่อ้างชื่อหรือไม่ นางเอกสาว เผยว่า คิดว่าชีวิตของเขาแย่พอแล้ว อย่างตั๊ก-บงกช บอกว่าให้สาบานก็ได้ว่าเขาไม่ได้ทำ ตนก็สาบานได้ว่าไม่ได้ทำ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ถึงบอกชื่อเรา 2 คนออกมา ไปวัดสายตาและตัดแว่นดีหรือไม่ เพราะพลาดไปไกลมาก คงไม่เอาเรื่องแน่นอน และไม่แถลงข่าวด้วยมันไม่ใช่ข่าวที่ซีเรียสและไม่ใช่เรื่องจริง ทราบว่าสิ่งที่เขาทำก็คงทำให้ชีวิตเขาไม่ดีอยู่แล้ว ก็ปล่อยไป
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านนางสมบัติ สิโนทก อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6/5 หมู่ 4 ต.บางพระ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม มารดาของน.ส.ลัญฉกร พบว่าปลูกอยู่ด้านหลังวัดติดถนนซอยหลังวัดกลางบางพระ อ.นครชัย ศรี ที่หน้าบ้านปลูกเป็นโรงมุงหลังคากระเบื้อง ภายในโรงเรือนมีกองมะพร้าวแก่ และเปลือกมะพร้าวจำนวนมาก ภายในเนื้อที่ยังมีบ้านชั้นเดียว 2 หลัง อยู่ในเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่
นางสมบัติ กล่าวทั้งน้ำตานองหน้าว่ารู้สึกเสียใจต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ทราบจริงๆ ว่าลูกสาวจะมีพฤติกรรมหรือมีอาชีพนี้ รู้แต่เพียงว่ามีงานทำอยู่ในกรุงเทพฯ ก็ดีใจแต่ไม่เคยซักว่าทำงานอะไร นานๆ จะกลับมาบ้านที ก็ไม่ได้คุยเรื่องงานที่ทำ ถามแต่ทุกข์สุขและเรื่องการเงินเท่านั้นว่าขัดสนไหม แต่ลูกรู้ว่าเป็นคนรักเด็กและสัตว์มาก
ผู้สื่อข่าวถามถึงเด็กที่ลูกสาวทำแท้งและรอดมาได้ นางสมบัติกล่าวว่า ลูกสาวอุ้มเด็กมาฝากเลี้ยงไว้ 4 คน คนโตมีอายุ 9 ขวบแล้วเรียน ป.3 คนที่สอง เรียนชั้น ป.1 คนที่สามเรียนอนุบาล 2 ส่วนคนที่สี่อายุ 9 เดือน ทั้ง 4 คนนั้นรักเหมือนลูกทุกคนส่งเสียให้เรียน เพราะตนมีอาชีพไม่ขัดสนพอเลี้ยงดูได้ทั้งหมด และจะส่งเสียให้เรียนสูงสุดทุกคนด้วย หากถ้าจะมาขอเด็กทั้งสี่คนกลับไปคงยอมไม่ได้ แต่หากเด็กบอกว่ายอมไปก็จะให้ไป เพราะเชื่อว่าเด็กทุกคนก็รักตนเหมือนแม่เช่นกัน
ขณะเดียวกันน.ส.ศรัญญา สวัสกนก หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.นครปฐม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ได้รับการประสานจากทางกรมพัฒนาสังคม ให้มาตรวจสอบถึงความเป็นอยู่ของเด็กและความต้องการของเด็ก หลังจากที่น.ส.ลัญฉกร ถูกจับและสารภาพว่ายังมีเด็กที่ถูกส่งมาเลี้ยงอยู่ที่บ้านมารดา กล่าวว่า ได้เดินทางมายังบ้านของนางสมบัติแล้วในช่วงเช้า แต่ไม่เจอตัวและเด็กๆ ก็ไปโรงเรียน จึงจะมาสอบปากคำใหม่ในวันที่ 19 พ.ย.นี้
น.พ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า แต่ละปีมีหญิงตั้งครรภ์ประมาณ 1 ล้านคน ประมาณการว่าในจำนวนนี้เกิดการแท้งเองราว 1.5 แสนคน และทำแท้งอีก 1.5 แสนคน และมีทารกคลอดใหม่ปีละ 8 แสนคน ซึ่งในส่วนของผู้ที่ทำแท้งส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นและผู้ที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม ไม่มีการวางแผนล่วงหน้า ทั้งนี้ สถิติการทำแท้งไม่ได้มีหน่วยงานใดรวบ รวมเป็นสถิติรายปี กรมอนามัยกำลังพยายามจะทำข้อมูลตรงนี้อยู่
ด้านนายอิสสระ สมชัย รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า ภายหลังที่มีข่าวการจับกุมร้านทำแท้งเถื่อน ทราบข้อมูลว่า มีร้านหรือคลินิกที่ให้คำปรึกษาด้านการวางแผนครอบครัวปิดร้านกันไปหลายแห่งเพื่อหลบหลีกการเข้าไปตรวจค้นของตำรวจ เพราะเบื้องหลังของร้านเหล่านี้มักจะแอบแฝงการรับทำแท้ง ซึ่งมีอยู่หลายร้านทั่วกรุงเทพฯ เรื่องนี้จะประสานให้ทางตำรวจเพิ่มความเข้มงวดในการเข้าไปจับกุม รวมทั้งให้กระทรวงสาธารณสุข กวดขันในเรื่องการออกใบอนุญาตการเปิดให้บริการของร้านหรือคลินิกดังกล่าวด้วย
น.ส.สุเพ็ญศรี พึ่งโคกสูง หัวหน้าศูนย์พิทักษ์สิทธิสตรี มูลนิธิเพื่อนหญิง กล่าวว่า การไปไล่สุ่มจับคนไม่ว่าผู้หญิง คนรับทำแท้งเถื่อนเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ หลักการต้องป้องกันสถานการณ์ท้องแล้วทำแท้ง ซึ่งเกิดจากความไม่รู้ ทุกวันนี้เราพบว่ามีการซ้ำเติมตำหนิคนอุ้มท้อง จนไม่มีทางออก ยิ่งไปไล่ล่าจับกุม ผลกระทบที่ตามมา ผู้หญิงจะทำแท้งด้วยตัวเอง การซื้อยาทางอินเตอร์เน็ตหรือทำแท้งเองด้วยวิธีการต่างๆ เราจะพบความสูญเสียมีคนตายเพิ่มมากขึ้น ถึงเวลาแล้วที่การแก้ปัญหาท้องไม่พร้อมต้องเอาปัญหาจริงๆ มากางออก และป้องกันไม่ให้ผิดพลาดซ้ำซาก ไม่ใช่การตำหนิซ้ำเติม
ช่วงค่ำวันเดียวกัน พ.ต.ท.ดิลก รื่นเนตร สว.สส.สน.วัดพระยาไกร และร.ต.อ.ขวัญชัย แป้นมณฑา รอง สว.สส.สน.วัดพระยาไกร นำตัวนายสุชาติ ภูมี อายุ 38 ปี ผู้ช่วยสัปเหร่อ วัดไผ่เงิน ผู้ต้องสงสัยคดีซุกซ่อนซากศพทารกภายในโกดังเก็บศพวัดไผ่เงินมาสอบปากคำเพิ่มเติม นายสุชาติยอมรับสารภาพว่า รับจ้างซุกซ่อนศพทารกจากการทำแท้งมานาน 6 ปีแล้ว โดยนอกจากในช่องหมายเลข 17 จากทั้งหมด 20 ช่อง ที่ตำรวจพบกว่า 300 ศพ ยังมีศพเด็กอีกนับพันซ่อนอยู่ในช่องหมายเลข 9 และ 10
หลังทราบข้อมูลเพิ่มเติม พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.วัดพระยาไกร เดินทางไปตรวจสอบตามคำรับสารภาพของนายสุชาติ พบว่าตู้เก็บศพหมายเลข 9 และหมายเลข 10 มีสนิมจับเกรอะกรัง มีลูกกุญแจคล้องประตูอยู่ในสภาพเก่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงลองขยับประตูดู ปรากฏว่ากุญแจที่คล้องอยู่ซึ่งถูกสนิมกัดกินก็หลุดออกมา
เมื่อประตูเปิดออกเจ้าหน้าที่ถึงกับตะลึง เนื่องจากพบว่าภายในตู้เก็บศพทั้ง 2 ช่อง มีถุงพลาสติกหลากสี ตู้ละนับพันใบ ใส่อยู่จนแน่นทั้ง 2 ช่อง ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง ภายในถุงพบศพทารกและก้อนเนื้อแห้งกรัง จึงให้ พฐ.มาเก็บไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนที่จะให้พ.ต.ท.ชูศักดิ์ คำทราย พงส.(สบ 3) สน.วัดพระยาไกร เดินทางไปประสานกับตำรวจสน.หนองแขม ประสานข้อมูลเพื่อเตรียมออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ที่ จ.เชียงใหม่ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้ปกครองของเด็กสาว ที่เคยพาไปทำแท้งระบุว่าใน จ.เชียงใหม่ ก็มีคลินิกรับทำแท้ง โดยเท่าที่ทราบมีถึง 3 แห่ง เป็นโรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง และคลินิกชุมชนอีก 2 แห่ง โรงพยาบาลตั้งอยู่กลางเมือง ส่วนคลินิกแห่งหนึ่งอยู่ใกล้กับโรงพัก จะคิดค่าทำแท้งนับเดือนหลังจากที่ประจำเดือนไม่มา หากท้อง 1 เดือนราคา 1,500 บาท ท้อง 2 เดือน 3,000 บาท ท้อง 3 เดือนราคา 7,000 บาท หาก 4 เดือนขึ้นไปจะอยู่ในราคา 9,000 บาท แต่ส่วนใหญ่จะรับทำแท้งให้ผู้หญิงท้องในช่วง 1-3 เดือน เพราะหากเด็กในครรภ์อายุเกิน 4 เดือนจะเป็นอันตรายกับแม่เด็ก
"เมื่อเข้าไปที่คลินิกจะมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษา บอกตัวเลขการจ่ายเงินชัดเจนตรงไปตรงมา ขณะที่เข้าไปปรึกษานั้นพบผู้หญิงหลายรายนั่งรอทำแท้งกันอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแนะนำอีกว่าหากที่คลินิกแห่งนี้คนเต็มก็ให้ไปใช้บริการที่อื่น หรือไปที่โรงพยาบาลซึ่งจะดูแลดีกว่าแต่ค่าใช้จ่ายก็จะแพงขึ้น เพราะต้องนอนพักฟื้นอีกระยะ แต่หากทำที่คลินิกก็จะให้กลับบ้านได้เลย
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวคุณภาพดีโดย : หนังสือพิมพ์ข่าวสด