ตำรวจบุกรวบอดีตมือทำแท้งเอี่ยวทิ้งซากสุสานเด็ก แฉแหลกเคยมีดารานางแบบมดังารีดลูก ตำรวจแจ้งข้อหายัดซังเต
จากกรณีตรวจพบซากทารก 348 ซาก ที่คาดว่าถูกทำแท้งแล้วนำมาทิ้งไว้บริเวณโกดังเก็บศพชื่อศาลาสันติสุข วัดไผ่เงิน โชตินาราม ซอยตรอกจันทน์ 43 แยก 20 ถนนจันทน์ แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม เบื้องต้นตำรวจนำตัวนายสุเทพ ชะบางบอน อายุ 46 ปี สัปเหร่อวัดดังกล่าว มาสอบปากคำอย่างละเอียดจนทราบว่า ช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ได้รับจ้างคลินิกวางแผนครอบครัวในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร 3 แห่ง สน.ยานนาวา อีก 2 แห่ง ให้เดินทางไปรับศพทารกมาทำลายหลักฐาน แต่เนื่องจากเมรุของวัดวัดเกิดชำรุดมาได้ประมาณ 1 เดือนกว่าๆ เลยไม่มีที่เผาทำลายต้องเก็บรวบรวมไว้ในช่องเก็บศพหมายเลขที่ 17 ของโกดังดังกล่าว จนศพล้นออกมาทำให้เรื่องแดงขึ้นในที่สุด ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวานนี้ (17 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า
ได้รับรายงานล่าสุด จากการสอบสวนนายสุเทพ พบว่ามีสถานพยาบาลที่เข้าข่ายเป็นสถานที่ทำแท้งเถื่อน 2-3 แห่งในพื้นที่ดังกล่าว ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่จากกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และตำรวจเข้าไปตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้ตนคงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดไปมากกว่านี้ เพราะเกรงว่าผู้ทำผิดจะรู้ตัวได้ ส่วนจะมีการถอนใบอนุญาตสถานพยาบาลหรือไม่นั้น ยังสรุปไม่ได้ต้องรอผลการตรวจสอบก่อน แต่การเปิดสถานบริการแล้วลักลอบทำแท้ง ถือว่าเป็นความผิดอยู่แล้ว ทั้งทางอาญาและกฎหมายกระทรวง แต่หลังจากนี้ตนได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่ต่างๆทุกจังหวัดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตามยอมรับว่าสถานการณ์ทำแท้งเป็นสิ่งที่น่าห่วงมากในปัจจุบันนี้
จากการสอบปากคำนายปรีดี ปัสถาน อายุ 41 ปี วิน จยย.ย่านวัดพระยาไกร ให้การในฐานะพยานแวดล้อมว่า
ก่อนหน้านี้ประมาณปีเศษเคยได้รับการว่างจ้างจากหญิงสาวอายุ 30-35 ปี รวมทั้งกลุ่มวัยรุ่น นับ 10 คนให้พาไปทำแท้งที่ย่านวุฒากาศ โดยหญิงสาวแต่ละรายจะให้ตนรอหน้าคลินิก จากนั้นก็จะมีพยาบาลมาพาตัวขึ้นไปที่ชั้น 2 บางรายก็มีรถเก๋งมารับไปส่งที่ย่านท่าน้ำนนท์ จ.นนทบุรี ตนจะได้รับการจ้างวานแบบเหมาคือต้องไปส่งและรอรับกลับบ้านด้วย เพราะหลังจากเสร็จธุระหญิงทุกรายจะมีอาการอ่อนเพลียและอิดโรย ทั้งนี้เท่าที่ตนทราบมาหญิงสาวที่เคยมาทำแท้งจะได้นามบัตรมาจากคลินิกแห่งหนึ่งย่านสุขุมวิท ซึ่งจะได้รับส่วนลดด้วย
ผู้สื่อรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสุเทพ สัปเหร่อวัดไผ่เงิน ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัย มาทำการสอบปากคำอีกครั้ง
โดยนายสุเทพ ให้การอ้างว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 3 เดือน มีผู้หญิงมาหาที่วัด และยื่นข้อเสนอให้นำของอย่างหนึ่งไปเก็บไว้ที่วัด โดยเป็นถุงห่อหุ้มมาอย่างดีและจะให้เงินค่าจ้างในการฝากครั้งละ 200 บาท จากนั้นก็รับปากนำของมาเก็บให้ ทำมาแล้ว 5 ครั้ง โดยไม่ทราบว่าของข้างในเป็นอะไรกระทั่งมาทราบเรื่องว่าของในถุงเป็นซากทารก แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อทั้งหมดเตรียมเค้นสอบขยายผลหาตัวผู้หญิงคนดังกล่าวซึ่งจะเป็นจุดเชื่อมโยงไปยังคลินิกต่าง ๆ ที่กระทำความผิดเกี่ยวกับการทำแท้งต่อไป
ส่วนที่บริเวณศาลาสันติสุข ภายในวัดไผ่เงิน โชตนาราม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปสังเกตการณ์พบว่าบรรยากาศโดยรอบเป็นไปด้วยความเงียบเหงาวังเวง
หลังจากมีการเคลื่อนย้ายศพทารกทั้ง 348 ศพออกไปแล้วภายในช่องเก็บศพหมายเลข 17 พบเพียงเศษซากผุพังของโลงศพเก่าเท่านั้น ภายในบริเวณวัดพบเพียงประชาชนที่พักอาศัยในชุมชนรอบ ๆ วัดจับกลุ่มพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น บริเวณเมรุเผาศพซึ่งมีการปิดปรับปรุงอยู่มีเพียงคนงาน 2-3 คนทำงานอยู่เท่านั้น
จากการสอบถามพระลูกวัด ทราบว่า หลังเกิดเหตุ พระครูพระครูวิจิตร สรกุล เจ้าอาวาสได้สั่งให้งดสัมภาษณ์กับสื่อและปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่จะพิสูจน์ว่าใครเป็นคนถูกใครเป็นคนผิด และทางวัดเองก็ยังไม่ปักใจเชื่อว่าสัปเหร่อจะมีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดและหากพิสูจน์ออกมาแล้วไม่เกี่ยวข้องทางวัดก็ยังยินดีจะให้ทั้งคู่กลับเข้าทำงานเหมือนเดิม