เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 พฤศจิกายน พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) แถลงผลตำรวจ สน.ดอนเมือง
จับกุมยาบ้ายาไอซ์ซุกซ่อนในรถจอดทิ้งไว้ริมถนนวิภาวดีรังสิต เตรียมลำเลียงสู่ภาคใต้ได้ของกลางยาไอซ์ 10 กิโลกรัม ยาบ้า 200,000 เม็ด อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน 7 นัดในแมกกาซีน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโนเกีย 1 เครื่อง ภายในรถยนต์กระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแมกซ์ สีน้ำตาล คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 70 ล้านบาทหากเล็ดลอดออกไปได้
พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่นำรถขนยาเสพติดมาจอดทิ้งไว้คือนายสุเทพ พรหมวิหาร อายุ 41 ปีทำงานเป็นลูกจ้างประจำแขวงการทาง สำนักทางหลวงที่ 11 ที่อยู่ 40/20 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักข้าราชการแขวงการทางฯ โดยผู้ต้องหาสามารถหลบหนีไปได้ก่อนหน้านี้ โดยเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เวลา 20.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ดอนเมือง รับแจ้งจากสายว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติดล็อตใหญ่ที่ริมถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. โดยจะใช้รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ ซึ่งเป็นของกลางที่ตรวจยึดได้เป็นพาหนะส่งมอบเพื่อนำยาเสพติดมาจำหน่ายในพื้นที่กทม.และปริมณฑล โดยเจ้าหน้าที่นำกำลังไปซุ่มรอเพื่อทำการจับกุม แต่เนื่องจากผู้ต้องหาไหวตัวทันจึงได้หลบหนีไปก่อน พร้อมกับทิ้งรถยนต์คันดังกล่าวไว้ อย่างไรก็ตาม ตรวจสอบภายในรถยนต์พบของกลางทั้งหมดซุกซ่อนอยู่ภายในรถ
จากการตรวจสอบปรากฏว่า รถยนต์คันดังกล่าวมีชื่อผู้ครอบครองคือนายเสนาะ แสงอรุณรัตน์ เป็นเจ้าของแต่ไม่ได้ใช้งาน เนื่องจากเป็นโรคอัมพฤต และได้มอบรถยนต์คันนี้ให้นายสุเทพ พรมวิหาร เกี่ยวข้องเป็นลูกเขย เป็นผู้ใช้รถยนต์มาโดยตลอด โดยที่หน้ากระจกรถยนต์มีสติ๊กเกอร์เข้า-ออกภายในกองทัพอากาศอีกด้วย ทั้งนี้ เวลาต่อมามีนางวารินทร์ แสงอรุณรัตน์ มีศักดิ์เป็นแม่ยายของนายสุเทพ นำกุญแจรถยนต์สำรองมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อตรวจค้น ส่วนนายสุเทพได้หลบหนีไปก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนเชื่อว่านายสุเทพ พรหมวิหาร เป็นผู้นำยาเสพติดและของกลางภายในรถมาเพื่อส่งมอบและจำหน่าย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสอบสวนขยายผลจับกุมนายสุเทพและเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป