เตือน“14 จว.ใต้”ระวังน้ำป่าทะลัก-ดินถล่ม

วานนี้ ( 5 พ.ย.) นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย

กล่าวสรุปรายงานสถานการณ์อุทกภัย ระหว่างวันที่ 10 ต.ค.-ปัจจุบัน (5 พ.ย.) ว่าพื้นที่ประภัยทั้งหมด 39 จังหวัด ราษฎรเดือดร้อน 1,814,851 ครัวเรือน 6,123,457 คน โดยสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 20 จังหวัด ได้แก่ จ.พิจิตร เพชรบูรณ์ ระยอง จันทบุรี ตราด ตาก ชลบุรี ลำพูน เชียงใหม่ สระแก้ว นครนายก กำแพงเพชร พิษณุโลก หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี สมุทรปราการ นครปฐม อุทัยธานี บุรีรัมย์ และ จ.ฉะเชิงเทรา แต่อีก 19 จังหวัดยังประสบอุทกภัย ราษฎร 545,447 ครัวเรือน 1,694,199 คน ได้รับความเดือดร้อน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 6,316,156 ไร่   และมีผู้เสียชีวิต 110 ราย

สำหรับ 19 จังหวัด ที่ยังประสบอุทกภัย แยกเป็นภาคเหนือ 1 จังหวัด คือ จ.นครสวรรค์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด คือ จ.นครราชสีมา ชัยภูมิ ศรีสะเกษ สุรินทร์ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด  และ จ.อุบลราชธานี ภาคกลาง 9 จังหวัด คือ จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นนทบุรี และ จ.ปทุมธานี

อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  ยังกล่าวว่า ส่วนกรณีพายุดีเปรสชั่นบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง เคลื่อนตัวผ่านภาคใต้

ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่นหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ จ.สงขลา สตูล ตรัง นราธิวาส ยะลา ปัตตานี พัทลุง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช  กระบี่ และ จ.ชุมพร ราษฎรเดือดร้อน 213,152 ครัวเรือน 350,905 คน มีผู้เสียชีวิต 30 ราย โดยประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนติดต่อขอความช่วยเหลือทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ขณะเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานว่าขณะนี้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่างอยู่ในเกณฑ์มาก

เพราะยังมีปริมาณน้ำเหนือสมทบกับน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำต่างๆ ไหลผ่านแม่น้ำเจ้าพระยา ประกอบกับวันที่ 6-11 พ.ย.นี้ เป็นช่วงที่น้ำทะเลหนุนสูงสุด  จึงแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร เตรียมการป้องกันภาวะน้ำล้นตลิ่ง โดยให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง รวมถึงติดตามสถานการณ์น้ำเป็นระยะ และปฏิบัติตามประกาศแจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานที่

นอกจากนี้ ยังแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้งที่ลาดเชิงเขา ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำใน 14 จังหวัดภาคใต้

ได้แก่ จ.ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง สตูล ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี และ จ.นราธิวาส เตรียมรับมืออันตรายจากภาวะฝนตกหนัก ในระหว่างวันที่ 5-10 พ.ย.นี้ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักอยู่แล้ว ทำให้หลายพื้นที่มีสภาพอุ้มน้ำ หากมีฝนตกหนักในพื้นที่ดังกล่าว อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม รวมทั้งให้ติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด