(2พ.ย.) นางนวลอนงค์ วงษ์จันทร์ หัวหน้ากองประชาสัมพันธ์ การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือรฟท.
กล่าวถึงสถานการณ์การเดินรถไฟสายใต้ในวันนี้ ว่า ในส่วนของสถานีรถไฟหาดใหญ่ต้องงดเดินขบวนรถหลังเกิดเหตุน้ำไหลท่วมทางรถไฟ เนื่องจากปริมาณน้ำมีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนไม่สามารถให้บริการเดินขบวนรถไฟผ่านไป-มาได้ สำหรับพื้นที่ช่วงสถานีชุมทางทุ่งสง-นครศรีธรรมราช,ช่วงสถานีพัทลุง - สถานีหาดใหญ่ ฝนยังตกหนักอยู่ เจ้าหน้าที่ยังเฝ้าระวังและเตรียมวัสดุซ่อมบำรุงทางเมื่อระดับน้ำลดจะได้พร้อมเข้าพื้นที่ได้ทันที การรถไฟต้องประกาศงดเดินขบวนรถเร็วที่171 และขบวนรถเร็วที่172 ช่วงภาคใต้ตอนล่าง จากสถานีตันหยงมัสกับสถานีสุไหงโกลกเพื่อความปลอด ภัยไป
ส่วนขบวนรถโดยสารที่เดินทางจากกรุงเทพมหานครไปยังภาคใต้เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ยังไม่สามารถเดินทางถึงปลายทางได้
ต้องหยุดขบวนรถไว้ที่สถานีต่างๆประกอบด้วยขบวนรถเร็วที่171(กรุงเทพ-สุไหงโกลก)หยุดรอที่สถานีชุมทางทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 35 (กรุงเทพ-ปาดังเบซาร์) หยุดรอที่สถานีนาบอน จ.นครศรีธรรมราช ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 (กรุงเทพ-สุไหงโกลก) หยุดรอที่สถานีคลองจันดี จ.นครศรีธรรมราช ขบวนรถเร็วที่ 169 (กรุงเทพ-ยะลา) หยุดรอที่สถานีสุราษฎร์ธานี ขบวนรถเร็วที่ 173 (กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช) หยุดรอที่สถานีสุราษฎร์ธานี ขบวนรถด่วนที่ 83 (กรุงเทพ-ตรัง) หยุดรอที่สถานีสุราษฎร์ธานี ขบวนรถด่วนที่ 85 (กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช) หยุดรอที่สถานีสุราษฎร์ธานี ขบวนรถเร็วที่ 167 (กรุงเทพ-กันตัง) หยุดรอที่สถานีสุราษฎร์ธานี
การรถไฟฯได้แจ้งให้ผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์จะเดินทางสามารถติดต่อขอรับเงินค่าโดยสารคืนได้เต็มราคาที่นายสถานีรถไฟทุกแห่ง ทั้งนี้ ขอให้ติดตามความคืบหน้าในการแก้ไขสถานการณ์ทาง Webstie ของการรถไฟฯ ที่ WWW.RAILWAY.CO.TH หรือศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์สายด่วน 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการให้บริการเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปเกาะสมุย,เกาะพะงันและหมู่เกาะต่างๆทางบริษัทเดินเรือ 2 บริษัทคือบริษัทซีทรานส์เฟอร์รี่กับราชาเฟอร์รี่ได้ประกาศหยุดเดินเรือ
ตั้งแต่เวลา 10.00 น. วันนี้ (2 พ.ย.) เนื่องจากในทะเลมีคลื่นลมแรงโดยคลื่นสูงประมาณ 3-4 เมตร บางช่วงสูงมากกว่า 4 เมตร ขณะที่บริเวณริมแม่น้ำตาปีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นทุกแห่ง โดยระดับน้ำเกือบล้นตลิ่งในบางจุดแล้ว รวมทั้งในเขตตัวเมืองสุราษฎร์ธานีที่อยู่ริมแม่น้ำได้อพยพขนย้ายข้าวของไปอยู่ในที่สูงเกือบทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ทางเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีได้นำกระสอบทรายไปแจกจ่ายตามบ้านพักของชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมขังแล้ว ขณะที่ชาวบ้านบางส่วนได้ไปนำกระสอบทรายมาปิดกั้นน้ำกันเอง