จับ2ปากีฯคาสุวรรณภูมิกลืนเฮโรอีน1.5โล
อธิบดีกรมศุลกากร แถลง รวบ 2 ชาวปากีสถาน กลืนเฮโรอีน 100 ก้อน ลงท้อง มูลค่ากว่า4ล้านบาท หวังส่งขายเอเย่นต์ต่อ แต่ไปไม่รอด
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมศุลกากร แถลงข่าว จับกุม นายอิคบาล ซาห์อีน อายุ 51 ปี และ นายโมฮัมมัด ไอรัฟฟาน อายุ 42 ปี ผู้ต้องหา ลักลอบนำเข้าเฮโรอีน ซุกซ่อนภายในร่างกาย โดยการกลืนลงท้อง สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ศุลกากร งานสืบสวนปราบปราม ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภุมิ ได้ติดตามและแสดงตัวตรวจค้นจับกุม ชาวปากีสถาน จำนวน 2 คน ได้ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ที่เดินทางมาจาก กรุงอิสลามาบัด ประเทศปากีสถาน โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 350 เจ้าหน้าที่ ได้นำตัวมาเอ็กซเรย์พบว่า วัตถุต้องสงสัยอยู่ในช่องท้อง จึงให้ทั้งหมดถ่ายวัตถุต้องสงสัยออกมา พบเป็นผงสีขาวครีม และทำการตรวจค้นด้วยน้ำยาทดสอบยาเสพติด ปรากฏ เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือ เฮโรอีน จำนวน 100 ก้อน น้ำหนักประมาณ 1.5 ก.ก. มูลค่าประมาณ 4,600,000 บาท ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่า ทำมาแล้วหลายครั้ง โดยจะรับยามาขายให้กับลูกค้าสัญชาติเดียวกัน ได้ค่าจ้างคนละ 40,000-50,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 หรือ เฮโรอีน ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และเชื่อว่าเป็นขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย ต่อไป
นอกจากนี้ อธิบดีกรมศุลกากร ได้แถลงข่าว จับกุมน้ำยาแอร์ R12 เครื่องสำอาง และสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อาทิ เสื้อผ้า รองเท้า เข็มขัดแบรนด์เนม รวมมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท ตามที่กรมศุลกากร ได้มุ่งเน้นนโยบายสำคัญ ในการเร่งรัด การปราบปรามสินค้าลักลอบ หลีกเลี่ยงอากรข้อห้ามข้อกำกับ และสินค้าละเมิดทรัพย์สิน ทางปัญญา เพื่อความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีปกป้องสังคมและสิ่งแวดล้อม จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนและปราบปราม ร่วมจับกุมผู้กระทำผิด ตั้งแต่เดือนกันยายน ที่ผ่านมา โดยการตรวจค้นสินค้าอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ 3 จุด สำคัญ ที่ ท่าเรือแหลมฉะบัง ท่าเรือกรุงเทพฯ จนกระทั่งนำมาตรวจพบสินค้าผิดกฎหมายจำนวนมาก ตามที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น นอกจากนี้ ยังมีคอนแทคเลนส์ ซึ่งจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ที่ต้องได้รับอนุญาต ซึ่งหากบุคคลใด นำไปใช้ ก็อาจจะส่งผลต่อสายตา หรือ อาจจะทำให้ตาบอดได้
อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวเป็นความผิดฐานลักลอบและนำเข้า หรือ พาของที่ยังไม่ได้เสียค่าภาษี หรือ ของต้องห้าม ต้องกำกัดหรือ ของที่ยังไม่ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง เข้ามาในราชอาณาจักร เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดของกลาง นำส่งกรมศุลกากรเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!