คมชัดลึก :รวบแล้วแม่บ้านมหาภัย อาศัยช่วงพักกลางวัน ทำเนียนเดินขึ้นออฟฟิศดังกลางกรุง 36 แห่ง ฉกมือถือ บัตรเครดิตพนักงานบริษัท ขายต่อทำรายได้กว่า 8 แสน สารภาพทำมาแล้ว 4 ปี อ้างหาเงินใช้จ่าย เลี้ยงลูก-ดูแลแม่ พล.ต.ท.จักรทิพย์กล่าวว่า ชุดสืบสวนจับกุม น.ส.มนัญชยาได้ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ตระเวนลักทรัพย์ลักษณะดังกล่าวมาแล้วตั้งแต่ปี 2549 ตอนแรกทำร่วมกับเพื่อน 3-4 คนจนกระทั่งแยกย้ายกันไป จึงทำเพียงคนเดียว "ทำมาแล้วประมาณ 35 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2549 นำเงินที่ได้ไปใช้จ่ายส่วนตัว และส่งให้ลูกและแม่ที่ต่างจังหวัด ตอนแรกเริ่มขโมยหลายคน ทำกันเป็นกลุ่มๆ แยกกันไปตามที่ต่างๆ ขโมยของมาได้ก็ไปขายแบ่งเงินกัน จนมาเหลือคนเดียวเพราะเพื่อนแยกไปทำที่อื่น หลังกลายเป็นข่าวคงไม่กล้าทำและไม่ได้ติดต่อกันจึงทำคนเดียวมาตลอด จนกระทั่งถูกตำรวจจับได้ในวันนี้ ที่ผ่านมาเคยติดคุกมาแล้ว 1 ครั้งข้อหาลักทรัพย์ สาเหตุที่ทำเพราะตกงานไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งและทำง่าย" ผู้ต้องหากล่าวรับสารภาพในที่สุด แหล่งข่าวชุดสืบสวนนครบาล 5 ยังระบุว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า
ในที่สุดตำรวจก็ตามจับมิจฉาชีพที่แต่งตัวเป็นแม่บ้านตระเวนฉกทรัพย์ตามตึกสำนักงานต่างๆ ได้แล้ว
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงผลตำรวจสืบสวนนครบาล 5 จับกุม น.ส.มนัญชยา ศิลาโภชน์ หรือเดียว อายุ 26 ปี ที่มีพฤติกรรมแต่งกายคล้ายแม่บ้าน อาศัยช่วงเวลาพักกลางวัน ลักลอบเข้าไปลักทรัพย์สินของมีค่าในที่ทำการบริษัทบนอาคารสำนักงานต่างๆ ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าและรถไฟฟ้าใต้ดิน ท้องที่ สน.ทองหล่อ สน.ลุมพินี และสน.พญาไท ทำให้พนักงานบริษัทจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน โดยเจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาได้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดหลายจุดที่คนร้ายเข้าไปขโมยของและทรัพย์สิน รวมถึงนำบัตรเครดิตไปรูดซื้อโทรศัพท์มือถือในห้างมาบุญครองไปขายต่อในราคาถูก
หน้าปากซอยเลียบวารี 25 ถนนเลียบวารี แขวงโคกแฝด เขตหนองจอก กทม. โดยแกะรอยจากการลักทรัพย์ครั้งล่าสุดจากกล้องวงจรปิดสำนักงาน ชั้น 12 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาชิดลม ขณะฉวยโอกาสในช่วงเวลาพักกลางวันเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ซึ่งในกล้องวงจรปิดเห็นพฤติการณ์น่าสงสัย เป็นหญิงไทยอายุประมาณ 25-30 ปี สวมเสื้อเชิ้ตคอโปโลสีขาว กางเกงวอร์มสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว ลักษณะคล้ายชุดพนักงานทำความสะอาด หลังก่อเหตุได้นำเอาบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปรูดมือถือยี่ห้อแบล็กเบอร์รี่ 2 เครื่อง
ก่อนหน้านี้เรียน กศน. และไปสมัครเป็นแม่บ้านในสำนักงานต่างๆ ทำได้เพียง 1-2 สัปดาห์ก็ลาออก แล้วไปสมัครที่ใหม่จึงมีเครื่องแบบพนักงานมาใส่ ขณะลงมือจะอาศัยช่วงพักกลางวันเวลาประมาณ 12.00-13.00 น. ไม่มีพนักงานอยู่ เข้าไปเลือกของที่จะขโมยได้โดยง่าย เช่น โทรศัพท์ที่มีราคาแพง บัตรเครดิต กระเป๋าสตางค์ ฯลฯ เมื่อขโมยได้ก็จะเอาไปขายร้านรับซื้อมือถือ หากเป็นบัตรเครดิตก็จะเอาไปรูดซื้อโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี่ไปขายในราคาถูก
เข้าไปลักทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นกระเป๋าสตางค์ และโทรศัพท์มือถือ ภายในที่ทำการบริษัทต่างๆ ที่ตั้งสำนักงานในอาคารดังหลายแห่งทั่วกรุงเทพฯ จนบัญชียาวเป็นหางว่าวรวม 36 แห่ง ได้แก่ สหพัฒนพิบูลย์ มณียา ดิ เอ็มโพเรี่ยม บางกอกทาวเวอร์ รสาทาวเวอร์ ไทยซีซี ลิเบอร์ตี้ คิวเฮ้าส์ สาทร ทิปโก้ สินธร ชินวัตร 1 ซันทาวเวอร์ อื้อจื่อเหลียง เพลินจิต เซ็นเตอร์ แปซิฟิก 2 เดอะเนชั่น สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ยูบีซี ชินวัตร 3 ริชมอนด์ บางนา ธานี ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ อิตัลไทย ชาญอิสระ 2 ออลซีซั่นส์ ปตท.สำนักงานใหญ่ สาทรซิตี้ ทาวเวอร์ ลุมพินีทาวเวอร์ ห้างโลตัส พระรามที่ 4 เอ็มไพน์ 285 อโศก ยิปซั่ม ช้าง เซ็นทรัลชิดลม 2 ครั้ง และอาคารไม่ทราบชื่ออีก 2 แห่ง ย่านเอกมัย และประตูน้ำ นำตัวส่ง สน.ทองหล่อ ดำเนินคดีต่อไปรวมแล้วนำทรัพย์สินไปขายได้เงินกว่า 8 แสนบาท
จับแม่บ้านตระเวนฉกทรัพย์36อาคารทั่วกรุง
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!