ตร.ตะครุบยกแก๊งลักรถจยย.ในกทม.-ปริมณฑล ออกตระเวนโจรกรรมตามใบสั่ง เจอเหยื่อขัดขืนจ่อยิงตายอนาถ
วันนี้ (20 ต.ค.) ที่บช.น. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น. พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รองผบก.น.2 แถลงจับกุมแก๊งโจรกรรมรถจยย.โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่และยิงเจ้าของถึงแก่ความตาย คือ นายเอกลักษณ์ เชื้อกลางใหญ่ หรือนายรุ่งสุริยา ศรีสุวรรณ อายุ 26 ปี หัวหน้าแก๊ง นายณรงค์ศักดิ์ สุขศรี อายุ 20 ปี และนายสุพิพัฒน์ ต้องประสงค์ อายุ 25 ปี พร้อมปืนขนาด.45 มม. พร้อมกระสุน 44 นัด ปืนขนาด 9 ม.ม. 2 กระบอก กระสุน 60 นัด กระสุนขนาด.380 ซูเปอร์ 50 นัด รถเก๋ง โตโยต้ายาริส 1 คัน พร้อมอุปกรณ์งัดแงะจำนวนหนึ่ง โนตบุค 1 เครื่อง และรถจยย. 5 คัน
โดยจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้บริเวณด่านทางหลวงสิงห์บุรี ถนนสายเอเซีย พื้นที่อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เช้ามืดที่ผ่านมาขณะกำลังหลบหนี หมายจับข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืนจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายตามหมายจับจังหวัดมีนบุรี ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 จับกุมได้ในพื้นที่กทม. ในบ้านเช่าซอยโชคชัยร่วมมิตร และแฟมิลี่เฮ้าท์อพาร์ตเมนต์
พล.ต.ท.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากการสืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาออกตระเวนลักรถจยย.ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ตามใบสั่งมานานแล้ว โดยมีนายเอกลักษณ์ เป็นคนรับงาน จากนั้นจะสั่งให้ลูกน้องออกตระเวนโจรกรรมรถจยย. เฉลี่ยสัปดาห์ละ 3 คันทำมากว่า 10 เดือน ทำมาแล้วกว่า 100 คัน เมื่อได้รถมาก็จะดัดแปลงในบ้านเช่า แล้วส่งขายให้ผู้รับซื้อราคาคันละ 1-1.2 หมื่นบาท โดยเปลี่ยนสถานที่เช่าบ้านในการดัดแปลงรถไปเรื่อยๆเพื่อไม่ให้เป็นที่ต้องสงสัย เมื่อได้เงินมาก็จะนำไปใช้หนี้สินพนันบอล
ผบช.น. กล่าวต่อว่า นายเอกลักษณ์และพวกเป็นบุคคลที่ทางศูนย์โจรกรรมรถกองบัญชาการตำรวจนครบาลต้องการตัวอยู่ และเคยถูกดำเนินคดีความผิดลักทรัพย์แล้วหลายครั้งแต่ยังมีพฤติกรรมในการก่อเหตุดังกล่าวอยู่ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายถึงแก่ความตายขณะโจรกรรมรถ จยย.ในหอพักแห่งหนึ่ง ท้องที่ สน.โคกคราม ซึ่งจะนำตัวดำเนินคดีและขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป