บุกจ่อยิงเศรษฐินีเกาะสมุยเมียนักธุรกิจอังกฤษ

โจรใจอำมหิต บุกจ่อยิงแสกหน้าเมียนักธุรกิจชาวอังกฤษ เศรษฐินีเจ้าของธุรกิจบ้านเช่า ดับสยองคาคฤหาสน์หรูบนเกาะสมุย

วันนี้ (24 ก.ย.) พ.ต.ท.พงษ์ขจร สุกกสังข์ พงส.สบ. 2  สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมา รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 141/131 หมู่ 6 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จึงไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.ท.ไพฑูรย์ กระจะจ่าง รอง.ผกก.สส. พ.ต.ท.ไพโรจน์ ไพรวัน สว.สส. พ.ต.ต.ยุทธนา ศิริสมบัติ สวป. กำลังฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่เวรวิทยาการ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสงเคราะห์เกาะสมุย

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหลังใหญ่ปลูกอยู่บนเนื้อที่กว่า 5 ไร่ และมีบ้านแบ่งให้เช่าอีก 3 หลัง และจากการตรวจสอบบนห้องนอนชั้น 2 บ้านหลังเกิดเหตุ พบศพ น.ส.สมพร หรือเม หงส์ทอง อายุ 29 ปี เจ้าของบ้าน นอนจมกองเลือดอยู่ข้างเตียงนอน สภาพนุ่งกางขาสั้น สวมเสื้อสายเดี่ยวสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซองเข้าบริเวณปาก กระสุนทะลุท้ายทอย มีเลือดและมันสมองกระจาย ส่วนภายในห้องพบร่องรอยข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจายเกลื่อน เบื้องต้นทราบว่า สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 3 บาทของผู้ตายสูญหายไป

จากการสอบสวนทราบว่า น.ส.สมพร เป็นชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ มีนิสัยเป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้าน ส่วนสามีนักธุรกิจชาวอังกฤษ เพิ่งเดินทางกลับไปต่างประเทศ และปกติจะพักอาศัยอยู่กับลูกชาย วัย11 ปี เพียงลำพัง 2 คน โดยมีเพื่อนสามีชาวต่างชาติ มักจะแวะเวียนเข้าออกมาสังสรรค์เล่นไพ่ และดูดวงเป็นประจำ
 โดยก่อนเกิดเหตุ น.ส.สมพร ได้ขับรถไปส่งลูกชายที่โรงเรียน แล้วกลับมาที่บ้านพักจนกระทั่งถึงช่วงเย็น ลูกชายเห็นว่ามารดาไม่ได้ขับรถไปรับ จึงอาศัยรถรับส่งของโรงเรียนกลับบ้านพัก และพบมาว่า ประตูบ้านถูกเปิดทิ้งไว้ โดยมีลูกกุญแจเสียบคาอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน จึงรีบขึ้นไปดูบนบ้าน และพบว่ามารดาถูกทำร้ายเสียชีวิตแล้ว โดยมีข้าวของถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย จึงแจ้งญาติ ๆ พร้อมแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ 

ด้าน พ.ต.ท.พงษ์ขจร เจ้าของคดี เปิดเผยว่า ผู้ตายมีฐานะดีเข้าขั้นเศรษฐี มีบ้านแบ่งให้เช่าหลายหลัง ส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายพักอาศัยอยู่ในบ้านเพียงคนเดียว แล้วมีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ทุบกระจกหน้าต่างหลังบ้าน บุกเข้ามาพยายามลักทรัพย์ หรือชิงทรัพย์ แต่พบผู้ตายอยู่บ้านเพียงลำพัง จึงบังคับเอาทรัพย์สิน แต่ผู้ตายพยายามขัดขืนต่อสู้ จึงถูกทำร้ายจนเสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม แล้วรื้อค้นทรัพย์สินหลบหนีไป อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อไว้ใช้เป็นแนวทางติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป