ผัวเมียไล่ตีกันลูกพลัดมือดับ หัวกระแทกพื้นสิ้นใจ

เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 19 พ.ย. ร.ต.ต.ธวัชชัย จิตตรีธาตุ พงส.(สบ 1) สน.ประชาชื่น รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น ให้ไปตรวจสอบเหตุเด็กทารกเสียชีวิตผิดธรรมชาติ เนื่องจากร่างกายบอบช้ำและสมองได้รับความกระทบกระเทือน เมื่อไปถึงโรงพยาบาลพบศพ ด.ช.วธันญู ดาบุดดี หรือน้องอุลตร้า วัย 1 เดือนเศษ ถูกห่อพันไว้ด้วยผ้าขนหนูสีขาว ตรวจดูเบื้องต้นพบว่าบริเวณศีรษะด้านหลังยุบน่วมตามลำตัวมีรอยเขียวช้ำเป็นจ้ำหลายแห่ง

สอบถามผู้เกี่ยวข้องทราบว่าเด็กถูกนำตัวส่งโรง พยาบาลในลักษณะบอบช้ำอย่างหนัก ตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันที่ 18 พ.ย. โดยมีนายบุญทวี ดาบุดดี อายุ 17 ปี บิดาของเด็ก พร้อมญาติๆเป็นผู้นำส่ง อ้างว่าเด็กหลุดจากอ้อมอกของ น.ส.สุรีรัตน์ นูมหันต์ อายุ 17 ปี ผู้เป็นแม่ หล่นลงศีรษะกระแทกพื้น เหตุเกิดที่แฟลตไม่มีชื่อเลขที่ 29/1 ถนนประชาชื่น ซอย 2 แขวงและเขตบางซื่อกทม. แพทย์รับตัวไว้อยู่ในการดูแลอย่างใกล้ชิด แต่เนื่องจากอาการหนักเกินกว่าจะเยียวยารักษา จึงเสียชีวิตลงเมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากที่เกิดเหตุอยู่ในท้องที่ สน.เตาปูน ร.ต.ต.ธวัชชัยจึงประสานไปยัง พ.ต.ท.สุเอก ฉินธนทรัพย์ พงส.(สบ 2) สน.เตาปูน ติดต่อผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ประกอบด้วยนายบุญทวี น.ส. สุรีรัตน์ รวมทั้งนายบุญเลิศ ดาบุดดี อายุ 45 ปี บิดาของนายบุญทวี ไปสอบปากคำที่ สน.เตาปูน ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ส่วนศพน้องอุลตร้าถูกนำส่งสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายต่อไป

ต่อมาเวลา 13.30 น. นายบุญทวี น.ส.สุรีรัตน์ และนายบุญเลิศเข้าให้ปากคำต่อหน้า พ.ต.ท.สุเอก และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องในคดีที่เกี่ยวข้องกับเยาวชน ประกอบด้วยพนักงานอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ ทนายความและนักจิตวิทยา เริ่มจาก น.ส.สุรีรัตน์ให้การว่า ในคืนวันเกิดเหตุนอนอยู่กับบุตรชายเพียง 2 คน ตกดึกนายบุญเลิศ บิดาของสามี ที่มีอาการเมาสุรา แวะไปหาที่ห้องถามหานายบุญทวี เมื่อบอกว่านายบุญทวีออกไปข้างนอกยังไม่กลับ นายบุญเลิศก็ขอนอนค้างคืนด้วย อ้างว่าเมาไปต่อไม่ไหว ตนก็ไม่ว่าอะไร

แต่ออกไปตามเพื่อนชื่อนายภาณุมาอยู่เป็นเพื่อนอีกคน เพราะเกรงจะมีปัญหา ตามมา ต่อมาราวตีสามนายบุญทวีกลับไปถึงห้องในสภาพเมามายเช่นกัน พอเห็นนายภาณุอยู่ในห้องก็โกรธคิดระแวงว่าตนนอกใจ ตรงเข้ามาเล่นงานตนกับนายภาณุ โดยไม่ฟังเหตุผล ระหว่างนั้นนายบุญเลิศพ่อผัวก็ลุกขึ้นมาห้ามปรามพร้อมกับต่อว่าบุตรชาย ทำให้นายบุญทวีไม่พอใจ

ก่อนที่พ่อกับลูกจะจับคู่ทำร้ายร่างกายกันเอง กระทั่งมีคนหนึ่งซึ่งจำไม่ได้ว่าเป็นใครล้มลงไปทับน้องอุลตร้าที่นอนอยู่บนเบาะจนร้องไห้จ้า ตนเห็นท่าไม่ดีจึงอุ้มลูกหนีออกมานอกห้อง แต่นายบุญทวียังไล่ตามไปทันบริเวณลานจอดรถด้านล่าง พร้อมกับกระชากแขน ทำให้น้องอุลตร้าที่อยู่ในอ้อมอกร่วงตกลงไปกระแทกพื้น

น.ส.สุรีรัตน์ให้การต่อว่า ในเวลานั้นมีเพื่อนร่วมแฟลตที่เห็นเหตุการณ์เข้าไปช่วยอุ้มน้องอุลตร้าขึ้นมา ตนเห็นว่ามีคนดูแลลูกแล้ว จึงวิ่งหนีเอาตัวรอดออกมา ต่อมาถึงทราบว่าลูกบอบช้ำหนักต้องเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตลงดังกล่าว ขณะที่นายบุญทวีให้การรับสารภาพสอดคล้องกับคำให้การของ น.ส.สุรีรัตน์ พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และเนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชนจึงนำตัวส่งสถานพินิจคุ้มครองเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานครหรือบ้านเมตตาต่อไป

วันเดียวกัน พ.ต.ท.พัฒนา กิจไกรลาศ นพ.(สบ 3) รพ.ตร. แพทย์ผู้ทำการผ่าชันสูตรศพ ด.ช.วธันญู เปิดเผยถึงสาเหตุการเสียชีวิตของน้องอุลตร้าว่า เกิดจากสมองฉีกขาด เนื่องจากได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง และพบรอยฟกช้ำอยู่บริเวณกลางศีรษะ ไม่ทราบว่ารอยฟกช้ำเกิดจากเด็กตกกระแทกพื้นหรือถูกจับฟาดกับพื้น ซึ่งรายละเอียดต่างๆได้แจ้งให้พนักงานสอบสวนทราบแล้ว

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ