ลูกเสี่ยใหญ่ แก๊ง 3 โจร ปล้นฆ่าชิงรถ จนมุม ตร.

ร่วมกับ ศส.บช.น. และฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ร่วมกันคุมตัวนายภูริทัตหรือหนุ่ม คีรีเอกสถิต ผู้ต้องสงสัยคดีร่วมกันฆ่าชิงทรัพย์ นายปองคุณ หิรัญนิติวัฒนา อายุ 30 ปี ผู้จัดการบริษัทเวสเทิร์น เดคอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

ใช้อาวุธปืนยิงเหยื่อเสียชีวิต แล้วชิงเอารถเก๋งบีเอ็มดับบลิว รุ่น 525 ไอ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ฉล 5888 กรุงเทพมหานคร พร้อม ทรัพย์สินของผู้ตายอีกจำนวนหนึ่งหลบหนีไป

โดยนำตัวผู้ต้องหามาจากบ้านย่านเอกมัย กทม. เมื่อวันที่ 18 พ.ย. หลังจากสอบสวนขยายผล นายภูริทัตให้การรับสารภาพ อ้างว่าร่วมกับพวกอีก 2 คน ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ดังกล่าว โดยมีนายวรเพชร หรือเพชร สมประเสริฐ ลูกชายเสี่ยเจ้าของร้านขายอะไหล่รถยนต์ย่านเชียงกงเป็นหัวโจก

พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น.
พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น.
พล.ต.ต. อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.5
พ.ต.อ.อาจินต์ จารุวร รอง ผบก. น.5

ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัว

นายภูริทัต หรือหนุ่ม คีรีเอกสถิต อายุ 29 ปี
นายวรเพชร หรือเพชร สมประเสริฐ อายุ 23 ปี
และนายปิยเกียรติ หรือปอม กิติวรนันท์นกุล อายุ 24 ปี

พร้อมของกลาง

รถเก๋งบีเอ็มดับบลิว รุ่น 525 ไอ สีบรอนซ์เทา ทะเบียน ฉล 5888 กรุงเทพมหานคร
ปืนยาว .22 ยี่ห้อรูเกอร์ ติดลำกล้องพร้อมกระสุน 45 นัด
นาฬิกาข้อมือยี่ห้อโรเล็กซ์ รุ่นซับมารีนเนอร์ เดท 1 เรือน

พ.ต.ท.สหพร เอียการนา สว.สส.สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้เบาะแสเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยนำนาฬิกาข้อมือของผู้ตายไปจำนำ จึงรายงาน พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.วรนิตย์ สวนคร้ามดี ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ศส.บช.น. พ.ต.ท.สุคนธ์ ศรีอรุณ รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ศส.บช.น. พ.ต.ท.สุรพล ก้อมน้อย สว.กก.สส.บก.น.5 และ พ.ต.ท.ขจรศักดิ์ โกษะโยธิน สว.กก.สส.บก.น.5

นำกำลังติดตามควบคุมตัวนายภูริทัต หรือหนุ่ม คีรีเอกสถิต อายุ 29 ปี เจ้าของร้านจำหน่ายวีซีดีในซอยเอกมัย 30

แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ไปสอบสวน เบื้องต้นนายภูริทัตให้การรับ สารภาพพร้อมซัดทอดว่านายวรเพชร หรือเพชร สมประเสริฐ อายุ 23 ปี ลูกชายเจ้าของร้านอะไหล่รถยนต์ย่านเชียงกงปทุมวัน เป็นคนลงมือยิงนายปองคุณ เพื่อชิงทรัพย์สินและรถเก๋งบีเอ็มดับบลิวดังกล่าว

หรือเพชร สมประเสริฐ ได้ที่ปากซอยสุขสวัสดิ์ 6 ถนนสุขสวัสดิ์ เขตราษฎร์บูรณะ กทม. ก่อนขยายผลตามยึดรถบีเอ็มดับบลิวของเหยื่อผู้จัดการบริษัท ที่ถูกนำไปซ่อนในบ้านเลขที่ 12/6 หมู่ 2 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

พร้อมประสาน พ.ต.ต.วิโรจน์ ปัญญาสุวรรณกุล สว.สส.สภ.อ.เมืองยโสธร จับกุมนายปิยเกียรติ หรือปอม กิติวรนันท์นกุล อายุ 24 ปี เพื่อนร่วมแก๊ง ที่ห้องเลขที่ 418 โรงแรมเจพี อ.เมืองยโสธร

รับสารภาพอย่างไม่สะทกสะท้านว่า มีปัญหาติดหนี้พนันฟุตบอล ตั้งแต่เมื่อตอนฟุตบอลโลกเมื่อกลางปีที่ผ่านมา เป็นเงิน 3-4 ล้านบาท ถึงขนาดต้องขายรถเก๋งโตโยต้า คัมรี ชดใช้หนี แต่ยังไม่พอ เลยตัดสินใจชักชวนเพื่อนออกหาเหยื่อเพื่อชิงรถเก๋งไปขาย

นำปืนยาวติดลำกล้องพร้อมที่เก็บเสียง ซึ่งซื้อมาจากรุ่นพี่ ขึ้นรถโตโยต้า รุ่นอแวนซา สีบรอนซ์เงิน ซุ่มรอเหยื่อที่ลานจอดรถ สวนลุมไนท์บาซาร์ พบเหยื่อ น.ส.พัฒนาวดี พรหมศร อายุ 43 ปี เจ้าของร้านขายสินค้าโอท็อปเดินมาขึ้นรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษร 8353 กรุงเทพมหานคร

จึงตัดสินใจเล็งปืนจากในรถ

ระยะประมาณ 20 เมตร ลั่นกระสุนเจาะท้ายทอยเหยื่อร่วงตายคาที่ จากนั้นนายปิยเกียรติ หรือปอม วิ่งไปปลดทรัพย์จากเหยื่อ ตอนนั้นหวังจะเชิดรถไปด้วย แต่หากุญแจไม่พบจึงแยกย้ายกันหนี

พานายภูริทัต หรือหนุ่ม รุ่นพี่ของนายปิยเกียรติ นั่งรถวนหาเหยื่อในลานจอดรถสวนลุมไนท์บาซาร์อีกครั้ง แต่ไม่มีจังหวะลงมือ เลยเปลี่ยนจุดขับรถไปตามถนนพระราม 4 เลี้ยวเข้าถนนเชื้อเพลิง บังเอิญเห็นนายปองคุณ เสี่ยบริษัทขายบล็อกแก้ว นั่งเปิดประตูรถเก๋งบีเอ็มดับบลิว รื้อหาเอกสารอยู่จึงขับรถเข้าไปจอดเทียบ ก่อนจะเล็งยิงเจาะกกหูจนนายปองคุณฟุบคารถ

นายภูริทัตลงไปปลดนาฬิกาโรเล็กซ์ และลากเหยื่อออกมาทิ้งไว้ข้างถนน เชิดรถบีเอ็มดับบลิวหนี เอารถไปเก็บที่บ้านมารดาของตนใน จ.กาญจนบุรีเตรียมนำไปปล่อยสวมซากแต่ถูกจับกุมเสียก่อน

ที่ผ่านมาผมทำตัวแย่มาก พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่เรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยมต้น ผมเลยประชดชีวิตด้วยการหันไปเสพยาบ้า ทำตัวเกเร พ่อเลยส่งไปเรียนที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ อยู่ได้ 5 เดือน

ผมก็เกเรอีก เลยโดนส่งกลับเมืองไทย ผลาญเงินของพ่อแม่เป็นประจำ สุดท้ายเข้าวงจรการพนันตอนฟุตบอลโลกครั้งที่ผ่านมา ไม่มีเงินใช้หนี้จึงตัดสินใจชวนเพื่อนก่อเหตุ ที่จำเป็นต้องยิงทิ้งเพราะกลัวเขาจะจำได้ กลัวถูกตามจับ และถ้ายังไม่โดนจับ คิดว่าคงจะหาเหยื่อลงมือต่ออีก

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ