หนุ่มเยอรมันหาเงินกลับบ้าน ดูลาดเลาได้ 3 วันก่อนมาก่อเหตุ ตำรวจหนองบัวลำภูตามเบาะแสทะเบียนรถต้องสงสัย ตามไปตรวจสอบพบ จนท.กลับวิ่งหนี รับสารภาพลงมือคนเดียว...
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 21 ก.ย.2553 พ.ต.อ.กิตติรัชต์ น้อยโพนทอง ผู้กำกับการ สภ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
นำหมายจับศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ จ.179/2553 ลงวันที่ 21 ก.ย.2553 เข้าแจ้งข้อกล่าวหากับ นายอัลแบโต ปีเตอร์มันน์ อายุ 28 ปี ชาวเมืองฮัมบวร์ก ประเทศเยอรมนี พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาว่า พยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกในการกระทำผิด
ผกก. สภ.เมืองหนองบัวลำภู กล่าวว่า พล.ต.ต.สุพรรณ ประเสริฐสม ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.หนองบัวลำภู
ได้กำชับให้เร่งติดตามตัวคนร้ายและประสานข้อมูลกับฝ่ายต่าง ๆ และจัดกำลังติดตามสืบสวนสอบสวน กรณีคนร้ายบุกเข้าไปใช้เครื่องตัดเหล็กเจาะตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย ที่ติดตั้งอยู่หน้าร้านไทยเจริญยามาฮ่าสแควร์ ในเขตเทศบาลเมืองหนองบัวลำภู แต่ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไป โดยในที่เกิดเหตุคนร้ายได้ทิ้งอุปกรณ์ในการก่อเหตุ และกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้
พ.ต.อ.กิตติรัชต์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นตำรวจมุ่งเป้าไปที่คนร้าย ที่มีลักษณะเดินเหมือนคนขาเป๋ หรือ คล้ายคนเป็นโปลิโอ
แต่จากการตรวจสอบรูปพรรณรถกระบะ 4 ประตู สีน้ำเงินเข้มหรือดำที่มีพยานเห็นว่า จอดซุ่มในจุดที่คนร้ายใช้เป็นเส้นทาง เข้าออก และสามารถจดจำหมายเลขทะเบียนได้ ตำรวจจึงได้ออกไปตรวจสอบ โดยช่วงเย็นวันที่ 21 กันยายน 2553 ได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.นฤชิต โลนะลุ สวป. ไปตรวจสอบที่บ้านหลังหนึ่งใน หมู่บ้านม่วงแก้ว ต.เมืองใหม่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ที่เป็นผู้ครอบครองรถคันต้องสงสัยดังกล่าว
รวบแล้วหนุ่มเมืองเบียร์ริเป็นโจรเจาะตู้เอทีเอ็ม
ผกก. สภ.เมืองหนองบัวลำภู กล่าวต่อว่า เมื่อตำรวจไปถึงปรากฏว่ามีชาวต่างชาติได้วิ่งออกจากบ้าน เป็นที่น่าสงสัย
จึงเรียกให้คนในบ้านไปนำตัวมาพบและเชิญไปสอบปากคำ ทราบชื่อคือ นายอัลแบโต ปีเตอร์มันน์ ชาวเยอรมัน แต่เนื่องจากไม่สามารถพูดคุยกันได้ จึงได้เชิญตัวมาที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู พร้อมประสานตำรวจท่องเที่ยวหาล่ามมาช่วยแปล มี นายเฟรดดี้ เอปเนอร์ ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน และ ด.ต.ปรีดา มิสาธรรม ผบ.หมู่ สทท.5 กก.3 จ.อุดรธานี มาร่วมสอบถาม ทั้งนี้นายอัลแบโต ปีเตอร์มันน์ ก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง และทำเพียงคนเดียว
พ.ต.อ. กิตติรัชต์ กล่าอีกว่า สาเหตุที่ก่อเหตุลงไปเพราะต้องการหาเงินเป็นค่าเดินทางกลับประเทศเยอรมนี
หลังจากที่ได้เดินทางมาหาแฟนสาวคนไทย ที่บ้านม่วงแก้ว อ.ศรีบุญเรือง เมื่อประมาณ 4 เดือนก่อน ท่ีเป็นคนที่รู้จักรักใคร่ชอบพอกันมาประมาณ 2 ปีก่อนที่ประเทศเยอรมนี พอมาอยู่ที่ประเทศไทยใช้จ่ายเงินจนหมด จึงคิดหาเงินและไปพบตู้เอทีเอ็มที่ร้านดังกล่าวมีลักษณะง่ายต่อการโจรกรรม โดยตนเองก็มีหน้าที่การงานเป็นช่างรื้ออาคารบ้านเรือนในประเทศเยอรมนี จึงมีความรู้ด้านช่าง ก่อนหน้านี้ประมาณ 3 สัปดาห์ ก็ได้ไปซื้อเครื่องตัดเหล็กที่ตลาดนัด หวังตั้งใจจะเอามาใช้ซ่อมแซมบ้านให้แฟน
ด้าน นายปีเตอร์มันน์ กล่าวรับสารภาพว่า วันก่อเหตุก็ได้ใส่ท้ายรถกระบะ นิสสัน 4 ประตู สีน้ำเงิน ทะเบียน กง 7710 อุดรธานี คลุมผ้าขับมาที่ร้านเกิดเหตุ
ลองทุบประตูหน้าร้าน เพื่อตรวจสอบว่ามีคนอยู่ในร้านหรือปล่าว เมื่อเห็นว่าเงียบไม่มีเสียงคนอยู่ จึงให้แฟนขับไปจอดบริเวณหลังร้าน จากนั้นตนก็ลงไปเอาเครื่องตัดเหล็กลงมา และบอกให้แฟนขับรถออกไป ก่อนจะลงมือปีนรั้วบ้านขึ้นไปตัดช่องลูกกรงเข้าไป และใช้เชือกไนล่อนชักเครื่องตัดเหล็กบุกเข้าไปในร้าน จากนั้นก็ใช้เครื่องตัดเหล็กเจาะตู้เอทีเอ็ม ปรากฏว่าเจาะได้สักพักก๊าซออกซิเจนในถังหมด ทำให้ตัดเจาะไม่ได้ จึงทิ้งเครื่องมือ และเดินออกไปเปิดลิ้นชักโต๊ะเพื่อหาของมีค่า แต่ไม่มีจึงได้หลบหนีออกมาทางเดิม และโทรศัพท์เรียกให้แฟนขับรถมารับ
ผู้ ต้องหา กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่ต้องก่อเหตุ เพราะต้องการหาเงินเป็นค่าเดินทางกลับประเทศ เยอรมัน
เพราะเงินที่เก็บสะสมเดินทางมาหาแฟนสาวใช้จ่ายไปหมดแล้ว และตนเองก่อเหตุเพียงลำพังคนเดียว แฟนของตนไม่มีส่วนรู้เห็น อย่างไรก็ตามตำรวจจะได้ทำการสอบปากคำนายอัลแบโต ปีเตอร์มันน์ และแฟนสาวโดยเบื้องต้นตำรวจได้กันแฟนสาวของนายอัลแบโตฯ เป็นพยาน นอกจากนี้ตำรวจยังติดตามไปเก็บหลักฐานต่าง ๆ มาประกอบคดีรวมทั้งเสื้อผ้ารองเท้าที่ใส่ก่อเหตุด้วย