โหด!บุกยิงชาวไทยพุทธ4ศพก่อนเผาบ้าน

 

คมชัดลึก :โจรใต้บุกยิงหัวชาวไทยพุทธ 4 ศพ หลังก้มลงกราบร้องขอชีวิต แต่ไม่เป็นผล ไม่หน่ำใจเผาบ้านซ้ำวอด 3 หลัง ผู้ว่าฯนราฯ ขอโทษชาวบ้าน สั่งทบทวนแผนความปลอดภัยคู่การเอกซเรย์หาชุมชนพื้นที่เสี่ยงหวังยกระดับแผนรปภ.เข้ม ย้ำเสียงแข็งห้ามเกิดซ้ำรอย


เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านโดยหลังแรกเป็นบ้านที่ทำด้วยปูนชั้นเดียวยังสร้างไม่เสร็จ ซึ่งเจ้าของบ้านสร้างไปด้วย อยู่ไปด้วย

บริเวณมุมห้องติดกับประตูบ้านพบศพนายชื่น คงเพ็ชร์ อายุ 83 ปี อยู่บ้านเลขที่111 หมู่ 6 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ ถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 ที่ศรีษะในสภาพพนมมือก้มลงกราบร้องขอชีวิต อย่างน่าเวทนา และมีสุนัขนั่งเฝ้าอยู่ข้างศพ 1 ตัว ภายในบ้านข้าวของเครื่องใช้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด และมีปลอกกระสุนปืนเอ็ม.16 ตกอยู่ 2 ปลอก


จากนั้นเจ้าหน้าที่ยังเข้าตรวจสอบหลังที่ 2 ซึ่งห่างกันประมาณ 100 เมตร ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวถูกเผาได้รับความเสียหายทั้งหลัง


มีผู้เสียชีวิต 2 รายคือนายเจริญศิลป์ บุญทอง อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/9 หมู่ 6 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส และนางสมศรี บุญทอง 2 ผัวเมีย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม เอ็ม.16 จ่อยิงเข้าที่ศรีษะขณะยกมือไหว้ขอชีวิต แต่ถูกจ่อยิงอย่างโหดเหี้ยมเช่นกัน จากนั้นคนร้ายได้ช่วยกันเผาบ้านจนวอดเสียหายทั้งหลัง รวมถึงรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุน เอ็ม.16 ตกอยู่จำนวน 4 ปลอกจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน


ต่อมาจึงได้ไปตรวจบ้านหลังที่ 3 ซึ่งเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูนถูกคนร้ายเผาได้รับความเสียหายทั้งหลัง
มีศพนางห้อง คงเพ็ชร์ อายุ 76 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในบ้านในสภาพศพถูกจ่อยิงที่ศรีษะขณะก้มลงกราบขอชีวิตเช่นกัน เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนชนิดเดียวกันอีก 4 ปลอกจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


จากการสอบสวนชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 21.10 น.ได้มีคนร้ายมีประมาณ 10 คน

แต่งกายเลียนแบบทหารขับรถยนต์และรถจักรยานยนต์เข้ามาโดยแบ่งออกเป็น 4 ชุด ทั้งเฝ้าดูต้นทางบนถนน 1 ชุดและอีก 3 ชุดกระจายบุกยิงชาวบ้านไทยพุทธพร้อมกันจำนวน 3 หลัง ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นเป็นระยะและได้เห็นไฟลุกท่วมบ้านของผู้ตายทั้ง 4 คน แต่ไม่มีใครกล้าออกมาดูเนื่องจากวาดกลัวประกอบกับฝนตกหนัก และมืดมาก คนร้ายใช้เวลาในการก่อประมาณ 10 นาที จึงได้ยิงเสียงรถที่ขับออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว


ด้านนายเจียม คงเพ็ชร์ ลูกชายนายชื่นกล่าวว่า ศพทั้ง 4 ศพ ซึ่งเป็นบิดา มารดา ,พี่สาวและพี่เขย นั้นจะนำไปตั้งสวดบำเพ็ญกุศลที่วัดบางนรา ทั้งหมด

และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรู้สึกเสียใจมากที่สูณเสียญาติพร้อมกันมากถึง 4 คน และตนรู้สึกวาดกลัวมากไม่กล้าอยู่ในบ้านอีกจะขอย้ายไปอยู่ที่อื่น จะไม่กลับมาอีก ไม่กล้าเอาชีวิตมาทิ้งให้เขาฆ่าเล่นแบบนี้อีก ครอบครัวของตนเป็นครอบครัวชาวบ้านไทยพุทธชุดสุดท้ายที่อยู่ในหมู่บ้านฮูแตยือลอ หมู่ 6 ต.บาเระใต้ อ.บาเจาะ ซึ่งมีเพียง 3 หลังเท่านั้นที่ยังรักบ้านเกิดและยอมทนอยู่มานานมากกว่าคนอื่น ที่เขาอบพยบพาครอบครัวไปอยู่ที่อื่นกันเกือบหมดแล้ว ครอบครัวตนเป็นครอบครัวสุดท้าย หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น ไม่มีแล้วชาวบ้านไทยพุทธเลยสักคน พากันหนีหมดแล้ว ตนก็ไม่กล้าอยู่เหมือนกัน


ด้านนายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส 

เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายบุกยิงชาวบ้านซึ่งเป็นไทยพุทธเสียชวิตรวม 4 ศพก่อนจุดไฟเผาบ้านซ้ำอย่างโหดเหี้ยม ที่อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นับเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายและสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ล่าสุดได้สั่งการให้นายอำเภอบาเจาะ เร่งลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้กำลังใจและให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในชุมชนดังกล่าวอย่างเร่งด่วนเนื่องจากเชื่อว่าขวัญกำลังใจของชาวบ้านที่เหลืออยู่ต้องตกอยู่ในภาวะหวาดผวาอย่างหนัก


นอกจากนี้จะได้เรียกหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะทหาร ตำรวจที่รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าวมาหารือและทบทวนแผนมาตรการดูแความปลอดภัยอย่างละเอียด


เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุจัดเป็นพื้นที่ซึ่งถือว่าตั้งอยู่บนพื้นที่เสี่ยงอันตรายมากเพราะมีการอาศัยอยู่กันตามลำพังโดยมีครอบครัวอยู่ไม่ถึง 10 ครัวเรือน ซึ่งประเด็นนี้เป็นเรื่องที่ต้องหารือร่วมกันหลายฝ่ายเพื่อสอบถามถึงการวางมาตรการดูแลความปลอดภัยซึ่งเบื้องต้นเชื่อว่าอาจมีข้อบกพร่องในบางประเด็น


ผวจ.นราธิวาส กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะเป็นผู้ว่าฯต้องกราบขอโทษพี่น้องทุกคนที่ไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่ได้

และขณะเดียวกันนับเป็นการทำงานที่ถือว่าบกพร่องที่จำเป็นต้องทบทวนแผนการทำงานใหม่เพื่อให้มีความรัดกุมยิ่งขึ้น แม้ว่าจะเป็นความต้องการของชาวบ้านที่ไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องมาก แต่ด้วยปัจจัยเสี่ยงด้านสภาพแวดล้อม ในฐานะเจ้าหน้าที่ไม่อาจละเลยในจุดนี้ได้และเมื่อเกิดเหตุรุนแรงขึ้นแล้วจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเร่งสำรวจว่ามีพื้นที่หรือชุมชนใดอีกบ้างที่เข้าข่ายเป็นชุมชนที่อาศัยอยู่ในลักษณะเดียวกันนี้เพื่อจะได้หามาตรการดูแลความปลอดภัยที่รัดกุมเพื่อปกป้องชีวิตชาวบ้านไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของวามรุนแรงอีก


"สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นตัวอย่างความรุนแรงที่ทุกฝ่ายต้องทบทวนการทำงาน โดยเฉพาะแผนการดูแลความปลอดภัยและที่สำคัญอย่าให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับชุมชนอื่นๆอีกเด็ดขาด ดังนั้นสิ่งที่ต้องเร่งทำ คือ การสำรวจหาพื้นที่หรือชุมชนเสี่ยงที่ชาวบ้านอยู่อาศัยเป็นชุมชนขนาดเล็กเพื่อเข้าไปดูแลความปลอดภัย หรือหากมีจำนวนน้อยมากจำเป็นต้องย้ายออกมาพื้นที่ใหม่ก็ต้องยอมทำเพื่อปกป้องชีวิตหรือหามาตรการที่เหมาะสมและปลอดภัยกว่าการให้อาศัยอยู่โดยลำพัง"นายธนน กล่าว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์