พายุฝน-พายุลูกเห็บตกถล่ม "ลำพูน" ทำไฟฟ้าดับทั้งเมือง ต้นไม้และเสาไฟฟ้าโค่นระเนระนาด อาคารบ้านเรือน
รวมถึงสถานที่ราชการได้รับความเสียหายเป็นร้อยๆ หลัง แต่เคราะห์ดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ส่วนที่ "เชียงใหม่" ฝนกระหน่ำต่อเนื่องหลายวัน ส่งผลให้เกิดดินทรุดบริเวณถนนทางขึ้นยอดดอยอินทนนท์ จนนักท่องเที่ยวหวาดผวาไปตามๆ กัน ทั้งยังพบร่องรอยดินทรุดรอบๆ พระมหาธาตุเจดีย์อีก 2 องค์ ด้านอุตุฯ ยังประกาศเตือนพื้นที่เสี่ยงในภาคเหนือและอีสานตอนบนระวังภัยน้ำท่วมฉับพลัน
เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 9 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ลำพูน ว่า เกิดพายุลูกเห็บพัดกระหน่ำใจกลางเมืองลำพูน
กระแสลมแรงทำให้ต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นล้มลงมาทับสายไฟฟ้าแรงสูง บริเวณสามแยกเยาวราช เขตเทศบาลเมืองลำพูน ทำให้สายไฟฟ้าขาด และเสาไฟฟ้าแรงสูงหักโค่นลงกลางสามแยก 3 ต้น ปิดเส้นทางเดินรถ รถยนต์และจักรยานยนต์ไม่สามารถวิ่งผ่านไปมาได้ ผู้สื่อข่าวแจ้งว่า ที่หน้าศาลากลางจังหวัดลำพูน พายุพัดต้นสักขนาดใหญ่หักโค่นลงมาทับสายไฟฟ้าแรงสูงมุมด้านทิศเหนือของรั้ว ทำให้กระแสไฟฟ้าดับทั้งในบริเวณ ถ.เจริญตา ซึ่งเป็นถนนรอบศาลากลางและถนนอีกหลายสายในตัวเมืองลำพูน ยวดยานพาหนะสัญจรไม่สะดวก และสัญญาณไฟจราจรใช้การไม่ได้ ส่งผลให้การจราจรติดขัดมากช่วงเช้าวันที่ 9 ก.ย. เพราะประชาชนทั้งกลุ่มคนทำงานและนักเรียนนักศึกษาต่างต้องเดินทางออกจากบ้าน เช่นเดียวกับถนนสายลำพูน-เชียงใหม่ ช่วงบ้านเหมืองง่า หมู่ 2 ต.เหมืองง่า รถแล่นผ่านไม่ได้เพราะถนนเสียหายและมีสิ่งกีดขวาง ขณะที่เส้นทางเข้าไปสู่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือมีต้นไม้ล้มขวางต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแก้ปัญหาด้วยการจัดการจราจรให้ประชาชนเปลี่ยนไปใช้เส้นทางเลี่ยงเมืองแทนชั่วคราว นอกจากนั้น ยังพบด้วยว่าในช่วงที่พายุฝนและลูกเห็บตกถล่มลงมาดังกล่าว ทำให้หลังคาอาคารสำนักงานเทศบาลตำบลริมปิง อ.เมืองลำพูน พังลงมากองกับพื้น ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
จากการตรวจสอบความเสียหายรอบนอกเมืองลำพูน ที่ต.ริมปิง ต.เหมืองง่า ต.ประตูป่า ต.ต้นธง และต.เวียงยอง
มีต้นไม้หักล้มขวาง ถนนและโค่นลงมาทับบ้านเรือนได้รับความเสียหายจำนวนมาก ล่าสุดสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดลำพูนออกสำรวจความเสียหายเบื้องต้นแล้ว ผลจากการที่กระแสไฟฟ้าดับทั่วเมืองลำพูน ทำให้ธุรกิจต่างๆ บริษัทห้างร้าน หน่วยงานราชการ โรงเรียน ฯลฯ เปิดทำการไม่ได้ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่พบรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด
พายุถล่มลำพูนยับ อินทนนท์วิกฤต
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายดิเรก ก้อนกลีบ ผู้ว่าราชการจ.ลำพูน ออกตรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบพายุฝนและลมกระโชกแรงใน 8 ตำบล
คือ ต.ในเมือง ต.ริมปิง ต.ประตูป่า ต.เหมืองง่า ต.บ้านกลาง ต.ศรีบัวบาน ต.เวียงยอง และ ต.ต้นธง พบว่าบ้านเรือนเสียหาย 15 หลัง ไฟฟ้าช่วงถ.อินทยงยศ กลางเมืองลำพูนดับเป็นระยะทางกว่า 2 ก.ม. ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ลำพูน เร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วน ส่วนโรงเรียนชื่อดังส่วนบุญโญปถัมภ์ลำพูน ต้องประกาศหยุดเรียนเพื่อเก็บกวาดเศษกิ่งไม้และเศษวัสดุที่ปลิวมากับกระแสลม
ช่วงเย็น เจ้าหน้าที่สรุปความเสียหายเบื้อง ต้นในจ.ลำพูน เพราะภัยธรรมชาติครั้งนี้ ปรากฏว่ามีบ้านเรือนเสียหายยับเยินทั้งหลัง 15 หลัง
บ้านเสียหายบางส่วน 173 หลังคาเรือน เสาไฟฟ้าแรงสูงล้มเสียหาย 11 จุด ถนนทรุด 1 แห่ง ศาลากลางจังหวัดลำพูนกระเบื้องหลังคาหลุดจำนวนหนึ่ง ทำให้เอกสารในสำนักงานต่างๆ ที่อยู่ในศาลากลางเสียหาย อาคารสำนักงานเทศบาลตำบลริมปิงพังลงมาในช่วงพายุฝนตกลมแรง ฝ้าเพดานตั้งแต่ชั้น 1-3 หลุดพังเสียหาย ที่ว่าการอำเภอเมืองลำพูน กระเบื้องมุงหลังคาถูกลมพัดเสียหายบางส่วน และโรงเรียนเสียหายบางส่วน 1 แห่ง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ด้านผู้สื่อข่าวประจำ จ.เชียงใหม่ รายงานว่า จากที่มีพายุฝนตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งได้รับความเสียหาย อาทิ เกิดเหตุดินทรุดตัวบริเวณถนนทางขึ้นยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 2 จุดใหญ่ คือ ระหว่าง ก.ม. 43-44 และอีกจุดหนึ่งที่ทรุดตัวล่าสุด คือ ระหว่างก.ม. 46-47 ใกล้กับกู่พระเจ้าอินทรวิไชยานนท์ จุดสูงสุดในแดนสยาม ตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ยอดดอยอินทนนท์ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 2,565 เมตร สร้างความหวาดกลัวให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเป็นอย่างมาก เนื่องจากผิวการจราจรถูกกัดเซาะถึงครึ่งทาง และอาจพังทลายลงได้ตลอดเวลา
อย่างไรก็ตาม ต่อมาเจ้าหน้าที่แขวงการทางจอมทองเร่งลงมือซ่อมแซมถนนในช่วง ก.ม. 43-44 แล้ว แต่ยังเหลือจุดที่ 2 ใกล้กู่พระเจ้าอินทรวิไชยานนท์ และยังพบร่องรอยดินทรุดโดยรอบพระมหาธาตุเจดีย์ 2 องค์ ได้แก่ พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริและพระมหาธาตุนภเมทนีดล ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังเร่งซ่อมแซมอยู่
เวลา 14.00 น. วันเดียวกัน ที่จ.พิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่เขตเทศบาลนครพิษณุโลกนานเกือบ 1 ชั่วโมง
ส่งผลให้น้ำท่วมขังถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก เช่น ถ.นเรศวร ถ.เอกาทศรถ ถ.ราเมศวร หน้าสำนักงานธนารักษ์พื้นที่พิษณุโลก น้ำท่วมสูงไหลเข้าไปในร้านค้า เจ้าหน้าที่ต้องนำป้ายจราจรมากั้นถนนไว้ไม่ให้รถเล็กผ่าน และบริเวณสามแยกเกษตร ท้ายโรงพยาบาลพุทธชินราช มีน้ำท่วมขังสูง 20-30 ซ.ม. ทำให้การจราจรติดขัด