ลุยตรวจผับย่านพญาไท จับนักเที่ยวฉี่ม่วงนับสิบราย

สนธิกำลังลุยตรวจผับย่านพญาไท "บอสซี่ ผับ" จับนักเที่ยวฉี่ม่วง 10 ราย เปิดให้บริการเกินกำหนดกฎหมาย ไม่มีใบอนุญาตในการเปิดเป็นสถานบริการ...

ลุยตรวจผับย่านพญาไท "บอสซี่ ผับ" จับนักเที่ยวฉี่ม่วง 10 ราย พบละเมิดกฎหมายอื้อ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 02.10 น. วันที่ 4 ก.ย.

พล.ต.ต.แสงสูรย์ กรรณสูต ผบก.ปส.1 บช.ปส. นายวัฒนา จอมพลาพล ผอ.ส่วนอำนวยการบังคับใช้กฎหมาย ป.ป.ส. พ.ต.ท.วันนพ สมจินตนากุล ผอ.สปท.5 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 50 นาย เข้าตรวจค้นภายในสถานบันเทิง "บอสซี่ ผับ" (BOSSY PUB) ภายในซอยโรงหนังโอเอเก่า แขวงพญาไท เขตราชเทวี กทม. หลัง บช.ปส.ได้รับการร้องเรียนว่า ผับดังกล่าวมีการเปิดให้บริการเกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งยังเป็นที่มั่วสุมและเป็นแหล่งแพร่กระจายยาเสพติดของเหล่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ

จากการเข้าตรวจค้นพบว่า ผับดังกล่าวอยู่ใต้อาคารโรงภาพยนตร์โอเอเก่า ด้านในเป็นห้องโถงขนาดใหญ่

มีกลุ่มนักเที่ยวราตรีทั้งชายและหญิงประมาณ 350 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติกำลังดื่มกิน เต้นรำตามเสียงเพลงกันอย่างสนุกสนาน เมื่อนักเที่ยวชาวต่างชาติทราบว่า เจ้าหน้าที่เข้าขอตรวจค้นต่างโวยวาย และแสดงอาการไม่พอใจ พยายามจะเดินออกประตูเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจค้นของทางเจ้าหน้าที่จนเกิดความชุลมุนวุ่นวาย แต่สุดท้ายก็ต้องยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจ

จากการสุ่มตรวจปัสสาวะนักเที่ยวพบว่า มีนักเที่ยวปัสสาวะเป็นสีม่วงจำนวน 10 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นหญิงชาวไทย

และพบนักเที่ยวอายุไม่ถึง 20 ปีอีก 3 ราย นอกจากนี้ยังพบว่าผับดังกล่าวไม่มีใบอนุญาตในการเปิดเป็นสถานบริการอีกด้วย เบื้องต้นจึงได้แจ้งข้อหาเปิดให้บริการสถานบันเทิงโดยไม่ได้รับอนุญาต จำหน่ายสุราโดยไม่มีใบอนุญาต และปล่อยปละละเลยให้เยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปีเข้าใช้บริการสถานบันเทิง แก่นายนเรศ บุญเสริม อายุ 56 ปี ผู้จัดการร้าน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับควบคุมตัวนักเที่ยวที่มีผลการตรวจปัสสาวะเป็นบวกส่งให้พนักงานสอบสวน สน.พญาไท นำตัวไปดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.แสงสูรย์ กล่าวว่า การสนธิกำลังเข้าตรวจค้นครั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องปรามการแพร่กระจายของยาเสพติดในหมู่นักเที่ยวชาวต่างชาติ

ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอิหร่าน อินเดีย และเเอฟริกา ที่มีภรรยาเป็นชาวไทยมาใช้บริการเป็นจำนวนมากโดยบางคนลักลอบเสพรวมถึง จำหน่ายยาเสพติดให้กับนักเที่ยวด้วยกันภายในร้าน จนเป็นที่แพร่หลายในหมู่นักเที่ยวและผู้เสพยา นอกจากนี้ ยังทราบว่าสถานบันเทิงแห่งนี้ลักลอบเปิดให้บริการจนถึงเช้าอีกด้วย หลังจากนี้ก็จะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับ นายนเรศ และขยายผลหาเจ้าของร้านตัวจริงมาดำเนินคดี รวมถึงดำเนินการในเรื่องของการปิดสถานบริการแห่งนี้ด้วยเนื่องจากไม่มีใบ อนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมาย.