เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวภายหลังการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีเหตุความไม่สงบเพื่อคลี่คลายการเสียชีวิตของประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐทั้ง 89 ราย ว่าตนได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนจำนวน 12 ชุด ขึ้นสอบสวนแยกเป็นรายเหตุการณ์ที่มีการปะทะและมีผู้เสียชีวิตรวม 12 เหตุการณ์
โดยคณะพนักงานสอบสวนจะประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจนครบาล พนักงานอัยการ และเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ซึ่งเน้นให้ตรวจสอบการเสียชีวิตของประชาชนทั้ง 6 ศพ ที่เสียชีวิตบริเวณวัดปทุมวนาราม
การเสียชีวิตของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง การเสียชีวิตของนายฮิรายูกิ ยามาโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่น และนายฟาบริโอ โนเลนกี้ ช่างภาพชาวอิตาลี โดยกำหนดกรอบการทำงานให้แล้วเสร็จภายใน 45 วัน จากนั้นจะแถลงข่าวและรายงานต่อศอฉ.
นายธาริต กล่าวอีกว่า สำหรับการพิสูจน์การเสียชีวิตนั้น ดีเอสไอจำสำนวนการชันสูตรของสถานีตำรวจ 11 แห่ง
เป็นสำนวนตั้งต้นในการสอบสวนด้านนิติวิทยาศาสตร์ และพยานหลักฐานให้ครอบคลุมทั้งหมด นอกจากนี้ในวันที่2 ก.ย. จะเปิดศูนย์รับข้อมูลจากประชาชนและสื่อมวลชน เพื่อให้สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงทั้งจากผู้เข้าร่วมในเหตุการณ์ผู้เห็นเบาะแส โดยขอให้ประชาชนที่พบเห็นข้อมูลติดต่อโดยตรงที่ดีเอสไอ
"ผมกำชับกับพนักงานสอบสวนทั้ง 12 ชุด ไม่ให้ตั้งธงในการสอบสวน ไม่ว่าการสอบสวนจะเกี่ยวข้องกับการกระทำของคนชุดใดหรือของเจ้าหน้าที่ก็ต้องไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง อย่างไรก็ตามขณะนี้ยอมรับว่ายังไม่มีรายงานข้อมูลการใช้อาวุธและเครื่องกระสุนของเจ้าหน้าที่ทหารในเหตุการณ์กระชับพื้นที่ แต่รายละเอียดทั้งหมดอยู่ในขอบเขตที่จะต้องสอบสวน" นายธาริต กล่าว