สอบถาม ด.ช.สุริยรักษ์ เล่าว่า เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2553 ที่ผ่านมาขณะที่ตนเองและเพื่อนักเรียนชั้นเดียวกันเล่นหยอกล้อกันอยู่ภายในห้องเรียน
นางสาวปิยกิตตรา ครูประจำชั้นที่เพิ่งมาสอนได้ไม่ถึง 1 เดือน ก็เข้ามาในห้องพร้อมสั่งให้เด็กนักเรียนทั้งหมดหยุดเล่นแต่นักเรียนบางส่วนก็ยังคงหยอกล้อกันอยู่ ขณะที่ตนเองกำลังจะนั่งลงประจำที่ของตนเอง สร้างความไม่พอใจให้กับนางสาวปิยกิตตรา เป็นอย่างมากจึงขว้างแปรงลบกระดานดำมาตรงจุดด้านหลังห้องซึ่งมีการหยอกล้อกันของนักเรียนโดยขว้างมาถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกก็ไม่ถูกใคร แต่ครั้งที่ 2 แปรงลบกระดานพุ่งเข้ามาถูกตาด้านซ้ายของตนเองอย่างจัง จนทำให้ได้รับบาดเจ็บเลือดท่วม ตนเองจึงลงไปล้างตาที่ห้องน้ำด้านล่างอาคาร แต่เลือดก็ยังไหลไม่หยุด และรู้สึกเจ็บปวดบาดแผลอย่างมาก น.ส.ปิยกิตตราฯ จึงนำไปส่งที่โรงพยาบาลมหาราช ซึ่งหลังจากตรวจอาการ แพทย์ระบุว่าต้องนอนพักเพื่อดูอาการที่โรงพยาบาล 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 19 - 22 ส.ค.2553 ที่ผ่านมาและเพิ่งจะอนุญาตให้กลับบ้านได้เมื่อวานนี้
ขณะที่ มารดาของ ด.ช.สุริยรักษ์ฯ กล่าวว่า เมื่อตอนที่ทางโรงเรียนโทรศัพท์มาแจ้งว่าบุตรชายของตนเองได้รับบาดเจ็บนั้น อ้างว่าบุตรชายหกล้มไปกระแทกโต๊ะจนได้รับบาดเจ็บ
แต่เมื่อสอบถามความจริงก็ทราบว่า ถูกอาจารย์ประจำชั้นทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งตนเองคิดว่าเป็นเรื่องที่เกินกว่าเหตุ และรับไม่ได้ อีกทั้งไม่เคยที่จะแสดงความรับผิดชอบ รวมทั้งยังโกหกว่าบุตรชายของตนเองหกล้ม ตนเองจึงนำบุตรชายไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา โดยมี พ.ต.ท.จิรัฎฐ์ ธัญญ์จิโรจน์ สารวัตรเวร สภ.เมือง เป็นผู้รับแจ้งความ เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังรับแจ้งความทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว น.ส.ปิยกิตตรา คู่กรณีมาไกล่เกลี่ยที่ สภ.เมืองนครราชสีมาแต่ตกลงกันไม่ได้
โดยอาจารย์คนดังกล่าวจะขอจ่ายค่าชดเชยเป็นเงินไม่เกิน 6,000 บาท แต่ตนเองเห็นว่าอาการบาดเจ็บของบุตรชายรุนแรงถึงขั้นต้องอาจจะสูญเสียดวงตาได้ จึงไม่ยอมรับข้อเสนอ และยืนยันว่า จะให้น.ส.ปิยกิตตรา ดูแลค่าบุตรชายไปจนกว่าจนหายเป็นปกติ และต้องจ่ายค่าเสียหายอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท แต่น.ส.ปิยกิตราฯ ไม่ยินยอม แถมยังอ้างว่ามีคนใกล้ชิดและญาติสนิทรู้จักกับนายตำรวจและอัยการชั้นสูงในจังหวัดนครราชสีมา หากจะเรียกร้องก็ให้ไปฟ้องร้องในชั้นศาล สร้างความไม่พอใจให้กับตนเองเป็นอย่างมาก รวมถึงทางโรงเรียนต้นสังกัดเองก็เงียบหาย จึงได้ออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวเพื่อร้องขอความเป็นธรรม
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนโพธิ์พรรณวิทยา เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงจากนางสาวปิยกิตตราฯ และทางคณะผู้บริหาร
แต่อาจารย์ภายในโรงเรียน ออกมาชี้แจงว่า น.ส.ปิยกิตตรา ขอลาหยุด 1 วัน ส่วนทางผู้บริหารโรงเรียนกำลังเข้าพักรักษาตัวอยู่ภายในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของจังหวัด ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวบันทึกภาพหรือสัมภาษณ์ใครในโรงเรียนได้ บอกแต่เพียงว่าขณะนี้ผู้บริหารของโรงเรียนได้ทราบเรื่องนี้แล้ว และกำลังอยู่ในช่วงของการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว และข้อกล่าวหานี้เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง ขณะที่น.ส.ปิยกิตตราฯ ก็เป็นเพียงแค่ครูทดลองงาน ยังไม่มีการบรรจุ เพิ่งเข้ามาทดลองงานเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งหากสอบสวนแล้วพบว่าผิดจริง ก็จะต้องพ้นสภาพจากการเป็นครูทดลองงานของโรงเรียนแห่งนี้ โดยทันที