สืบ5-ล่าโจรกรุง อุ้มฆ่าผจก. เชิดรถบีเอ็มหนี

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 15 พ.ย. พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก.สส.บก.น.5 พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รอง ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ท. ขจรศักดิ์ โกษะโยธิน สว.กก.สส.บก.น.5 และฝ่ายสืบสวน บก.น.5 ได้เข้าร่วมประชุมวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนเพื่อเร่งคลี่คลายปมคดีนายปองคุณ หิรัญนิติวัฒนา

อายุ 30 ปี ผู้จัดการบริษัทเวสเทิร์น เดคอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดที่ทำธุรกิจเป็นผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายกระเบื้องและบล็อกแก้วจากต่างประเทศ ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตก่อนจะชิงรถเก๋งยี่ห้อบีเอ็มดับบลิว รุ่น 525 ไอ สีบรอนซ์ เทา ปี 2004 แต่ใช้ทะเบียนเก่า ฉล 5888 กรุงเทพมหานคร มูลค่า 4 ล้านบาท และทรัพย์สินอื่นๆหลบหนีไป

สำหรับเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น. ของวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.อาชวิน บุญธรรมเจริญ พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.ทุ่งมหาเมฆ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีพบชายนอนหมดสติอยู่ริมถนนเชื้อเพลิงขาออก แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. ห่างจากร้านอาหารกึ่งผับชื่อ กัสโซ่ ประมาณ 70 เมตร จึงรุดไปสอบสวนพบชายนิรนามไม่มีเอกสารในตัวบ่งบอกว่าเป็นใคร นอน หายใจรวยรินอยู่ในที่เกิดเหตุ มีบาดแผลเลือดไหลบริเวณกกหูขวา เบื้องต้นคิดว่าโดนรถเฉี่ยวชนแล้วล้มไปกระแทกขอบถนน จึงให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่ง รพ.จุฬฯ และติดตามหาญาติ

กระทั่งเช้าวันรุ่นขึ้น แพทย์ได้เอกซเรย์สมองของคนเจ็บถึงพบหัวกระสุน .22 เจาะกะโหลกไปตุงฝังในอยู่ ที่ท้ายทอยตัดแกนสมอง ส่งผลให้เหยื่อกระสุนเสียชีวิตในเวลาต่อมา มี พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผกก. สน. ทุ่งมหาเมฆ และ พ.ต.ท.สหพร เอียการนา สว.สส. เดินทางตามไปสอบปากคำญาติทราบว่า ผู้ตายคือนายปองคุณ หิรัญนิติวัฒนา อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/35 ซอยนาวิน ถนนเชื้อเพลิง แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. ที่ห่างจากจุดพบนอนไร้สติเพียงไม่กี่กิโลเมตร มีทรัพย์สินสูญหายไปนอกจากรถเก๋งบีเอ็มดับบลิวคันละ 4 ล้านบาท เป็นนาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ 1 เรือน โทรศัพท์มือถือยี่ห้อโซนี่ อีริคสัน 1 เครื่อง และกระเป๋าสตางค์พร้อมเงินสดอีกไม่ทราบจำนวน

จากการสอบปากคำญาติและเพื่อนร่วมงานได้ความว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 3 ทุ่ม วันที่ 2 พ.ย. นายปองคุณพร้อมน้องชาย และพนักงานรวม 5 คน ออกจากบริษัทที่อาคารลุมพินีทาวเวอร์ ชั้น 13 ถนนพระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. ไปนั่งสังสรรค์กันที่ร้านอาหารกัสโซ่ ซึ่งเป็นร้านประจำของผู้ตายเพราะเห็นว่าใกล้บ้าน หลังจากร้านเลิกเวลาตี 1 ทั้งหมดจึงแยกย้ายกันกลับ นายปองคุณแยกไปขึ้นรถส่วนตัวที่อยู่ในลานจอดรถของร้านเพียงลำพังโดยไม่มีใครเห็นเหตุการณ์อะไรอีกเลยจนสายวันรุ่งขึ้นถึงทราบข่าวว่านายปองคุณถูกยิงเสียชีวิต

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. กำชับให้ พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. พ.ต.อ. ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผบก.หน.ศส.บช.น. พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก.สส.บก.น.5 และ พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ นำกำลังฝ่ายสืบสวนเข้าคลี่คลายคดี ร่วมกับ พ.ต.อ.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ฉัตรไชย เรียนเมฆ ผกก.1 บก.ป. เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ น่าสงสัยจะเป็นคดีแก๊งคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์ มากกว่าเรื่องส่วนตัว เนื่องจากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบผู้ตายมีปัญหาขัดแย้งกับใคร แถมเป็นคนรักครอบครัว ดื่มสุราเป็นบางครั้ง และไม่มีประวัติเล่นการพนัน

ทีมสืบสวนนครบาลและกองปราบปรามลงพื้นที่แกะรอยหาข้อมูลในที่เกิดเหตุพบเพียงปลอกกระสุน .22 ตกอยู่ 1 ปลอก บริเวณที่นายปองคุณนอนอยู่ แต่กลับไม่มี พยานเห็นเจ้าของรถบีเอ็มดับบลิวคันงามขึ้นรถขับออกไปกับใคร และทำไมถึงพบจุดจบสยองหลังออกจากลานจอดรถของร้านไม่ถึง 100 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทิ้งน้ำหนักไปที่คนร้ายอาจดักรอเหยื่ออยู่ที่รถจนได้จังหวะปลอดคนใช้ปืนจี้บังคับขึ้นรถขับบึ่งออกไปแล้วจึงเปิดประตูผลักนายปองคุณตกถนน ก่อนจ่อยิงอย่างโหดเหี้ยมเพื่อชิงรถเก๋งและทรัพย์สิน

มีรายงานด้วยว่า พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก. สส.บก.น.5 ยังได้ประสานฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี นำแฟ้มคดี น.ส.พัฒนาวดี พรหมศร อายุ 43 ปี เจ้าของร้านขายสินค้าโอทอป อยู่ในสวนลุมไนท์บาซาร์ที่ถูกคนร้ายยิงด้วยปืน .22 นำศพไปยัดเบาะหลังรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษร 8353 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตาย แล้วรื้อค้นเอาทรัพย์สินของมีค่าหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะเหยื่อสาวเก็บร้านแล้วเดินไปขึ้นรถที่จอดด้านหน้าอาคารบีอีซี เทโร ฮอลล์ ภายในสวนลุมไนท์บาซาร์ ที่ค่อนข้างมืดและเปลี่ยวตามลำพัง น่าเชื่อเป็นแก๊งคนร้ายดักจี้ชิงทรัพย์ตามลานจอดรถกลุ่มเดียวกับที่ก่อคดีฆ่าชิงรถบีเอ็มดับบลิวผู้จัดการบริษัทนำเข้ากระเบื้องและบล็อกแก้วรายนี้อย่างแน่นอน

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ