ตู้คาราโอเกะห้างภูเก็ตฟิล์มทึบ สธ.ภูเก็ตแฉวัยรุ่นใช้มั่วเซ็กส์

ตู้คาราโอเกะห้างภูเก็ตฟิล์มทึบ สธ.ภูเก็ตแฉวัยรุ่นใช้มั่วเซ็กส์
ภูเก็ตสั่งคุมเข้มตู้คาราโอเกะบนห้างสรรพสินค้าติดฟิล์มหนาทึบ พบพฤติกรรมวัยรุ่น ทั้งนักเรียน นักศึกษาใช้เป็นแหล่งมั่วสุมมีเพศสัมพันธ์ ก่อปัญหาในสังคม ส่งผลสถิติผู้เป็นโรคเอดส์อยู่อันดับ 2 ของภาคใต้รองจาก จ.ระนอง อันดับ 4 ของประเทศ

(15พ.ย.) นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ปัจจุบันนี้พบว่าบรรดาวัยรุ่นที่เป็นนักเรียน นักศึกษามักจะมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร จากการที่คณะอนุกรรมการป้องกันแก้ไขปัญหาเอดส์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ลงพื้นที่

และได้รายงานมาว่าห้างสรรพสินค้าใหญ่ในตัวเมืองภูเก็ต ที่นำตู้คาราโอเกะขนาดเข้าไปร้องเพลงได้ 2 - 4 คน มาให้บริการ จะมีกลุ่มวัยรุ่นใช้สถานที่ภายในตู้คาราโอเกะและมีเพศสัมพันธ์กัน โดยลักษณะของตู้คาราโอเกะกระจกจะติดฟิล์มหนาทึบ โดยที่คนภายนอกไม่สามารถมองเห็นคนข้างในได้ และที่สำคัญบางตู้จะมีกุญแจล๊อคอีกต่างหาก โดยที่คนข้างนอกไม่สามารถเปิดเข้าไปได้

อย่างไรก็ตามทางคณะอนุกรรมการบางคนที่ได้เดินทางไปตรวจสอบตู้ราคาโอเกะสอบถามนักเรียน นักศึกษาบางคนก็ได้ยอมรับว่ามีการร่วมเพศในตู้คาราโอเกะจริง ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตเป็นห่วง สถานภาพของเยาวชนกลุ่มนี้ในอนาคต และเกรงว่าจะมีการติดโรคเอดส์ หากไม่ป้องกันไว้ล่วงหน้า จึงได้ทำรายงานเรื่องนี้ให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้รับทราบ

"และทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตจึงได้ออกคำสั่งขอความร่วมมือไปยังห้างสรรพสินค้าและที่อื่นๆ ที่มีตู้คาราโอเกะในลักษณะที่มีตู้ทึบให้สอดส่องมิให้เยาวชนใช้เป็นแหลางมั่วสุมทางเพศได้ รวมทั้งผู้อำนวยการสำนักงานวัฒนธรรม จ.ภูเก็ตให้ช่วยกำกับดูแลตลอดจนถึงผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาภูเก็ตไปช่วยกำกับดูแลนักเรียน นักศึกษาที่อยู่ในตู้คาราโอเกะทั้งจังหวัดภูเก็ต" นายแพทย์สาธารณสุข จ.ภูเก็ต กล่าวและว่า

เนื่องจากวันที่ 1 เดือนธันวาคมของทุกปี ถือว่าเป็นเอดส์โรค เพื่อเป็นการเน้นย้ำให้ทุกประเทศทั่วโลกได้ยึดมั่นและปฏิบัติตามสัญญาร่วมมือร่วมใจในการต่อสู้เพื่อหยุดยั้งและลดกระทบจากโรคเอดส์ ดังนั้น ทางกรมอนามัยโลกและองค์การด้านเอดส์แห่งสหประชาชาติจึงได้ประกาศที่จะรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์

สำหรับจังหวัดภูเก็ตสถานการณ์ของโรคเอดส์ถือว่าน่าเป็นห่วง ทั้งนี้เนื่องจากจังหวัดภูเก็ตมีสถิติผู้เป็นโรคเอดส์อยู่ในอันดับ 2 ของภาคใต้รองจาก จ.ระนอง และเป็นอับดับ 4 ของประเทศไทย โดยมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อที่มีอาการจากสถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสิ้น 4,146 ราย เป็นชาย 2,799 ราย เพศหญิง 1,347 ราย เสียชีวิตแล้ว 1,040 ราย ซึ่งกระจายทั่วจังหวัดภูเก็ต

นพ.วันชัย ย้ำว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ผู้ป่วยที่พักนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต มีอัตราที่เสียชีวิตด้วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องคือโรคเอดส์ สูงเป็นอับดับ 1 จำนวนผู้ป่วยเอดส์และผู้ที่ติดเชื้อที่มีอาการอยู่ในตำบลตลาดใหญ่ มีมากถึง 705 ราย เสียชีวิต 204 รายรองลงมาคือ ตำบลรัษฏา มีจำนวน 591 ราย เสียชีวิตไปแล้ว 166 ราย สำหรับอาชีพที่พบมากได้แก่อาชีพรับจ้าง, ว่างงาน, รับจ้างประมง, โดยที่ผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่มีอายุ 25 - 44 ปี เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์เป็นอันดับ 1