โชเฟอร์บัดซบ ไล่คนลง!แล้วขับทับตาย

รถเมล์มรณะชนทับร่างหญิง เคราะห์ร้ายวัย 62 ดับสยอง คาสี่แยก

หลังรับผู้โดยสาร มาตลอดทางถึงจุดเกิดเหตุเหลืออีก 200 เมตร ก็จะถึงท่ารถ พอดีเป็น จังหวะสัญญาณไฟแดง  โชเฟอร์เลยตะโกนไล่ผู้โดยสารทุกคนลงจากรถ  กระทั่งไฟเขียวรีบออกรถพุ่งชนผู้ตายที่ เดินอ้อมตัดหน้ารถจนล้มก่อนถูกล้อหลังทับซ้ำ หลังเกิดเหตุ คนขับรีบเผ่นหนี ก่อนย้อนเข้ามอบตัว อ้างมองไม่เห็นผู้ตาย

เหตุการณ์รถเมล์ขยี้ผู้โดยสารดับกลางสี่แยกไฟแดงรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ส.ค.

พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ กล้วยไม้ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครปฐม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเมล์ทับคนเสียชีวิตติดอยู่ใต้ท้องรถ บริเวณสี่แยกสัญญาณไฟแดงสะพานเกวียน ถนนหลังพระ เขตเทศบาลนครนครปฐม จึงเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวร รพ.ศูนย์นครปฐม และเจ้าหน้าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์

พบรถเมล์คันดังกล่าวลักษณะเป็นรถมินิบัส สายสระกระเทียม-นครปฐม สีขาว หมายเลขทะเบียน 10-1136 นครปฐม หมายเลขข้างรถ 83

จอดอยู่กลางสี่แยกบริเวณใต้ท้องรถพบศพนางพรหมมา  หอมศิริวรรณ  อายุ  62  ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 3 ต.สระกระเทียม อ.เมืองนครปฐม สภาพโดนล้อหลังซ้ายทับร่างและถูกแหนบเกี่ยวเสื้อติดคาอยู่ ตรวจสอบพบร่องรอยถูกล้อทับศีรษะแตก แขนขาหัก เจ้าหน้าที่พยายามนำร่างออกมา แต่เนื่องจากผู้ตายรูปร่างอ้วนใหญ่ไม่สามารถดึงออกมาได้ ต้องนำรถยกมาช่วยยกท้ายรถบัสก่อนนำศพออกมา

สอบถามผู้โดยสารและชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า รถเมล์คันดังกล่าวออกจากคิวรถใน ต.สระกระเทียม และจอดรับผู้โดยสารมาตลอดทาง

ระหว่างวิ่งมาถึงสี่แยกที่เกิดเหตุ เหลืออีก 200 เมตรก็จะถึงท่ารถในตัวเมือง ได้มีสัญญาณไฟแดงพอดี โชเฟอร์เลยจอดรถแล้วตะโกนไล่ผู้โดยสารที่เหลืออยู่ราว 10 คน ให้ลงจากรถโดยผู้โดยสารคนอื่นๆได้เดินไปทางท้ายรถเพื่อข้ามไปถนนอีกฝั่ง ส่วนผู้ตายได้ลงทางประตูหน้าก่อนเดินอ้อมตัดหน้ารถ ขณะนั้น เป็นจังหวะสัญญาณไฟเขียว โชเฟอร์จึงรีบออกรถจนพุ่งชนผู้ตาย ก่อนถูกล้อรถทับซ้ำติดคาอยู่ หลังเกิดเหตุคนขับรีบหลบหนีไป

ต่อมาญาติผู้ตายได้ติดต่อขอรับศพนางพรหมมาพร้อมเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายได้นั่งโดยสารรถคันดังกล่าวเพื่อจะไปจ่ายของมาไหว้สารทจีน กระทั่งเคราะห์ร้ายมาประสบอุบัติเหตุถูกรถทับถึงชีวิต

ขณะเดียวกันช่วงบ่าย นายมานิตย์ สุดสัตย์ อายุ 52 ปี หัวหน้าคิวรถโดยสารสายสระกระเทียม-นครปฐม ได้พานายเกรียงไกร ลาวทอง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 5 ต.สนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม โชเฟอร์รถโดยสาร มรณะคันดังกล่าวเข้ามอบตัว โดยนายเกรียงไกรให้การว่า ไม่มีเจตนาชน เนื่องจากไม่เห็นผู้ตายที่เดินอ้อมตัดหน้ารถ ประกอบกับเป็นช่วงไฟเขียวมีรถหลังบีบแตรไล่ จึงรีบออกรถ ส่วนที่หลบหนีเพราะกลัวถูกชาวบ้านรุมทำร้าย หลังสอบปากคำตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาฐานขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์