โปลิศ ตม.ไทย ซิว 2 ผัวเมียคู่โหด ลวงตำรวจจีน ชิงทรัพย์ซ้ำแทงดิ้นหวิดดับ
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 20 ส.ค. พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตภัลลภ ผบช.สตม. พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส.สตม.พร้อมตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจจังหวัดสิบสองปันนา ประเทศจีน ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องร่วมกันชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศจีน จนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วหลบหนีเข้ามาในประเทศไทย 2 ราย คือ นายเอกพจน์ หาญดี สัญชาติไทย อายุ 22 ปี และน.ส.ยูลา หรือยูไอชา สัญชาติจีน อายุ 22 ปี สองสามีภรรยาได้ที่ห้องพัก ภายในเลิศมงคล คอนโด บางปู ต.บางปู อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ทั้งสองทำงานในร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.สิบสองปันนา ได้ร่วมกันก่อเหตุชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกาย พ.ต.ต.ลี ชาง บิน อายุ 33 ปี นายตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจสิบสองปันนา จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ด้วยการมอมเหล้าแล้วล่อลวงผู้เสียหายขึ้นรถของผู้เสียหาย อ้างว่าจะพาไปส่งที่พัก เมื่อถึงจุดเกิดเหตุจึงจอดรถแล้วใช้มีดแทงตามร่างกายหลายแห่งจนผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังก่อเหตุเสร็จทั้งสองเอาทรัพย์สินในตัวผู้เสียหายไป 800 หยวน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 4,000บาท แล้วนำร่างผู้เสียหายออกจากรถทิ้งไว้ในบริเวณใกล้เคียง ก่อนขับรถของผู้เสียหายผ่านชายแดนจีน-ลาว มาจอดทิ้งไว้ที่บริเวณชายแดนลาว-ไทย จ้างเรือประมงพาข้ามฟากเข้าไทยทาง จ.เชียงราย หลบมากบดานที่ จ.สมุทปราการ
ต่อมาตำรวจสืบทราบจึงนำกำลังเข้าจับกุม สอบสวนนายเอกพจน์ ให้การรับสารภาพว่า สาเหตุที่ทำต้องการเงินเป็นค่าเดินทางกลับเมืองไทย โดยก่อนหน้านี้ตนเคยรับราชการเป็นทหารเรืออยู่ที่สัตหีบ แต่ถูกออกจากราชการ จึงเดินทางไปจีนเพื่อเป็นนักดนตรี ทำงานได้ประมาณ 6 เดือน จนไปรู้จักชอบพอกับ น.ส.ยูลา ตกลงอยู่กินกัน แต่เนื่องจากเงินที่ได้จากค่าจ้างไม่พอใช้ จึงชักชวนกันมาอยู่เมืองไทย แต่ไม่มีเงินพอจึงวางแผนชิงทรัพย์ผู้เสียหายดังกล่าว ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นตำรวจ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ส่งตัว น.ส.ยูลา กลับจีนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนนายเอกพจน์ อยู่ระหว่างเสนอเรื่องให้ศาลพิจารณาว่าจะส่งตัวให้ทางการจีนดำเนินคดีหรือจะดำเนินคดีในประเทศ ซึ่งต้องพิจารณาถึงข้อตกลงเรื่องการส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างทั้ง 2 ประเทศต่อไป