ป.ทลาย“มังกรไต้หวัน”แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เปิดสายโทรหลอกแม่“จิ๊บ รด.”โอนเงินผ่านเอทีเอ็มหลายแสน ตร.แกะรอยบัญชีปลายทาง เจอคนโดนหลอกเพียบ


วันนี้ (17ส.ค.)ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รักษาราชการแทน ผบก.ป.

พ.ต.อ.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.อดินันท์ ชัยนันท์ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.จารุวัฒน์ พาหุมันโต สว.กก.บก.ป. นางเพียงเพ็ญ จิระพันธุ์ หัวหน้าส่วนงานบริการทางการเงินอีเล็กทรอนิกส์ ธนาคารกรุงเทพ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชื่อ มังกรไต้หวัน ประกอบด้วย นายหวัง เจี่ยน อายุ 39 ปี หัวหน้าแก๊ง นายซิง หวัง ไซ่ อายุ 24 ปี รองหัวหน้าแก๊ง และนายซู เคอ เกิ่น อายุ 32 ปี คนกดเงินจากบัญชี ทั้งหมดสัญชาติไต้หวัน พร้อม หนังสือเดินทาง 3 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ 7 เล่ม สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทย 6 เล่ม พร้อมบัตรเอทีเอ็ม สมุดจดรายชื่อและหมายเลขโทรศัพท์ 2 เล่ม โดยจับกุมได้ที่ศูนย์การค้าอาร์ซีเอ ซอยศูนย์วิจัย แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง

พ.ต.อ.สุพิศาล กล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาครั้งนี้สืบเนื่องจากนางสุชาดา  แสงสิงแก้ว มารดา จิ๊บ รด. หรื นายวสุ แสงสิงแก้ว อดีตนักร้องชื่อดัง

นักการทูตผู้ชำนาญการ กรมาสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ญาติพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ10) ได้แจ้งความร้องทุกข์ว่า ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรศัพท์หลอกลวงให้โอนเงินทางเอทีเอ็มสูญเงินไปเป็นนับแสนบาท ชุดสืบสวนจึงสืบสวนจนพบเจ้าของบัญชีซึ่งถูกหลอกให้เปิดบัญชีได้รับค่าจ้าง 1 พันบาท โดยนายเหลือบ กับนายอาทิตย์ อ้างว่ามีญาติที่เล่นพนันจากบ่อนในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา จะโอนเงินมาให้ โดยให้เงินว่าจ้างเป็นเงิน 1,000 บาท

หลังจากทางกลุ่มผู้ต้องหาได้บัญชีเงินฝากก็จะโทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหาย โดยจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารบ้าง หรือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

ระบุว่าบัญชีธนาคารของผู้เสียหายอยู่ในข่ายถูกอายัดห้ามทำธุรกรรม หากจะยกเลิกให้ไปทำการแก้ไขตามขั้นตอนที่ตู้เอทีเอ็ม เมื่อคนร้ายได้เงินทางนายซู เคอ เกิ่น ซึ่งทำหน้าที่ “ม้า” ก็จะวิ่งไปกดเงินออกมาทันที โดยผู้เสียหายไม่ทันได้อายัด จากนั้นคนร้ายก็จะปิดบัญชีที่ถอนเงินแล้ว ทำให้การตรวจสอบทำได้ยากขึ้น และใช้บัญชีใหม่ๆ


จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าแก๊งคนร้ายจะว่าจ้างคนไทยให้ไปร่วมงานกับผู้ร่วมกระทำความผิดชาวจีน

ซึ่งตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์ที่เมืองกวางเจา ประเทศจีน โทรศัพท์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตกลับมาหลอกลวงเหยื่อในประเทศไทย ขณะนี้ชุดสืบสวนได้เร่งประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขยายผลการจับกุมไปยังผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นๆ ต่อไป สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 ได้แจ้งข้อหา ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ป.ดำเนินคดี พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวัน เข้าร่วมสอบสวนต่อไป

นางเพียงเพ็ญ กล่าวว่า ที่ผ่านมาธนาคารตรวจสอบบัญชีที่มีเงินหมุนเวียนเข้าออกผิดปกติ รวมทั้งบัญชีที่มีการเปิดแล้วปิดในชื่อบุคคลเดียวกัน

สำหรับกรณีการหลอกลวงให้โอนเงินทางเอทีเอ็ม นั้นทางธนาคารได้ให้ข้อมูลและแจ้งกับลูกค้าที่กำลังจะโอนเงิน มีการประสานข้อมูลร่วมกับทางตำรวจ หากลูกค้าธนาคารรายใดไม่มั่นใจว่ากำลังถูกหลอกลวงหรือไม่ ขอให้รีบติดต่อกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ด้วยตนเอง หรือที่คอลเซ็นเตอร์

นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบ 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า

กรณีที่มีแก๊งโจรกรรมแฮกเกอร์ข้อมูลส่งผลให้ลูกค้าได้รับความเสียหายจำนวนมากนั้น ธปท.ยืนยันว่าความเสียหายดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดจากธนาคารพาณิชย์ แต่เกิดจากข้อบกพร่องทางระบบคอมพิวเตอร์ของลูกค้า เนื่องจากที่ผ่านมาธปท.ได้เข้าตรวจสอบระบบการทำงานฝ่ายไอที และฝ่ายอินเตอร์เนตของธนาคารพาณิชย์อย่างสม่ำเสมอทุกปี ทำให้ระบบการทำงานดังกล่าวได้มาตรฐาน

“หากเกิดกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ต้องรายงานธปท.ทันทีและต้องรายงานให้ทราบด้วยว่าเกิดจากสาเหตุอะไร และจะมีวิธีการดูแลลูกค้าอย่างไร รวมทั้งทำอย่างไรไม่ให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของธนาคาร และโดยภาพรวมหลักแล้วเวลาลูกค้าจะทำอินเตอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ลูกค้าและธนาคารจะต้องทำสัญญากันก่อน และคอมพิวเตอร์ของลูกค้าก็ต้องมีระบบป้องกันที่ดีด้วย เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดที่สืบเนื่องมาจากลูกค้าแล้ว ตามพฤตินัยแล้วธนาคารไม่ต้องรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น ตนมองว่าแม้การใช้อินเตอร์เนตแบงก์กิ้งจะเป็นสิ่งที่ดี แต่ลูกค้าเองต้องระมัดระวังในการใช้งาน รวมทั้งต้องอัพเดทข้อมูลคอมพิวเตอร์ของตนเองให้มีความทันสมัยต่อการใช้งานสม่ำเสมอ ผู้บริโภคต้องดูแลตัวเองด้วย ต้องป้องกันตัวเอง” นางสาลินี กล่าว.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์