ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้แก๊สตัดประตูและตู้เซฟ โจรกรรมทองคำหนักกว่า 500 บาท มูลค่า 10 ล้านบาท จาก ร้านทองเยาวราชนครหลวง ต.บางพระครู อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า
พ.ต.อ.กรเอก เพชรไชยเวส รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและวิทยาการ นำหมายค้นศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เลขที่ ด.914/2553 ตรวจค้นบ้านของนายสุดใจ ทองผา อายุ 59 ปี เลขที่ 20/1 ม.4 ต.บ้านขล้อ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นบ้านกลางทุ่งและห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 12 กม. และบ้านหลังดังกล่าวยังดัดแปลงเป็นโกดังรับซื้อและคัดแยกของเก่าขนาดใหญ่
ผลการตรวจสอบ พบว่านายสุดใจ ทองผา อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน มีบาดแผลจากการอ๊อกเชื่อมตัดแก๊สที่ท่อนขา
โดยอ้างว่าเป็นอุบัติเหตุขณะทำงานในบ้านเมื่อ 2-3 วันที่แล้ว พร้อมนำให้ตำรวจเข้าตรวจค้นในบ้านที่ดัดแปลงเป็นโกดังคัดแยกของเก่า โดยพบเครื่องมือตัดเชื่อม ถังแก๊ส จำนวนหลายรายการ อ้างว่ามีไว้เพื่อใช้ตัดคัดแยกของเก่าที่เป็นโลหะ และพบรถกระบะต้องสงสัย 2 คัน คือรถกระบะนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีเขียว หมายเลข บฉ-1876 อยุธยา ภายในพบหัวตัดแก๊ส 1 ชุดและถุงมือ 1 ชุด และพบรถกระบะอีซูซุ สีน้ำเงิน บน-1420 ลพบุรี อีก 1 คัน ซึ่งเป็นของนายสุเทพ แสงนิล อายุ 45 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องและบ้านปลูกติดกัน
ขณะที่ พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ยืนยันว่ามีกลุ่มคนร้ายเป้าหมายที่ถูกจับตามองแล้วและเชื่อว่าอีกประมาณ 1-2 วันนี้จะสามารถจับกุมคนร้ายได้
นอกจากนี้ ผลการกระจายกำลังค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมใกล้ร้านค้าทองคำ พบท่อนเหล็ก 3 ท่อนที่เคยเป็นท่อนเหล็กของประตูเหล็กหลังร้านค้าทองที่ถูกตัดออกไป และเชื่อว่าเส้นทางด้านหลังของร้านที่เป็นทางเดินคันนาจะเป็นเส้นทางที่คนร้ายใช้เดินทางเข้ามาก่อเหตุ เพราะจุดนี้ก็พบถังแก๊สขนาดเล็กเช่นกัน