แก๊งโจรบุกร้านทองกรุงเก่า กวาดทองกว่า 10 ล้านบาท เจ้าของร้านเผยปิดร้านในช่วงวันหยุดยาว พาครอบครัวไปเที่ยวต่างจังหวัด กลับมาแทบช็อก
พบร้านถูกโจรกรรมทองไปน้ำหนักกว่า 500 บาท ตร.พบลงมือแบบมืออาชีพใช้แก๊สตัดประตูเหล็กทางหลังร้าน โดยใช้เสื่อและผ้าห่มคลุมปิดกั้นแสง เข้ามาถึงตู้นิรภัย ใช้แก๊สเจาะทางด้านข้างตู้กวาดเอาทองรูปพรรณน้ำหนักกว่า 500 บาทหนีลอยนวล ผบช.ภ.1 ลั่นต้องตามจับให้ได้ สงสัยแก๊งโจรมืออาชีพจากสุพรรณบุรี ชัยนาท ขณะที่เจ้าของร้านตั้งรางวัลนำจับแก่คนที่ให้เบาะแส 5 แสนบาท
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 14 ส.ค. พ.ต.อ. ประเวศ ต้นสมบูรณ์ ผกก.นครหลวง อ.นคร หลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
รับแจ้งจากนายนิทัศน์ เปี่ยมพลพาน อายุ 58 ปี เจ้าของร้านทองเยาวราชนครหลวง เลขที่ 48/1 ม.4 ต.บางพระครู อ.นครหลวง ว่า เกิดเหตุคนร้ายโจรกรรมทองคำในร้านไปจำนวนมาก ขอให้มาสอบสวนติดตามคนร้ายให้ด้วย หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งไปตรวจสอบยังร้านที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงพบนายนิทัศน์ยืนรอให้การอยู่ด้วยสีหน้ายังไม่คลายความตระหนก
โดยให้การเบื้องต้นว่าหลังจากปิดร้านไปเที่ยวต่างจังหวัดช่วงวันหยุด และกลับมาที่ร้านในคืนวันนี้ก็พบว่ามีคนร้ายบุกเข้ามาโจรกรรมทองคำน้ำหนัก 500 บาทเศษ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทไป ก่อนหน้านี้ได้ปิดร้านทองตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 12 ส.ค. และปิดร้านหยุดยาว เก็บทองรูปพรรณทั้งหมดไว้ในตู้นิรภัย ล็อกกุญแจประตูเข้าออกอย่างแน่นหนา แต่ไม่มีใครเฝ้าร้าน จนกลับมาถึงบ้านในวันนี้ และมาตรวจสอบร้านเพื่อเตรียมเปิดขายในวันที่ 15 ส.ค. ก็มาพบว่าถูกคนร้ายเข้ามาโจรกรรมทองคำไปจำนวนมาก
นายนิทัศน์ให้การอีกว่า ร้านทองของตนเปิดขายกันเองในครอบครัว ไม่มีลูกน้องหรือลูกจ้างประจำแต่อย่างใด
ตามปกติเมื่อปิดร้านและเก็บทองแล้วก็จะกลับไปบ้านอีกหลังหนึ่ง ไม่มีคนเฝ้าร้าน โดยทางร้านได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ทุกจุด แต่ปรากฏว่าวันเกิดเหตุกล้องเกิดเสียใช้งานไม่ได้ จึงไม่สามารถบันทึกภาพคนร้ายได้ เชื่อว่าคนภายนอกไม่รู้ความเคลื่อนไหวของร้าน สำหรับคนที่รู้ทางเข้าออกในร้านและที่เก็บทองคือ ช่างจาก จ.สุพรรณบุรี ที่ว่าจ้างเข้ามาก่อสร้างติดตั้งลูกกรงเหล็กและติดตั้งตู้นิรภัย แต่ก็นานมาแล้ว ไม่เชื่อว่าจะมาก่อเหตุ
จากการตรวจสอบในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบว่าที่ประตูหลังร้านซึ่งเป็นประตูเหล็ก คนร้ายใช้แก๊สตัดลูกกรงเหล็กขนาดใหญ่และกลอนประตูเหล็กเข้ามา
ส่วนที่ห้องนิรภัยประตูถูกงัดเสียหาย 2 บาน และคนร้ายใช้แก๊สตัดกุญแจเข้าไป สำหรับตู้นิรภัยที่เก็บทองคำมีขนาดกว้าง 1.50 เมตร สูง 2 เมตร ทำจากเหล็กอย่างดี แบ่งออกเป็นชั้น 4 ชั้น ไม่เชื่อมถึงกัน คนร้ายใช้แก๊สตัดผนังข้างตู้ชั้นที่ 2 และ 3 นำทองคำที่เก็บอยู่ภายในน้ำหนักกว่า 500 บาท มูลค่า 10 ล้านบาทไป ส่วนชั้นที่ 1 และ 4 คนร้ายตัดเข้าไปไม่สำเร็จ ภายในบรรจุทองคำเช่นกัน แต่ไม่มากเท่าที่ถูกโจรกรรมไป
นอกจากนี้ยังพบหลักฐานของคนร้ายทิ้งไว้หลายรายการ เป็นเสื่อสีแดง 1 ผืน ผ้าห่มสีเทา 1 ผืน อีเตอร์สำหรับขุดดินตกอยู่หน้าตู้นิรภัย 1 อัน ตามผนังร้านพบรอยนิ้วมือคนร้ายติดอยู่หลายแห่ง
เจาะเซฟ-ฉกทอง สิบล้าน! สงสัยแก๊งสุพรรณ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายที่มาก่อเหตุมี 2-3 คน วางแผนและเตรียมอุปกรณ์มาเป็นอย่างดี
โดยใช้แก๊สตัดลูกกรงเหล็กเข้าไปด้านใน ใช้เสื่อและผ้าห่มคลุมปิดบังแสงไฟระหว่างที่ใช้แก๊สตัดลูกกรง ไม่ให้ประกายไฟออกไปด้านนอกเป็นที่สงสัยของชาวบ้าน และดูจากการที่คนร้ายใช้แก๊สตัดตู้นิรภัย เชื่อว่าคนร้ายมีความรู้เรื่องโครง สร้างของตู้นิรภัยเป็นอย่างดี คือเลือกใช้แก๊สตัดผนังด้านข้างที่บางตัดง่าย เปิดเข้าถึงชั้นเก็บทอง ส่วนอีเตอร์คนร้ายได้นำมาเป็นอุปกรณ์งัดบานประตูเข้ามายังตู้นิรภัย พบว่าเป็นของใหม่ที่ซื้อมาใช้งานนี้โดยเฉพาะ
ต่อมาเวลา 11.30 น. พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น ผบช.ภ.1 พร้อมตำรวจวิทยาการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง
โดยมีนายนิทัศน์เข้าชี้จุดต่างๆ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นพล.ต.ท.กฤษฎากล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสำคัญ แต่ยังพอเห็นแสงสว่าง เพราะพบหลักฐานมากมายที่คนร้ายทิ้งไว้ เช่น ถังแก๊สสีส้ม ที่ตกอยู่ในทุ่งนาหลังร้าน รวมถึงลายนิ้วมือจำนวนมากของคนร้าย เชื่อว่ามี 3 คนขึ้นไป และมีความชำนาญการในการก่อเหตุ คาดว่าคนร้ายได้จอดรถไว้ไกลจากร้านและเดินเท้าข้ามทุ่งนามาหลังร้าน ซึ่งเป็นที่มืด และลงมือตามแผนที่วางเอาไว้
พล.ต.ท.กฤษฎากล่าวว่า ได้ให้กำลังตำรวจออกติดตามว่าช่วงระหว่างวันที่ 12-14 ส.ค. มีใครไปซื้ออีเตอร์จากร้านวัสดุก่อสร้าง
ในรัศมีใกล้เคียงกับร้านทองที่เกิดเหตุ และ ตรวจสอบคดีเก่าที่เคยเกิดในท้องที่อื่นหรือจังหวัดข้างเคียง เพราะกลุ่มโจรมีลักษณะเป็นมืออาชีพ มีความชำนาญ วางแผนมาเป็นอย่างดี รวมถึงอาจต้องเรียกช่างจาก จ.สุพรรณบุรี มาสอบปากคำ ถึงแม้ว่าทางเจ้าของร้านจะไม่เชื่อว่าเป็นคนร้ายก็ตาม
ด้านนายนิทัศน์กล่าวอีกครั้งว่า ได้ตั้งรางวัลนำจับ 500,000 บาท ให้แก่ผู้ที่ให้ข้อมูลจนไปสู่การนำจับคนร้าย
สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่เบอร์โทร.ของตน หมายเลข 0-3522-6066 และเชื่อว่าคนร้ายคงจะไม่นำทองคำไปขายตามร้านทอง เพราะทองรูปพรรณของร้านมีการตอกโค้ดไว้ เช่นตัว L ตัว Z ที่ข้อและห่วง แต่ที่กลัวคือคนร้ายจะเอาทองไปหลอม หรือขายในตลาดมื รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดชุดสืบสวนของบช.ภ.1 กำลังจับตากลุ่มโจรจาก จ.สุพรรณ บุรี และ จ.ชัยนาท ซึ่งเคยมีการก่อเหตุลักษณะคล้ายกัน โดยให้ตำรวจท้องที่ไปตรวจสอบแก๊งวัยรุ่นในพื้นที่และใกล้เคียงว่ามีใครหายไปหรือไม่ หรือมีแก๊งใดที่เข้าข่ายว่าอาจเป็นผู้ก่อเหตุ