จับผัวเมียโคลัมเบียยกเค้าบ้านแม่หมอศิริราช

นครบาล โชว์ผลงาน รวบ2ผัวเมียชาวโคลัมเบีย ลักทรัพย์บ้านแม่หมอรพ.ศิริราช จนมุมของกลาง แหวนเพชรใส่คานิ้ว เผย ประวัติก่อเหตุโชกโชน เข้าไทยทางใต้ เช่ารถจากภูเก็ต เข้ามาก่อเหตุในหมู่บ้านหรู กทม.-ปริมณฑล นำของที่ได้กลับไปขายในประเทศหาเงินใช้ยึดเป็นอาชีพหลัก

นครบาล เวลา 11.30 น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมตำรวจชั้นผู้ใหญ่ร่วมแถลงผลตำรวจสืบสวน นครบาล 7 จับกุมนายคามิโล แอนเดรส อัลบัวกอนซาเลซ อายุ 27 ปี และนางลูซดาลี่ ทาบอด้า ออสพีน่า อายุ 44 ปี ชาวโคลัมเบีย พร้อมของกลางรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี สีแดง ทะเบียน ฎธ 5834 กรุงเทพมหานคร ไขควง 5 อัน คีมล็อค 1 อัน คีมจับ 1 อัน ป้ายทะเบียนรถ กง 9127 ภูเก็ต 2 แผ่น ถุงมือสีเทา 2 คู่ สีดำ 3 ชิ้น และแหวนโลหะคล้ายเพชร 1 วง

 พล.ต.ท.สัณฐาน กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่วันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมาเวลา 12.30 น. มีเหตุคนร้ายแก๊งแขกขาว เข้าไปลักทรัพย์ตู้เซฟ ภายในบ้านเลขที่ 158 หมู่บ้านริมธาร ซอยย่อย 2 บรมราชชนนี 55 แขวง-เขตตลิ่งชัน กทม. ภายในมีทรัพย์สินของมีค่าเป็นทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 100 บาท เครื่องเพชรชุดใหญ่ พระเครื่องจำนวนมาก และเงินสด มูลค่ารวมกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นบ้านของนายแพทย์นิทัศน์ วิศวชัยพันธุ์ อายุ 30 ปี แพทย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลศิริราช

 "หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวนได้ติดตามเกาะรอยคนร้าย กระทั่งวันที่ 12 ส.ค. เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบทราบว่า จะมีแก๊งค์ผู้ต้องหาชาวต่างชาติเข้ามาก่อเหตุ ในพื้นที่รับผิดชอบ จึงเฝ้าระวังเมื่อพบรถฮอนด้า คันดังกล่าว ต้องสงสัยจะขับเข้ามาในหมู่บ้านแต่ขับกลับออกไปจึงเข้าตรวจสอบจับกุมได้ที่ หน้าหมู่บ้านร่มรื่น โดยต่อมามีชาวต่างชาติหลบหนีไปได้อีก 2 คน นอก จากนี้ยังพบนางลูซดาลี่ ได้สวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย ซึ่งตรวจสอบพบว่า แหวนดังกล่าวนำมาจากบ้านของนายแพทย์นิทัศน์ ซึ่งเจ้าของชี้ยืนยันได้อย่างถูกต้อง จึงควบคุมตัวดำเนินคดีข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน " ผบช.น.กล่าวและว่า

 “สมัย ที่ผมทำงานอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก็มีแก๊งค์คนร้ายลักษณะนี้ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติจำนวนมาก โดยจะมีถังแก๊สพร้อมเครื่องมือเป็นอุปกรณ์ในการตัดตู้เซฟ เมื่อได้ทรัพย์สินมาก็จะนออกนอกประเทศเพื่อส่งกลับบ้านเกิดทันที หลังจากนั้นจะมีทนายความเป็นคนไทยเข้ามาติดต่อ ซึ่งถือว่าเรื่องนี้เสียหายกับประเทศชาติมาก ไม่น่าจะเห็นเรื่องเงินเป็นใหญ่ขนาดนั้น” ผบช.น.กล่าวในที่สุด

 ด้าน พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านการสืบสวน กล่าวว่าแก๊งค์ผู้ต้องหารายนี้จะเดินทางเข้าประเทศไทย จากทางภาคใต้ มีการเช่ารถในพื้นที่ จ.ภูเก็ต และปลอมแปลงทะเบียนรถ ก่อนเดินทางเข้ามาในเขต กทม.และปริมณฑลตระเวนไปตามหมู่บ้านจัดสรรในวันหยุด เมื่อสบโอกาสก็จะกดกริ่งตามบ้านเรือนหากไม่มีใครอยู่ก็จะเข้าไปงัดแงะและลัก ทรัพย์สิน โดยเชื่อว่าทำมาแล้วหลายครั้ง แต่ผู้ต้องหาจะปฏิเสธและอ้างว่าไม่รู้เรื่อง โดยได้ไปตรวจค้นห้องพักย่านสุขุมวิทแล้ว แต่ไม่พบของกลางซึ่งจะขยายผลต่อไป ขณะที่ผู้ต้องหาปิดปากเงียบไม่ยอมพูดคุยใดๆ ได้แต่ก้มหน้าหลบกล้องของสื่อมวลชนตลอดเวลา