เรียกคนขายซีดีเห็นกรณีเบน ชลาทิศให้ปากคำ

ตำรวจพัทยาเรียกคนขายซีดีที่เห็น "เบน ชลาทิศ " ทะเลาะวิวาทกับคนขับรถจยย.รับจ้างมาสอบ เผยนักร้องดังอยู่ในสภาพเมา ระบุช่วงที่ชุลมุนมีชายอ้างตัวเป็นอาสาสมัครเข้ามาระงับเหตุ ก่อนที่ทรัพย์สินจะหายไป

กรณีนายชลาทิศ ตันติวุฒิ หรือ  "เบน ชลาทิศ "  อายุ 29 ปี นักร้องชื่อดัง ถูกทำร้ายร่างกายแล้วชิงทรัพย์ เหตุเกิดบริเวณปากซอย 13/2 ถ.เลียบชายหาดพัทยา หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  พ.ต.ท.พงศ์สวัสดิ์ วงษ์วาน พนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา    จ.ชลบุรี   เปิดเผยว่า หลังจากเข้าสอบปากคำเบื้องต้น นายชลาทิศ ให้การยอมรับว่า ปกติแล้วเป็นคนไม่ค่อยดื่มสุรา แต่บังเอิญในวันเกิดเหตุได้เดินทางไปร่วมงานวันเกิดเพื่อนที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล พัทยาบีช และดื่มสุราเข้าไปมาก ทำให้เมามายอย่างหนักก่อนจะขอตัวเข้าห้องน้ำ ครั้งสุดท้ายจำได้ว่านั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์  ก่อนที่จะจำอะไรไม่ได้อีกเลย 
 
 ส่วนนายวิชัย  ห้วยใหญ่ อายุ 49 ปี คนขับรถ จักรยานยนต์รับจ้างอยู่วินปากซอย 13/1 ที่มีเรื่องชกต่อยกับนายชลาทิศ จากการสอบปากคำไม่พบพิรุธว่า จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินที่หายไป จึงทำได้เพียงแจ้งข้อกล่าวหาทะเลาะวิวาทและปรับเป็นเงิน 500 บาท ก่อนปล่อยตัวไป   ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายสมบัติ  ศรีหทัย อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/3 ม.4 ต.พลงตาเอี่ยม อ.วงจันทร์ จ.ระยอง คนขายซีดี และ เครื่องประดับ ในสถานที่เกิดเหตุมาให้การว่า เห็นนายชลาทิศอยู่ในสภาพเมาสุราอย่างหนัก ส่งเสียงเอะอะโวยวายลั่นก่อนที่จะไปมีเรื่องชกต่อยกับนายวิชัย คนขับวินจักรยานยนต์รับจ้าง

 จนมีชายที่มีลักษณะคล้ายอาสาสมัครเข้ามาห้ามปราบและล็อคตัว แต่นายชลาทิศยังพยายามดิ้นขัดขืนจนเห็นนายชลาทิศยิ้ม  คิดว่าไม่มีอะไรแต่กับถูกนายชลาทิศตบเข้าที่บ้องหู หลังจากนั้นนายชลาทิศก็ถูกกลุ่มชายที่คาดว่าน่าจะเป็นอาสาสมัครนำตัวไป แล้วเกิดการชุลมุนกันเกิดขึ้นซึ่งตนเองก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้ว

 พ.ต.ท.พงศ์สวัสดิ์ เผยอีกว่า จากการที่ได้ทำการสอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้วหลายปากซึ่งระบุตรงกันว่า หลังจากที่นายชลาทิศ มีเรื่องชกต่อยกับนายวิชัยแล้ว ได้มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งอ้างเป็นอาสาสมัครฯไม่ทราบสังกัด เข้ามาช่วยเหลือเพื่อจะพาไปส่งโรงพยาบาล แต่กลับถูกนายชลาทิศผลักและไม่ให้ใครมายุ่งเกี่ยว แล้วเหตุการณ์ก็เกิดการชุลมุน จึงไม่ทราบว่าถูกใครทำร้ายร่างกาย ก่อนที่จะฉวยโอกาสฉกเอาทรัพย์สินประกอบด้วย นาฬิกาข้อมือราคาประมาณ 50,000 บาทเศษ กระเป๋าสตางค์ ภายในมีเงินสดประมาณ 20,000  บาท และโทรศัพท์มือถือไอโฟน 1 เครื่อง

 อย่างไรก็ตาม จะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาพยานที่เห็นเหตุการณ์เพิ่มเติมและว่าชายที่อ้างตัวเป็นอาสาสมัครฯ เพื่อจะได้ติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป