ดวลสนั่นกลางกรุง 2 โจรชิงทรัพย์คนกดเงินตู้เอทีเอ็ม เจอตร.ไล่กวดจับ ดวลสนั่นกลางกรุง 2 โจรชิงทรัพย์คนกดเงินตู้เอทีเอ็ม เจอตร.ไล่กวดจับได้ 1 ส่วนอีกคนชักปืนยิงเบิกทางวิ่งหนีพล่านไปทั่ว พร้อมยิงสกัดเป็นระยะๆ โดนชาวบ้านเจ็บอีก 2 คน ก่อนจับเด็กเป็นตัวประกันจี้แท็กซี่ให้ขับพาหนี กระทั่งมาเจอรถติดที่แยกเหม่งจ๋าย ยิงใส่รถตร.ที่ขวางทาง แล้วซัลโวโชเฟอร์สาหัสเพราะพยายามขัดขืน ก่อนทิ้งรถและตัวประกันไปจี้แท็กซี่อีกคัน แต่คนขับไหวตัวทันวิ่งหนีไปก่อน เป็นจังหวะที่ตร.กรูเข้าล้อมจับได้พอดี สอบพบประวัติโชกโชนทั้งค้ายาเสพติดและหนีคดีฆ่ามาแล้ว ดำเนินคดีข้อหาหนัก
โจรดวลปืนตำรวจกลางกรุงครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 31 ก.ค. ร.ต.ท.นิรภัย ธะกอง ร้อยเวร สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ประชาชนบริเวณร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น หน้าอาคารจอห์นนี่ ทาวเวอร์ 3 ถ.ประชาอุทิศ แขวงและเขตห้วยขวาง จึงประสาน พ.ต.ต.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ สว.สส.สน. ห้วยขวาง นำกำลังชุดสืบสวน 5 นายพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่าคนร้ายใช้อาวุธจี้ชิงทรัพย์เหยื่อที่กำลังกดเงินจากตู้เอทีเอ็มก่อนหลบหนีไป
เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังกันออกตามหา กระทั่งพบชายต้องสงสัย 2 คนตามที่ได้รับแจ้ง มีท่าทีเป็นพิรุธจึงแสดงตัวขอตรวจค้น แต่ปรากฏว่าคนร้ายทั้งสองพยายามหลบหนีเจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวไว้ได้หนึ่งคนทราบชื่อคือนายสมเกียรติ รูปสม อายุ 40 ปี ภายในตัวพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก พร้อมกระสุนเต็มแม็กกาซีน ส่วนคนร้ายอีกคน ทราบชื่อต่อมาคือนายเอกรินทร์ แสงหิรัญ หรือเกรียงไกร ซ้ายขวัญ อายุ 33 ปี อาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหลบหนีเข้าไปภายในอาคาร พร้อมกับชักอาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. ยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่นัดแรกปืนขัดลำกล้องทำให้ชุดสืบสวนกำลังวิ่งเข้าชาร์จเพื่อจับกุมถึงกับผงะหลบไปคนละทาง
แต่เมื่อเห็นปืนยิงไม่ออกตำรวจจึงวิ่งไล่ตามต่อไป นายเอกรินทร์ ปืนกำแพงข้ามไปยังอาคารเอเทรียม รีสอร์ท บูติก ซึ่งอยู่ติดกัน ก่อนจะวิ่งหลบหนีเข้าไปในอู่รถเมล์ ขสมก. ซึ่งอยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร ระหว่างวิ่งหลบหนีก็ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่อยู่เป็นระยะเพื่อเปิดทางหลบหนี คราวนี้ปืนไม่ขัดลำกล้อง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังมากขึ้น
นายเอกรินทร์หลบเข้าไปในอู่ซ่อมรถติดกับสำนักงานเขตห้วยขวาง แล้วจับเด็กผู้ชายคนหนึ่งเป็นตัวประกัน ก่อนจะไปจี้แท็กซี่ โตโยต้า สีชมพู ทะเบียน ทร 528 กทม. ซึ่งมีนายอำนาจ สังข์ศิริ เป็นผู้ขับขี่ บังคับให้ขับรถหลบหนีตำรวจ เมื่อขับรถมาถึงช่วงหน้าสำนักงานเขตห้วยขวางเกิดจราจรติดขัด และมีตำรวจมาขวางหน้ารถ นายเอกรินทร์จึงยิงทะลุกระจกหน้ารถ 4 นัดทำให้ตำรวจต้องกระโดดหลบลูกกระสุนกัน อลหม่าน โชเฟอร์แท็กซี่ตัดสินใจจะทิ้งรถหนี จึงถูกคนร้ายยิงใส่ที่ขาซ้าย และแขนซ้าย บาดเจ็บสาหัส
โจรกรุงอุกอาจตัดสินใจทิ้งรถและตัวประกันวิ่งไปตาม ถ.ประชาอุทิศ มุ่งหน้าสี่แยกเหม่งจ๋าย พร้อมกับหันมายิงใส่ตำรวจที่วิ่งไล่จับอยู่เป็นระยะ ระหว่างนั้นคนร้ายเห็นแท็กซี่โตโยต้า สีฟ้า ทะเบียน ทม 5553 กทม. ที่นายสมพงษ์ ปริวันตา เป็นโชเฟอร์ จอดอยู่หน้าปั๊มน้ำมันบางจากจึงเปิดประตูเข้าไปจี้นายสมพงษ์ เพื่อให้ขับรถหนี แต่นายสมพงษ์ ดับเครื่องและเปิดประตูวิ่งหลบหนี เป็นจังหวะที่ตำรวจตามมาถึงพอดี สามารถจับกุมไว้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุดังกล่าวมีประชา ชนถูกลูกหลงของคนร้ายได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย
ได้แก่ นายสำราญ ใจงาม อายุ 40 ปี ถูกยิงที่ท้ายทอย บริเวณอู่ซ่อมรถ นำส่ง ร.พ.พระราม 9 นายสมชาย อัธพงษ์ อายุ 31 ปี ถูกยิงที่ข้อพับแขนซ้าย ส่งรักษาตัวที่ ร.พ.กล้วยน้ำไท และนายอำนาจ โชเฟอร์แท็กซี่คันแรกที่ถูกคนร้ายจี้ โดยขณะนี้อาการยังสาหัส ต้องนอนรักษาอยู่ในห้องไอซียู ร.พ.ราชวิถี นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ของประชาชนที่สัญจรไปมาถูกลูกหลงจากปืนคนร้ายอีก 2 คัน คือ โตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน ฌฬ 3708 กทม. ถูกกระสุนที่ประตูขวา และ ท้ายรถด้านขวา และ โตโยต้า อินโนว่า สีขาว ทะเบียนป้ายแดง พ-3165 กทม. ถูกกระสุนที่กระจกหลังมุมขวาบน
ต่อมาพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พร้อมด้วยพ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.สุพัชร พึ่งพวง ผกก.สน.ห้วย ขวาง เดินทางมายังสถานีตำรวจเพื่อมาตรวจสอบเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยเบื้องต้นผู้ตัองหาทั้งสองให้การรับสารภาพ พร้อมกับยึดของกลางเป็นอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 2 กระบอก ยี่ห้อบาร์เร็ต ต้า และซิกซาวเออร์ ขนาด 9 ม.ม.พร้อมเครื่องกระสุน โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง กระเป๋าสตางค์ 2 ใบ ซิมการ์ดโทรศัพท์ 1 อัน ส่วนการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้งสองนั้นในเบื้องต้นพบว่านายเอกรินทร์ แสงหิรัญ มีชื่อปลอมว่านายเกรียงไกร ซ้ายขวัญ และมีหมายจับติดตัวอยู่ 1 หมาย คือ คดีฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ท้องที่ สภ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2552 นอกจากนี้ยังมีคดี ฆ่าผู้อื่น เหตุเกิดบริเวณรามคำแหง 62 ท้องที่ สน.หัวหมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างประกันตัว นอก จากนี้ยังมีนายอภิชาติ ปรีชา ผู้ต้องหาอีกคนหนึ่งหลบหนีไปได้ เบื้องต้นคนร้ายทั้ง 3 คนเป็นแก๊งยาเสพติดรายใหญ่ และเป็นมือปืน ขณะนี้กำลังสอบสวนผู้ต้องหา 2 คนเพิ่มเติม
ส่วนการสอบสวนขยายผลชุดสืบสวนได้เข้าตรวจค้นห้องพักผู้ต้องหาซึ่งอยู่เลขที่ 262/109 ชั้น 9 อาคารจอห์นนี่ ทาวเวอร์ 3 พบเศษยาไอซ์ในซองพลาสติก ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายในตู้เสื้อผ้า พร้อมอุปกรณ์การเสพ
โดยนายเอกรินทร์ รับว่าเป็นเจ้าของ จากนั้น พล.ต.ต.วิชัย พร้อมกำลังได้ควบคุมตัวนายสมเกียรติ รูปสม ผู้ต้องหาอีกคนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดที่เกิดเหตุหน้าตู้เอทีเอ็ม อาคารจอห์นนี่ฯ พร้อมกับตรวจค้นรถยนต์ 2 คันของผู้ต้องหาพบยาบ้า และยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่จำนวนหนึ่งจึงยึดไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน พยายามฆ่า หน่วงเหนี่ยวกักขัง พยา ยามฆ่าเจ้าพนักงาน ขัดขืนการจับกุม มีอาวุธปืนและพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า และยาไอซ์) ไว้ในครอบครอง
ไล่จับโจรดวลสนั่นกรุง-ชาวบ้านเจ็บ3 ดักปล้น!เอทีเอ็มยิงใส่ตร.ก่อนรวบ
หน้าแรกTeeNee ที่นี่ข่าววันนี้, ข่าวหน้าหนึ่ง ข่าวอาชญากรรม ไล่จับโจรดวลสนั่นกรุง-ชาวบ้านเจ็บ3 ดักปล้น!เอทีเอ็มยิงใส่ตร.ก่อนรวบ