เด็กชายวัย 3 ขวบดับปริศนาคาบ้านพัก น้ำร้อนลวก ฟกช้ำทั้งตัว ญาติสองฝ่ายต่างซัดกันนัวบนโรงพักโคกคราม ฝ่ายยายเข้าร้องขอความเป็นธรรม"ปวีณา"
(31ก.ค.) เวลา 11.30 น. ขณะที่ ร.ต.ต.มณฑล สุขศุภชัย พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.โคกคราม ปฏิบัติหน้าที่บนโรงพัก ก็ได้มี น.ส.จุฑารัตน์ ทุมสุวรรณ อายุ 31 ปี พร้อมนางสุรภา แสงสว่าง อายุ 58 ปี เข้าแจ้งความว่า ด.ช.กฤตวี แสงสว่าง หรือ น้องบีม วัย 2 ขวบ หลานชายเสียชีวิตอย่างไม่ทราบสาเหตุอยู่ในห้องนอนชั้นที่ 2 ของบ้านเลขที่ 49/13 หมู่บ้านร่มไทร ซอยคลองลำเจียก 10 แขวงนวลจันทร์ เขตบึมกุ่ม จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท.ภูเบศ เส้นขาว รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม แพทย์นิติเวช และมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮ้าส์สูง 2 ชั้น อยู่ในสภาพสกปรกรกรุงรัง มีอุจจาระสุนัขเต็มพื้นบ้านไปหมด
เมื่อเจ้าหน้าที่ขึ้นไปตรวจสอบชั้น 2 ก็พบมีหิ้งบูชาเทพในศาสนาพราหมณ์อยู่จำนวนมาก และจากการตรวจสอบภายในห้องนอนชั้น 2 ที่อยู่ในสภาพสกปรกรกรุงรัง เจ้าหน้าที่พบศพ ด.ช.กฤตวี วัย 3 ขวบ 6 เดือน อยู่ในสภาพนอนหงายตาเหลือก ตามร่างกายมีบาดแผลถูกน้ำร้อนลวกทั้งลำตัว ศีรษะมีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งเป็นรอยฟกช้ำถึง 7 จุดทั้งนี้จากการตรวจสอบภายในห้องนอนที่เกิดเหตุพบเหล็กแป๊บยาวประมาณ 2 ฟุตตกอยู่ในห้อง นอกจากนี้ยังพบขวดยาแผนโบราณอีกจำนวนมากวางทิ้งไว้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนส่งศพด.ช.กฤตวี ไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงที่สถาบันนิติเวชอีกครั้ง พร้อมเชิญตัว น.ส.จุฑารัตน์ และนางสุรภา มาสอบปากคำอย่างละเอียดที่สน.โคกคราม
จากการสอบสวน น.ส.จุฑารัตน์ ให้การว่า ก่อนหน้านี้ตนเป็นแฟนกับลูกชายนางสุรภามาก่อน แต่หลังเลิกรากันไปลูกชายนางสุรภา ก็ไปมีภรรยาใหม่และอยู่กินกันจนมีลูก 1 คนคือ น้องบีม
แต่หลังจากนั้นพ่อแม่ของน้องบีมได้เสียชีวิตทั้งคู่ ช่วงที่ตนเดินทางไปร่วมงานศพก็พบว่านางสุรภา ผู้เป็นย่าต้องรับภาระเลี้ยงน้องบีมอยู่คนเดียวแต่ก็เลี้ยงไม่ไหว จึงไปจ้างคนอื่นเลี้ยง ตนจึงขอน้องบีมมาเลี้ยงไว้เองจะได้ไม่ต้องเสียเงิน น.ส.จุฑารัตน์ ให้การต่อว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลา 06.00 น. น้องบีม แอบไปกินน้ำอัดลมเข้าไปเยอะจนเกิดอาการแน่นหน้าอก ตนจึงรีบไปบอกนายพลกฤษณ์ วรางกูร อายุ 35 ปี แฟนหนุ่มที่เป็นโชเฟอร์ขับรถแท็กซี่ว่าอย่างเพิ่งออกรถไปไหน จากนั้นพวกตนพยายามช่วยเหลือน้องบีมแล้ว แต่น้องบีมกลับเสียชีวิตโดยที่ตนไม่ทราบว่า เกิดจากสาเหตุอะไร
น.ส.จุฑารัตน์ กล่าวอีกว่า สำหรับบาดแผลที่ตามตัวน้องบีมนั้น เกิดจากความซุกซนของน้องบีมเอง
โดยแผลที่ศีรษะเกิดจากน้องบีม ชอบมุดใต้โต๊ะคอมพิวเตอร์แล้วหัวไปโขกกับมุมโต๊ะจนเป็นแผล ส่วนแผลน้ำร้อนลวกตามตัวนั้นก็เกิดจากน้องบีมวิ่งชนตนขณะกำลังต้มโจ๊กให้กินจนถูกโจ๊กลวกไปทั่วตัว ส่วนรอยฟกช้ำที่หน้าอกก็เป็นเพราะล้มไปกระแทกอ่างล้าหน้า ตนพาไปหาหมอซื้อยาแผนโบราณมากิน แต่ด้วยความที่น้องบีมเป็นคนที่น้ำเหลืองไม่ดี สุขภาพไม่แข็งแรงเลยทำให้ยังเป็นแผลมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้องบีมเสียชีวิตนั้น ก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำน.ส.จุฑารัตน์ อยู่นั้น ก็มีนางมาลี วงษ์วาล อายุ 43 ปี ยายของน้องบีม เดินทางเข้ามาดูศพน้องบีมที่โรงพัก เมื่อนางมาลีเห็นศพหลานชายถึงกับร่ำไห้วิ่งเข้าไปกอดศพเอาไว้อย่างน่าเวทนา
ก่อนเดินเข้าไปให้การกับตำรวจ ด้วยความไม่พอใจว่า ก่อนหน้านี้ น.ส.จารุกรรณ์ จันทร์คำ ลูกสาวตนหนีไปอยู่กินกับลูกชายของนางสุรภาจนมีลูกด้วยกัน 1 คน คือ น้องบีม จนกระทั่งเมื่อปี 51 ลูกสาวตนก็เสียชีวิตลง โดยฝ่ายชายอ้างว่า ลูกสาวผูกคอตาย แต่ตนไม่เชื่อ คิดว่าลูกสาวต้องถูกฆาตกรรมเพราะสภาพศพลูกสาวตนนั้นคอหักหมุนได้รอบ นางมาลี กล่าวว่า ตอนนั้นตนไม่ได้ติดใจเอาความอะไร แต่คิดว่า ใครทำอะไรไว้ก็ขอให้ผลกรรมอย่างนั้น หลังจากนั้นลูกชายของนางสุรภา ก็เสียชีวิตลง ตนจึงพยายามจะขอน้องบีมมาเลี้ยงเอง แต่นางสุรภาก็ไม่ยอมกระทั่งวันนี้ ญาตินางสุรภา โทรศัพท์มาบอกว่าน้องบีมเสียชีวิตลงแล้วจึงรีบเดินทางมาดูศพที่ สน.โคกครามทันที