คนร้ายมาแปลกจับนมก่อนปล้น

3 โจรปล้นแปลกๆ คนร้าย บังคับให้พนักงานเสิร์ฟสาวในร้านอาหารญี่ปุ่น ย่านคลองเตย เข้าไปในห้องน้ำ แล้วทำอนาจารจับหน้าอก ก่อนปล้นทรัพย์สินไปหลายรายการ...

เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 30 ก.ค. 2553 พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ

รับแจ้งมีเหตุปล้นทรัพย์ภายในร้านโฮยะ โฮยะ เลขที่ 148/3 ซอยสุขุมวิท 22 ถนนสุขุมวิท แขวงและเขตคลองเตย กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 1 คูหา สูง 4 ชั้น เปิดเป็นร้านขายอาหารญี่ปุ่น พบ น.ส.ธนัชญา แข็งแรง อายุ 28 ปี แคชเชียร์ร้าน และน.ส.ชญานี น้อยศรี อายุ 32 ปี พนักงานเสิร์ฟของร้าน ยืนรอ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตื่นกลัว 

น.ส.ธนัชญา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุมีตนกับน.ส.ชญานี อยู่ภายในร้ายเพียง 2 คนเท่านั้น

เนื่องจากกุ๊กของร้านออกไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ และลูกค้าคนสุดท้ายเพิ่งออกจากร้านไปได้ไม่นาน ขณะที่ตนยืนอยู่กลางร้าน ส่วน น.ส.ชญานี อยู่หน้าห้องน้ำ ได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน อายุประมาณ 30 ปี ลักษณะผอม ผิวดำ มีหนวด สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขายาว เดินเข้ามาภายในร้านแล้วถามว่ามีบุหรี่ขายหรือไม่ เมื่อตอบว่าไม่มี คนร้าย ก็เดินไปที่ประตูแล้วเปิดประตูให้คนร้าย อีก 2 คน คนแรกลักษณะอ้วน สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นลายดอก ส่วนคนที่สองลักษณะผอม สูงประมาณ 170 เซนติเมตร โดยทั้งคู่อายุประมาณ 30 ปี เข้ามาภายในร้าน เมื่อเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเดินไปที่เคาท์เตอร์เก็บเงิน จากนั้นคนร้ายลักษณะผอมทั้ง 2 คนก็เดินตามตนมา ส่วนคนตัวอ้วนเดินไปหาน.ส.ชญานีที่หน้าห้องน้ำ 

น.ส.ธนัชญา ให้การต่อไปว่า พอคนร้ายตามมาถึง หน้าเคาท์เตอร์ ได้บอกว่า อย่าขัดขืนมีอะไรให้เอามาให้หมด

แล้วคนหนึ่ง ก็เดินเข้าไปหยิบกระเป๋าสะพายของตน ภายในมีเงินสด 1 หมื่นบาท และ เงินสกุลญี่ปุ่น 5 หมื่นเยน สร้อยคอทองเค 5 เส้น พระเลี่ยมทอง 1 องค์ และ แหวนทองคำหนัก 50 สตางค์อีก 1 วง ที่วางอยู่บนเคาท์เตอร์ไป แต่ตนไม่ยอมจึงกระชากกลับคืนมา ทำให้คนร้ายโมโห ใช้มือตบเข้ามาที่ใบหน้าด้านขวาของตนอย่างแรง 1 ครั้ง แล้วกระชากสร้อยคอทองเคที่คอของตนอีก 1 เส้นไปด้วย จากนั้นคนร้ายที่ตบหน้าตนก็บอกให้อีกคนหนึ่งหาของมีคมและหยิบกรรไกรที่เคาท์เตอร์ไว้ ถ้าตนขัดขืนอีกให้แทงได้เลย จึงได้แต่ก้มหน้าอยู่มองที่พื้นไม่กล้าขัดขืนหรือมองขึ้นมาอีก เมื่อคนร้ายเห็นตนนิ่งแล้วจึงใช้เหล็กที่ใช้สำหรับหยิบกระทะเนื้อย่างมางัดลิ้นชักเก็บเงินได้เงินสดไปอีก 4 พันบาท 

ส่วน น.ส.ชญานี ให้การว่า ขณะที่ตนอยู่หน้าห้องน้ำได้มีคนร้ายลักษณะอ้วนเดินเข้ามาหา แล้วบังคับให้เข้าไปภายในห้องน้ำพร้อมกับบอกว่า อย่าขัดขืน

ก่อนจะเปิดเสื้อให้เห็นว่าพกปืนอยู่ที่เอว จากนั้นคนร้ายสั่งให้ตนถอดกางเกงออก ด้วยความกลัวจึงทำตาม แล้วคนร้ายก็ได้ใช้มือลูบค้นทั่วทั้งตัว พร้อมกับจับหน้าอกของตนหลายครั้ง ก่อนจะเอาสร้อยคอทองคำหนัก 50 สตางค์ พร้อมร็อคเก็ตทองคำที่ใส่ไว้ที่คอ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเงินอีก 20 บาทในกระเป๋ากางเกงไป เมื่อได้เงินแล้วคนร้ายก็สั่งให้อยู่ในห้องน้ำห้ามออกมา ไม่นานคนร้ายทั้งหมดก็รีบวิ่งหนีออกไปจากร้าน ตนและ น.ส.ธนัชญา จึงรีบวิ่งตามออกมาดู และ ขอความช่วยเหลือจากคนละแวกนั้น โดยเห็นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงทั้งหมด 3 คัน ที่จอดเลยหน้าร้านไปเพียง 2 คูหา แต่จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ ซึ่งคนร้ายได้ขี่ไปคนละคันแล้วหลบหนีไปทางปากซอยสุขุมวิท 22 จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายมีทั้งหมด 3 คน ลักษณะผอม 2 คน และอ้วนอีก 1 คน ทั้งหมดสูงประมาณ 170 เซนติเมตร

โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนข่มขู่และทำร้ายพนักงานของร้าน ก่อนจะงัดลิ้นชักได้เงินสดไป 4 พันบาท พร้อมกับนำกระเป๋าสะพายของแคชเชียร์ร้านภายในมีเงินสดและทรัพย์สินจำนวนหลายรายการไปด้วย นอกจากนี้ คนร้ายยังกระทำอนาจารผู้เสียหายด้วย ทั้งนี้ จะให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบ และเก็บลายนิ้วมือแฝงคนร้าย พร้อมกับตรวจสอบกล้องวงจรปิดละแวกดังกล่าวว่า สามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้หรือไม่ และจะให้ผู้เสียหายทั้งสองคน รวมทั้งกุ๊กที่ออกไปซื้อของขณะเกิดเหตุไปให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน และสเก็ตช์ภาพคนร้ายต่อไป


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์