เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 ก.ค. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุลเพื่อเด็กและสตรี
พา ด.ญ.นุช (นามสมมุติ) อายุ 12 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งย่านบางแค ในสภาพร่างกายมีบาดแผลถูกทำร้ายจนเป็นรอยฟกช้ำ เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ไมตรี ศิลปเสวี รอง ผกก.สส.สน.หนองค้างพลู ว่าถูกพ่อแท้ ๆ ทำร้ายร่างกายมานานนับเดือน และกักขังไว้ในบ้านพร้อมบังคับให้อดอาหาร โดย ด.ญ.นุช ให้การว่า ตั้งแต่เกิดมาก็พักอาศัยอยู่กับปู่ที่ จ.สระบุรี โดยที่ยังไม่เคยเจอหน้าแม่ของตัวเองเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนพ่อทำงานเป็นเทศกิจอยู่สำนักงานเขตแห่งหนึ่ง และได้มาแต่งงานอยู่กินกับภรรยาใหม่จนมีลูกด้วยกันอีกสองคน จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา พ่อกับแม่เลี้ยงก็ไปรับตนให้มาอยู่ด้วยกันที่บ้านในซอยเพชรเกษม 106 พร้อมทั้งส่งให้ตนเรียนชั้น ป.4 และถูกใช้งานหนัก เหมือนเป็นคนรับใช้ภายในบ้าน หากทำผิดจะถูกพ่อลงโทษทั้งเตะทั้งเฆี่ยนตี หรือบังคับให้อดอาหาร จนกระทั่งทางมูลนิธิปวีณาฯ เข้ามาช่วยเหลือ
ด้านนางปวีณา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค. ได้มีพลเมืองดีแจ้งมายังมูลนิธิฯว่า
ด.ญ.นุช ซึ่งพักอยู่กับพ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงในบ้านหลังหนึ่งในซอยเพชรเกษม 106 ได้ถูกพ่อแท้ ๆ ทำร้ายร่างกายมานานนับเดือนแล้ว และเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนก็สังเกตเห็นว่าเบ้าตาข้างซ้ายบวมปูดจนปิดสนิทจึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน แต่ยังไม่ได้เล่าให้ใครฟังเพราะคิดว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัว กระทั่งช่วงบ่ายวานนี้ ด.ญ.นุช ได้ส่งสัญญาณเป็นภาษาใบ้ขอความช่วยเหลือผ่านหน้าต่างในบ้านเนื่องจากถูกขังไว้ในห้องตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา และยังไม่ได้กินข้าวตั้งแต่เช้า พลเมืองดีจึงรีบแจ้งไปยังมูลนิธิฯให้มาช่วยเหลือ ได้รับการยืนยันจากเด็กว่าถูกทำร้ายร่างกายจริง และไม่ต้องการกลับไปอยู่กับพ่อแล้ว จึงพามาแจ้งความไว้ก่อน ซึ่งระหว่างที่รอสอบปากคำเด็กอย่างละเอียดอีกครั้งนั้น ทางเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะพาเด็กไปพักอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว พญาไทก่อน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะรับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะส่งตัวเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอย่างละเอียด หลังจากนั้นก็จะนัดทำการสอบปากคำเด็กอย่างละเอียดอีกครั้งพร้อมอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ และนักจิตวิทยา ก่อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.