เร่งปราบปรามขบวนการขอ ทาน-แก๊งค้ามนุษย์ พม.ระบุข้อมูลส่วนใหญ่มาจากประเทศ เพื่อนบ้านวอนอย่าให้เงินเด็กขอทานเพราะเท่ากับสนับ สนุนให้เด็กถูกค้ามนุษย์ หากช่วยต้องแจ้งศูนย์ประชาบดี 1300 หรือมูลนิธิกระจกเงา เผยพบเด็ก 6 ขวบพูดไทยและเขมรถูกข่มขืน โดยมีหญิงที่เข้าใจว่าเป็นแม่บังคับ
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่โรงแรมปรินซ์ พาเลซ กรุงเทพฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา
จัดเสวนา "แนวทางการแก้ไขปัญหาเด็กขอทานในประเทศไทย" พร้อมรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทานให้หมดใน 1 ปี นายวุฒิกร อินทรภูวศักดิ์ ผู้ช่วย รมว.พม. กล่าวว่า ขณะนี้มีเด็กจากประเทศเพื่อนบ้านและเด็กไทยจำนวนมากถูกใช้เป็นเครื่องมือในการขอทาน โดยพบมากในพื้นที่เศรษฐกิจ ทั้งศูนย์ การค้า ตลาด สะพานลอย คาดว่ามีเด็กขอทานไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ในประเทศ มีทั้งถูกครอบครัวพามาขอทานด้วยความยากจน คนในชุมชนชักชวนล่อลวง รวมทั้งลักพาตัวมา ซึ่งเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ ดังนั้น ผู้ที่พบเห็นการนำเด็กมาขอทานแล้วให้เงินเด็กเท่ากับสนับสนุนให้เด็กถูกค้ามนุษย์ จึงขอให้ผู้พบเด็กขอทานช่วยเหลือเด็กอย่างถูกวิธีด้วยการแจ้งศูนย์ประชาบดี 1300 หรือมูลนิธิกระจกเงาช่วยเหลือทันที
นายวิธนะพัฒน์ รัตนาวลีพงษ์ หน.โครงการรณรงค์ยุติธุรกิจเด็กขอทาน มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า ช่องทางการนำเด็กมาขอทาน
พบทั้งมาด้วยเส้นทางรถไฟสายกรุงเทพฯ-อรัญประเทศ โดยมีกลุ่มผู้เรียกรับผลประโยชน์ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและนายหน้าพาขึ้นรถไฟและปล่อยตัวตามจุดสถานีรถไฟคลองตัน มักกะสัน เพื่อให้ไปขอทาน นอกจากนั้น มีการพามาทางรถตู้โดยจะต่อรถตู้หลายคันเพื่อให้ซับซ้อนจับกุมยากขึ้น อีกทั้งมีการใช้รถนำเพื่อดูต้นทางตามด่านตรวจต่างๆด้วย ซึ่งเด็กที่ถูกนำมาขอทานมีอายุต่ำสุดเพียง 10 วัน เพื่อเรียกความสงสารให้คนทำทานเยอะๆ พออายุ 5 ขวบก็จะให้ไปขายดอกไม้ ลูกอม รวมทั้งมีการย้ายที่อยู่เปลี่ยนจุดขอทานไปเรื่อยๆ เพื่อเลี่ยงการจุบกุม โดยร้อยละ 80 ของเด็กขอทานเป็นเด็กกัมพูชา ที่เหลือเป็นเด็กไทยจากอีสาน แม่สอด เป็นเด็กเป่าแคน ขายดอกไม้ ทั้งนี้ อยากให้พม.ทำเรื่องนี้จริงจัง โดยรณรงค์อย่างต่อเนื่องในการต่อต้านขบวน การนำเด็กมาขอทาน มีเป้าหมายว่าอีก 1 ปี จะต้องไม่มีเด็กขอทานอยู่ข้างถนนและประชาชนต้องหยุดให้เงินเด็กขอทาน
พ.ต.ต.(หญิง) ฉันฉาย รัตนพานิช รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เด็กขอทานในกทม.และปริมณฑลมีไม่ต่ำกว่า 500 คน
ส่วนใหญ่อยู่ย่านกลางเมือง เช่น เขตปทุมวัน พญาไท ลุมพินี เข้ามาโดยสมัครใจและถูกบังคับค้ามนุษย์ เมื่อถูกจับกุมเจ้าหน้าที่จะคัดแยกผู้ที่สมัครใจและถูกค้าเพื่อช่วยเหลือให้ถูกต้อง ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องในการนำเด็กมาขอทานจะมีโทษทางวินัยและอาญาหนักเป็นสองเท่าของคนทั่วไป โดยหากมีผู้ร้องเรียนเข้ามาจะถูกสอบทันที
นางสมจิต ตันติวณิชานนท์ ผู้ปกครองสถานแรกรับคนไร้ที่พึ่ง จ.นนทบุรี กล่าวว่า สถิติที่สถานแรกรับคนไร้ที่พึ่ง จ.นนทบุรี
รับคนต่างด้าวซึ่งเป็นแม่และเด็กมาดูแล ส่วนใหญ่พบเป็นชาวกัมพูชา โดยปี 2548-2551 พบจำนวนสูงถึง 500-800 ราย แต่ช่วงปี 2552-2553 ลดลงเหลือประมาณ 400 ราย เรามีการบันทึกประวัติและสแกนลายนิ้วมือ พร้อมประสานกับสำนักตรวจคนเข้าเมืองเพื่อส่งตัวกลับ การทำประวัติดังกล่าวทำให้ทราบว่าจำนวนที่ถูกจับกุมเป็นกลุ่มหน้าซ้ำรายเก่าถึงร้อยละ 53 และเมื่อประสานกับสำนักงานกิจการสังคม กัมพูชา พบว่าร้อยละ 80 มาจากปอยเปต
น.ส.สิริโสภา เตียนสำรวย นักสังคม สงเคราะห์ ชำนาญการ สถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพบ้านเกร็ดตระการ กล่าวว่า เหยื่อการค้ามนุษย์ที่เข้าไปช่วยเหลือพบจำนวนถึงร้อยละ 20
เป็นเด็กอายุระหว่าง 4-12 ปี ที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ และเป็นสัญชาติกัมพูชามากที่สุด มีพม่าบ้าง ซึ่งเป็นลักษณะทูอินวัน คือ ขอทานและขายดอกไม้ด้วย เมื่อ 5 ปีที่แล้วเราพบเด็กรายหนึ่งอายุ 6 ขวบพูดได้ทั้งภาษาไทยและเขมร ขอทานอยู่แถวสุขุมวิท โดยมีอาการน่าเป็นห่วงมีบาดแผลที่อวัยวะเพศและร้องไห้ตลอด มีพลเมืองดีติดต่อให้เราเข้าไปช่วยเหลือ เมื่อสอบถามเด็กบอกว่าถูกหญิงที่เป็นแม่ให้ขายบริการทางเพศกับนักท่องเที่ยว แต่เมื่อตรวจสอบดีเอ็นเอพบว่าหญิงคนนี้ไม่ใช่แม่เลย ขณะนี้ยังหนีหายตำรวจยังจับกุมไม่ได้
สลดขอทานเด็ก 6ขวบโดนข่มขืน
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต