เปิดใจที่บ้านพักอ.สตึก จ.บุรี รัมย์ ไม่เชื่อนายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ (ภาพเล็ก)
ก่อเหตุถล่มเอ็ม 79 ฆ่าทหาร-ตร.
โถมข้อหาอีก8คดี หรังอ่วม ฆ่าร่มเกล้าด้วย
"หรั่ง-เอ็ม 79"อ่วมอรทัย อธิบดีดีเอสไอแถลงซัดพัวพัน 8 คดีสำคัญช่วงม็อบเสื้อแดงชุมนุม ทั้งร่วมทีมยิง"พ.อ.ร่มเกล้า"ที่แยกคอกวัว ยิงคลังน้ำมันปตท.ที่ปทุมธานี ยิงราบ 11 ยิงด่านตำรวจ ยิงโรงแรมดุสิตธานี
แล้วยังนำอาวุธสงครามจากในม็อบออกมาขาย โยงขบวนการค้าอาวุธข้ามชาติอีกต่างหาก แต่อธิบดียอมรับผู้ต้องหายังไม่ยอมเปิดปาก "เดียร์"ลูกสาวเสธ.แดง เรียกร้องความเป็นธรรมแทนพ่อ ย้ำไม่เคยรู้จัก"หรั่ง" ถามกลับใครเดินตามเสธ.แดงก็กลายเป็นมือขวา เป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรงหมดเลยหรือ แม่-เมียที่บุรีรัมย์อุ้มลูกน้อยวัยเพียง 26 วันร้องความเป็นธรรม ถ้า"หรั่ง"ผิดจริงขอให้แสดงพยานหลักฐานด้วย
-ดีเอสไอซัด"หรั่ง"เกี่ยว8คดีหลัก
เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ รองอธิบดีดีเอสไอ แถลงข่าวความคืบหน้าการสอบปากคำนายสุรชัย เทวรัตน์ หรือหรั่ง ลูกน้องคนสนิท พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย และพัวพันกับคดีร้ายแรงต่างๆ ระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยนายธาริตกล่าวถึงเบื้องหลังการเข้าจับกุมนายสุรชัยว่ามีการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยสะกดรอยจนสามารถจับภาพใหญ่ให้ชัดเจนขึ้น กระทั่งรู้ที่พำนักและเลขที่ห้องพักของผู้ต้องหา อย่างไรก็ตามผลสอบปากผู้ต้องหารับว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของเสธ.แดง และเคยเดินทางไปประเทศจีน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าเดินทางออกนอกประเทศจริงในวันที่ 8 มี.ค.2552 โดยมีภาพถ่ายวงจรปิดยืนยันที่สนามบินสุวรรณภูมิ
อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ยิงปืนใส่โรงแรมดุสิตธานี เมื่อคืนวันที่ 13 มี.ค. ด้วยปืนทาโวร์ เนื่องจากโกรธแค้นที่เสธ.แดงถูกลอบยิง และเชื่อว่าผู้ยิงเสธ.แดงซุ่มอยู่ที่โรงแรมดุสิตธานี นอกจากนี้นายสุรชัยยังเกี่ยวข้องอีก 8 คดีหลัก 1.คดียิงเอ็ม 79 ใส่ร.11 รอ. วันที่ 28 มี.ค. มีทหารบาดเจ็บ 4 นาย 2.การปะทะที่สี่แยกคอกวัว วันที่ 10 เม.ย. มีผู้เสียชีวิต 24 ราย เป็นทหาร 5 ราย ประกอบด้วยพ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม รองเสธ.พล.ร. 2 รอ., พลทหารสิงหา อ่อนทรง, ส.อ.อนุพันธ์ หอมมาลี, ส.ท.อนุพงษ์ เมืองอำพัน และส.ท.ภูริวัฒน์ ประพัฒน์ 3.คดียิงอาร์พีจีใส่คลังน้ำมัน 22 ล้านลิตร ที่จ.ปทุมธานี วันที่ 21 เม.ย. 4.ยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่รถไฟฟ้าบีทีเอสที่แยกศาลาแดง และสีลม วันที่ 22 เม.ย. มีผู้เสียชิวิต 1 ราย 5.คดียิงอาร์พีจีใส่โรงแรมดุสิตธานี วันที่ 17 พ.ค. 6.คดียิงเอ็ม 79 ใส่สน.ลุมพินี วันที่ 19 พ.ค. 7.คดียิงเอ็ม 16 ใส่ตำรวจที่ตั้งด่านหน้าธนาคารกรุงไทยแยกศาลาแดง วันที่ 7 พ.ค. มีตำรวจเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย และ 8.คดียิงเอ็ม 79 ใส่ด่านตรวจตรงข้ามอาคารอื้อจื่อเหลียง 3 ลูก ตำรวจเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 ราย วันที่ 8 พ.ค.
-ขนอาวุธสงครามจากม็อบมาขาย
นายธาริตกล่าวต่อว่า ภายหลังเหตุการณ์ชุมนุมสงบลงนายสุรชัยกลายเป็นขบวนการใต้ดิน โดยเจ้าหน้าที่ดีเอสไอร่วมกับทหารเรือติดต่อล่อซื้ออาวุธปืนจากกลุ่มดังกล่าวเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. โดยพ.ต.อ.ณรัชต์เข้าพบกับผู้บังคับการหน่วยนาวิกโยธิน เพื่อจัดชุดล่อซื้ออาวุธสงครามที่นายสุรชัยขนย้ายมาจากการชุมนุม คดีดังกล่าวดีเอสไอใช้สายลับล่อซื้อใช้เงิน 60,000 บาท ซื้อปืนอาก้า 2 กระบอก เครื่องยิงเอ็ม 79 จำนวน 2 กระบอก ระเบิดชนิดขว้าง 25 ลูก และอาวุธร้ายแรงอีกจำนวนหนึ่ง ขณะนี้ดีเอสไอกำลังเร่งขยายผลถึงขบวนการค้าอาวุธของนายสุรชัย แนวทางการสืบสวนพบว่า ซื้ออาวุธมาจากขบวนการค้าอาวุธในต่างประเทศนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ ทั้งนี้ของกลางทั้งหมดหน่วยนาวิกโยธินจะแถลงข่าวร่วมกับดีเอสไอวันจันทร์ที่ 19 ก.ค. เพื่อยืนยันว่ามีกองกำลังติดอาวุธทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธร้ายแรง ไม่ใช่การจับแพะ ส่วนคดีที่นายสุรชัยให้การว่าเกี่ยวพันกับคดีทำร้ายผู้นำท้องถิ่นนั้น หลังจากนี้ตำรวจจะเข้ามาขยายผลต่อไป
-เป็นคนร้ายสำคัญแต่ไม่ให้การ
นายธาริตกล่าวว่า ในชั้นสอบสวนนายสุรชัยให้การเพียงว่าเป็นลูกน้องคนสนิทของเสธ.แดง โดยได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าหน่วยดูแลความปลอดภัยแกนนำคนสำคัญตลอดการชุมนุม ในวันเกิดเหตุที่เสธ.แดงถูกยิง นายสุรชัยยอมรับว่าโกรธแค้นจึงได้ใช้ปืนทาโวร์ที่ยึดมาจากทหารยิงใส่โรงแรมดุสิตธานี แต่การสืบสวนพบว่าเป็นการยิงอาร์พีจี นอกจากนี้นายสุรชัยยังรับสารภาพว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ยิงอาวุธในเหตุปะทะที่สี่แยกคอกวัว ทั้งนี้นายสุรชัยถือเป็นคนร้ายรายสำคัญที่ไม่ยอมให้การ ซึ่งจะส่งผลร้ายแรงต่อตัวเอง การสอบสวนของดีเอสไอจึงไม่สามารถใช้คำรับสารภาพของผู้ต้องหาเป็นหลักฐานสำคัญในคดี แต่จะใช้พฤติการณ์และพยานแวดล้อมอื่นที่บ่งชี้ว่านายสุรชัยเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในหลายระดับ
ด้านพ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษคดีก่อการร้าย กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติเชิงลึกของดีเอสไอพบว่านายสุรชัยไม่เคยรับราชการ แต่สนใจการใช้อาวุธปืนเป็นพิเศษ เข้ามาอยู่กับเสธ.แดงเป็นเวลา 3 ปี โดยมีเสธ.แดงเป็นครูฝึกอาวุธ นอกจากนี้เสธ.แดงยังพานายสุรชัยพร้อมกองกำลังชุดดำไปเที่ยวเมืองจีน เพื่อเสริมกำลังให้กับการปฏิบัติหน้าที่ในการชุมนุมของคนเสื้อแดง ในส่วนของกลุ่มชายชุดดำนายสุรชัยสนิทสนมกับนายสุกเสก พลตื้อ ผู้ต้องหาคดีก่อการร้าย ซึ่งทำงานด้วยกันตลอด หลังจากนี้ดีเอสไอจะเร่งสอบสวนถึงเส้นทางการหลบหนีของนายสุรชัยว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐให้การสนับสนุนหรือไม่ อย่างไรก็ตามวันนี้พนักงานสอบสวนจะนำตัวนายสุรชัยไปฝากขังเวลา 13.00 น.
-ตร.ระบุ"หรั่ง"ไม่รับทั้งหมด
ส่วนที่บช.น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. รับผิดชอบงานสืบสวน กล่าวถึงกรณีตำรวจ 191 จับกุมนายสุรชัย หรือหรั่ง ว่า เมื่อวานนี้ได้รับรายงานจากลูกน้องจึงไปร่วมสอบผู้ต้องหา ไม่ใช่เป็นการแถลงข่าว เมื่อผู้สื่อข่าวทราบก็พากันไปทำข่าว มีการพูดคุยกับนายสุรชัย บางเรื่องเขาก็รับว่าจริง บางเรื่องก็บอกว่าไม่ขอตอบ ประเด็นที่ยอมรับกับตนและต่อหน้าสื่อมวล ชนคือ รับว่ามีคนแนะนำให้รู้จักกับเสธ.แดงเมื่อ 3 ปีก่อน มีความเห็นทางการเมืองตรงกัน จึงติดตามมาตลอด และยอมรับว่ามาเป็นครูฝึกนักรบพระเจ้าตาก
รองผบช.น.กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นยังบอกอีกว่าปกติทุกคืนจะติดตามเสธ.แดง แต่ในคืนที่เสธ.แดงถูกยิงตาย เกิดความโกรธแค้น จึงเอาปืนทาโวร์ ยิงกระจกอาคารร.พ.จุฬาฯ และโรงแรมดุสิตธานี ส่วนเรื่องยิงตำรวจ หรือยิงเอ็ม 97 อะไรนั้นนายหรั่งปฏิเสธ โดยบอกว่าไม่ขอตอบ รวมทั้งเรื่องไปฝึกอาวุธที่ไต้หวัน ก็บอกว่าไม่ได้ไป อะไรที่เป็นเรื่องเข้าตัวก็บอกว่าไม่ขอตอบ ไม่ได้บอกว่าทำหรือไม่ได้ทำ ส่วนสิ่งที่พูดกับสิ่งที่ฝ่ายสืบสวนหรือดีเอสไอมีข้อมูลในเชิงลึกไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะนี้อำนาจหน้าที่อยู่ในการสอบสวนของเอสไอ
-หนีไปเขมรลูกคลอดก็เลยกลับ
"เมื่อวานผบช.น.ทราบว่าต้องส่งตัวผู้ต้องหาให้ดีเอสไอ จึงรีบดำเนินการ นักข่าวรู้ก็มากันมา เต็มไปหมด เราก็อนุญาตให้โอกาสเท่าที่ทำได้ โดยบอกว่านี่ไม่ใช้การสอบสวน ไม่ใช่แถลงข่าว เป็นการสอบถามเท่านั้น โดยมีนักข่าวร่วมสอบ ถาม ที่ตอบตรงกันคือรู้จักเสธ.แดง เมื่อ 3 ปีที่แล้ว และมาเป็นครูฝึกนักรถพระเจ้าตาก หลังจากเกิดเหตุการณ์กระชับวงล้อม ถอดเปลี่ยนเสื้อผ้านั่งมอเตอร์ไซด์ออกมาจากพื้นที่กระชับวงล้อมมาด้านประตูน้ำ รู้ว่าตำรวจติดตามจับกุมก็หลบหนีไปทางภาคตะวันออก หลบหนีไปอยู่กับผู้ใหญ่ฝั่งเขมร ไม่ขอเปิดเผยนาม ที่กลับมาเพราะทราบว่าลูกเพิ่งคลอด คิดถึงอยากเห็นหน้าลูก พยายามหลบหนีแต่ไม่พ้น"รองผบช.น.กล่าว
รองผบช.น.กล่าวด้วยว่า ส่วนที่ว่าเสธ.แดงพาไปฝึกอาวุธที่ไต้หวัน สอนเปลี่ยนซิมการ์ดโทรศัพท์ นั้นนายหรั่งไม่พูด ปฏิเสธว่าไม่ได้ไป ส่วนจะไปรับกับใครหลังจากนั้นตนไม่ทราบ ที่ระบุว่ายิงทหารตำรวจหน้าตึกอื้อจื่อเหลียง และสน.ลุมพินีด้วยเอ็ม 79 นั้น เขาไม่รับ มีเพียงแต่คืนที่เสธ.แดงถูกยิงและอีกคืนต่อมา รับว่าได้ใช้ปืนทาโวร์ยิงไปที่กระจกร.พ.จุฬาฯ กับโรงแรมดุสิตธานี โดยรับว่าเข้าใจว่าสไนเปอร์ที่ยิงเสธ.แดงอยู่ 2 แห่งนั้น นอกจากนี้นายหรั่งยังบอกอีกว่ากลุ่มผู้มีอาวุธมีหลายกลุ่ม พอถามเหตุการณ์จุดนั้นๆจุดนี้ว่าทำหรือเปล่า ก็บอกว่าเขาไม่ได้ทำ ไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มใดทำ
-"เทือก"ไปจีนให้ประวิตรคุมศอฉ.
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และผอ.ศอฉ. ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงสถานการณ์ในประเทศไทยว่า ไม่กังวล หากตนไม่อยู่ก็มี รมว.กลาโหมเป็นประธานประชุม ศอฉ. และสั่งการได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงการจับตัวนายหรั่ง มือขวา เสธ.แดง นายสุเทพกล่าวว่า การจับตัวครั้งนี้ชี้ชัดว่าบุคคลในขบวนการก่อการร้ายที่กระทำความผิดไม่สามารถหลบหนีกฎหมายได้ จะช้าหรือเร็ว เจ้าหน้าที่จะติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนการสอบ สวน ตนไม่ก้าวก่ายหรือวิจารณ์ ไม่พูดแทนคนทำงาน ให้ฝ่ายที่มีหน้าที่แถลง
เมื่อถามว่า น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล หรือเดียร์ ลูกสาวเสธ.แดง ปฏิเสธว่าบิดาไม่รู้จักนายหรั่งที่อ้างว่าเป็นมือขวา นายสุเทพกล่าวว่า เรื่องของลูกกับพ่อไม่เกี่ยวกัน อย่าทำให้ลูกสาวของ เสธ.แดง อึดอัดดีกว่า เมื่อถามว่าเท่าที่ฟังจากเจ้าหน้าที่มีรายงานหรือไม่ว่านายหรั่งเชื่อมโยงกับการลอบสังหารนายก อบจ.นครสวรรค์ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ทราบ ต้องรอผลการสอบสวน ส่วนจะสางไปถึงบุคคลใดอยู่ร่วมขบวนหรือไม่ คิดว่าคงจะขยายผลได้บ้าง แต่อยู่ที่ผลการสอบสวนว่าจะออกมาอย่างไร
-"เทพไท"คืนฟอร์มไม้กันหมา
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลา โหม ให้สัมภาษณ์กรณีจับกุมนายหรั่ง มือขวาเสธ.แดง ว่า การจับกุมครั้งนี้อย่าไปบอกว่าหน่วยงานความมั่นคงประสบความสำเร็จ แต่ให้รอพนักงานสอบสวนสอบเสร็จแล้วเราคงรู้รายละเอียดมากขึ้นว่าผู้ที่ปฏิบัติการได้ดำเนินการอะไรบ้างที่ทำให้เกิดความไม่สงบ
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีแกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช.เรียกร้องให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นธงนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ โดยใช้กลไกผ่านพรรคเพื่อไทยและ นปช.ให้กดดันรายวัน โดยเฉพาะอดีตแกนนำพรรคไทยรักไทยคนสำคัญ คือนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของพ.ต.ท.ทักษิณ และนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ออกมาแสดงความเห็นด้านเดียว ทั้งที่ข้อเท็จจริงการคงพ.ร.ก.ฉุกเฉินไว้มีผลดีมากกว่าผลเสีย อย่างน้อยทำให้สถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในความสงบเรียบร้อยได้ และไม่ได้กระทบต่อการใช้ชีวิตของคนปกติทั่วไป เว้นแต่กระทบถึงคนที่คิดไม่ดีต่อชาติบ้านเมืองเท่านั้น จึงไม่เข้าใจว่าคนเหล่านี้ออกมาเรียกร้องทุกวันหรือจะเปิดช่องทางเพื่อให้เกิดความรุนแรงกลับมาอีกใช่หรือไม่
นายเทพไทกล่าวอีกว่า ส่วนที่ตำรวจจับกุมนายหรั่ง ต้องขอชื่นชมและให้กำลังใจผู้ปฏิบัติงานและหวังว่าการจับกุมครั้งนี้น่าจะเป็นกุญแจดอกสำคัญที่สาวถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง ผู้ร่วมขบวนการว่ามีใครบ้าง ร่วมถึงผู้บงการตัวจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับสารภาพเบื้องต้นของผู้ต้องหา ถือว่าเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีการก่อการร้ายแน่นอน และเชื่อว่าความสามารถของเจ้าหน้าที่ไทยจะนำประเด็นนี้มาต่อจิ๊กซอว์เพื่อจะได้ตอบคำถามของแกนนำ นปช.บางคนที่ป่าวประกาศให้รัฐบาลหาตัวผู้ก่อการร้ายในเหตุการณ์เผาบ้านเมืองและยิงชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือไม่ อาจได้รับคำตอบเดิมๆ จากแกนนำ นปช.ว่า นายหรั่งเป็นคนเสื้อแดงเทียม หรือแค่แนวร่วมคนเสื้อแดงธรรมดาเท่านั้น และปฏิเสธความรับผิดชอบว่าไม่มีส่วนรู้เห็น ซึ่งเป็นสูตรสำเร็จของแกนนำ นปช.ในการแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในสังคมไทยที่ผ่านมา
-ลูกเสธ.แดงแย้งให้ข่าวข้างเดียว
วันเดียวกันน.ส.ขัตติยา สวัสดิผล หรือเดียร์ ลูกสาวเสธ.แดง ให้สัมภาษณ์ว่า ตนยืนยันคำเดิมว่าพ่อไม่มีส่วนกับเหตุการณ์ความรุนแรงในช่วงการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ และตนก็ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเห็นนายสุรชัย เทวรัตน์ หรือหรั่ง เพราะพ่อไม่เคยพูดถึง อีกทั้งก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของพ่อ
ลูกสาวเสธ.แดงกล่าวอีกว่า ส่วนที่อ้างว่านาย หรั่งเป็นคนสนิทหรือคนติดตามของพ่อนั้น เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของประชาชนที่ติดตามข่าวสารในเรื่องดังกล่าวว่า จะเชื่อหรือไม่ ตนไม่อาจห้ามได้ เพราะเรื่องทั้งหมดเป็นการให้ข่าวแต่เพียงด้านเดียว เพราะพ่อไม่สามารถออกมาพูดชี้แจงความจริงได้ ฉะนั้นใครอยากทำอะไรก็ทำไป แต่ในฐานะที่เป็นลูกพ่อ ไม่เชื่อว่าพ่อเป็นคนสั่งการตามที่ถูกกล่าวอ้าง
-เดินตามพ่อเป็น100ใครๆก็อ้าง
"หากพิจารณาในช่วงที่มีการชุมนุมจะเห็นว่ามีคนติดตาม และมีคนเดินตามคุณพ่อเป็น 100 คน ใครก็เอามาอ้างว่าเคยเดินตาม หรือสนิทกับเสธ.แดง ซึ่งตรงนี้ใครจะเอาไปอ้างก็อ้างไป"ลูกสาวเสธ.แดงกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทวงสิทธิ์และศักดิ์ศรีของพ่อคืนหรือไม่ น.ส.ขัตติยากล่าวว่า คงไม่ออกไปชี้แจงว่าเขาให้การเท็จ เพราะเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่รัฐที่จะดำเนินการ ไม่ใช่หน้าที่เดียร์ และจะไปเอาอะไรกับผู้ชายอายุ 26 ปี แต่ในฐานะที่เป็นลูกทำได้เพียงเสียใจ และส่งสารแทนพ่อที่ถูกใส่ร้าย หลังจากเสียชีวิต
-เตรียมเอาเรื่องคดีสังหารพ่อ
เมื่อถามว่าจะปรึกษาหารือกับผู้ใหญ่ที่มีความใกล้ชิดพ่อหรือไม่ ลูกสาวเสธ.แดงกล่าวว่า คงไม่ไปปรึกษาใครเป็นพิเศษ แต่คงพูดคุยกับพี่เก๋ น.ส.กิติยา สวัสดิผล และคุณป้าพี่สาวของพ่อเท่านั้น เราคงไม่ไปเรียกร้องอะไร เราอยู่ของเรา ตามประสาลูกสาวที่ไม่มีพ่อแล้วเท่านั้น
น.ส.ขัตติยากล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องคดีการลอบสังหารพ่อนั้น ตนจะดำเนินการอะไรบางอย่างที่อยู่ในใจอยู่ เพียงกำลังรอเวลาที่เหมาะสมอยู่ และเมื่อถึงเวลาจะดำเนินการทันที เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับพ่อ
-คุมฝากขัง"หรั่ง"ยันปฏิเสธ
ต่อมาเวลา 13.20 น.เจ้าหน้าที่ดีเอสไอนำตัวนายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายและฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปฝากขังผลัดแรกต่อศาลอาญา รัชดาฯ เป็นเวลา 12 วัน จากวันที่ 17-28 ก.ค. โดยเจ้าหน้าที่นำตัวมาในรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ โดยนายหรั่งมีสีหน้าเคร่งเครียด สวมหมวกแก๊ป เสื้อยืดคอปกสีน้ำเงิน กางเกงสามส่วนสีน้ำตาลอ่อน รองเท้าแตะ ระหว่างเดินเข้าห้องพิจาณาคดี ผู้สื่อข่าวสอบถามว่ายอมรับหรือปฏิเสธข้อกล่าวหา นายหรั่งหันมามองหน้าผู้สื่อข่าว แล้วส่ายหน้าไปมา
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าคดีนี้ยอมรับหรือปฏิเสธ นายสุรชัยหันมาตอบว่า ขอปฏิเสธ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะรีบนำตัวเข้าไปในห้องทันที ซึ่งการฝากขังครั้งนี้พนักงานสอบสวนคัดค้านประกันตัว ให้เหตุผลว่า เนื่องจากผู้ต้องหาก่อคดีอุฉกรรจ์ เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ หากปล่อยตัวไปอาจหลบหนี เพราะเคยหลบหนีออกไปนอกประเทศ และผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในชั้นพนักงานสอบ สวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องคดีร้ายแรงขณะประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยขอให้ศาลควบคุมตามอำนาจต่อไป
พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ยื่นคำร้องต่อศาลระบุพฤติการณ์ว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 07.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าผู้ต้องหา ซึ่งหลบหนีคดีจากประเทศกัมพูชากลับเข้ามากบดานที่ห้องพัก เลขที่ 17 โรงแรมฟอร์ยู อ.เมือง จ.ลพบุรี จึงขอหมายค้นจากศาลเข้าจับกุมขณะผู้ต้องหานอนหลับอยู่ในห้องดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน ตามหมายจับศาลอาญา วันที่ 19 พ.ค.2553 เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกัน หรือใช้ให้ผู้อื่น หรือสนับสนุนให้มีการกระทำผิดก่อการร้าย ซึ่งมีพฤติการณ์กระทำผิดระหว่างเดือนพ.ย.2552 ถึงพ.ค.2553 ในพื้นที่กทม. ปริมณฑล และบางจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่ากระทำผิดโดยยิงอาวุธปืนเข้าไปโรงแรมดุสิตธานี ถนนสีลม ส่วนอื่นๆ ขอให้การปฏิเสธ ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง
-อุ้มลูก 26 วันร้องความเป็นธรรม
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 27 หมู่ที่ 2 บ้านโคกใหญ่ ต.ร่อนทอง อ.สตึก จ.บุรี รัมย์ บ้านของนายสุรชัย หรือหรั่ง พบน.ส.เดือน กาไธสง อายุ 28 ปี ภรรยานายหรั่งกำลังนั่งไกวเปลลูกสาวอายุเพียง 26 วันที่นอนอยู่ในเปลใต้ต้นไม้หน้าบ้าน โดยมีนางเลี้ยง แสนกล้า อายุ 51 ปี มารดาและญาติพี่น้องจับกลุ่มพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนางเลี้ยงและน.ส.เดือนอุ้มลูกน้อยร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายหรั่ง
นางเลี้ยง มารดานายหรั่งกล่าวว่า ทราบข่าวลูกชายถูกจับกุมก็รู้สึกตกใจและเสียใจมาก เพราะไม่เชื่อว่าลูกจะก่อเหตุความรุนแรงตามที่ถูกกล่าวหาจนตกเป็นผู้ต้องหาก่อการร้าย แต่ยอมรับว่าลูกชายไปร่วมเคลื่อนไหวชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง และเป็นการ์ด นปช.จริง นายหรั่งเป็นลูกคนที่ 4 ในจำนวน 5 คน เป็นชาย 3 หญิง 2 ข้อกล่าวหาลูกชายไม่มีทั้งพยานและหลักฐานชัดเจน ถ้าเป็นความจริงก็ควรนำข้อมูลหลักฐานมายืนยันชี้แจงด้วย เกรงว่าลูกชายจะตกเป็นแพะรับบาป จึงอยากเรียกร้องให้ความเป็นธรรมกับลูกชายด้วย เพราะขณะนี้ภรรยาของลูกเพิ่งคลอดบุตรได้เพียง 26 วันเท่านั้น
-ตร.ต่อสายให้คุยกับแม่
"เมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเย็นวานนี้ตำรวจได้ให้ลูกชายโทร.มาหา แต่ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก บอกเพียงว่าถูกจับ ก็ได้แต่บอกให้ลูกชายสู้ และบอกอะไรที่เป็นความจริง หากไม่ใช่เรื่องจริงอย่ายอมรับ พูดคุยกันแค่นั้น สายก็ตัดไป รู้สึกเป็นห่วงลูก ไม่รู้จะอยู่จะกินอย่างไร ทุกคนคงเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ดี แม้ลูกจะเป็นอย่างไรก็ยังรัก อยากไปเยี่ยมลูก ทุกวันนี้ก็ได้แต่ไหว้พระสวดมนต์ขอให้ลูกชายปลอดภัย" นางเลี้ยงกล่าว
ด้านน.ส.เดือนกล่าวว่า รู้ข่าวก็เสียใจ อยากให้ตำรวจมีหลักฐานยืนยันว่าผิดจริงก่อนตั้งข้อหาจับกุม เพราะช่วงที่อยู่กรุงเทพฯ ไม่ได้อยู่กับสามีตลอด จะไปขายของกับพี่สาว บางครั้งสามีก็จะมาช่วยขายตามตลาดนัด จนเมื่อประมาณวันที่ 11 เม.ย.สามีไปร่วมชุมนุมโดยสมัครเป็นการ์ด และเช่าห้องให้ตนพักอาศัย บางวันก็จะไปตามสามี บ้างแต่ไม่บ่อย ส่วนสามีจะไปร่วมมือกับใคร หรือรู้จักใครเป็นพิเศษนั้นไม่ทราบ และไม่เคยบอก ส่วนใหญ่จะโทร.คุยกัน เพราะช่วงนั้นกำลังท้องแก่ จากนั้นก็ไม่พบสามีอีกเลย หลังสิ้นสุดการชุมนุม
-เสื้อแดงจัดกิจกรรมเสาร์-อาทิตย์
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบ.ก.ลายจุด ผู้ก่อตั้งมูลนิธิกระจกเงา และแกนนำกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในวันเสาร์ที่ 17 ก.ค.ว่า ทางกลุ่มจะรวมตัวกันเวลา 10.00 น.ที่วัดปทุมวนาราม เวลา 11.00 น.ร่วมกันถวายเพลเลี้ยงพระ 9 รูป เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับคนเสื้อแดงที่เสียชีวิต จากนั้นพบปะพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกัน
ส่วนกิจกรรมในวันอาทิตย์ที่ 18 ก.ค. ซึ่งเป็นวันครบรอบ 2 เดือนที่มีการสลายการชุมนุม หลายๆเครือข่ายจะร่วมกันในนามกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง จัดกิจกรรมลักษณะเชิงสัญลักษณ์ และชักชาวให้เครือข่ายมาร่วมกันผูกผ้าสีแดงที่นำมาจากบ้านมาผูกรอบๆ พื้นที่สี่แยกราชประสงค์ เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่ผ่านมา โดยกิจกรรมจะทำกันอย่างเงียบๆ ไม่ให้เกิด ความวุ่นวาย มีกำหนดการดังนี้ เวลา 17.00 น. เครือข่ายกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง พร้อมใจกับสวมเสื้อสีแดง นำผ้าสีแดงมาผูกรอบๆ พื้นที่สี่แยกราชประสงค์ ให้กินพื้นที่เท่าที่จะผูกได้ เวลา 18.00 น.กลุ่ม"ที่นี่มีคนตาย" รวมตัวกันนอนตาย เป็นเชิงสัญลักษณ์ว่าที่นี่มีคนตาย เวลา 19.00 น.จุดเทียนสีแดง เพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต โดยจะทำกันอย่างเงียบๆ ไม่สร้างความวุ่นวายใดๆ
-พธม.หยั่งเชิงตร.คดีก่อการร้าย
เมื่อเวลา 10.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เข้าพบพล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้ช่วยผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีกลุ่มพันธมิตรฯ บุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง หลังออกหมายเรียกแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุม 79 คน ข้อหาก่อการร้ายและความผิดตามกฎหมายอาญาอื่นๆ อีกหลายข้อหา
พล.ต.ท.สมยศกล่าวว่า ยินดีที่ทนายกลุ่มพันธ มิตรฯ เข้าพบเพื่อจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับคดี ซึ่งคดีนี้เป็นคดีเดียวกับที่ พล.ต.อ.วุฒิ พัวเวส ที่ปรึกษา(สบ10) เคยเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ตนได้รับคำสั่งให้ดำเนินการต่อ การนัดผู้ถูกกล่าวหาตามวันเวลาสถานที่ตามที่ทราบนั้น พนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่าเหมาะสม แต่หากทางพันธมิตรฯ ต้องการเปลี่ยนแปลงก็ยืดหยุ่นได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ยืนยันว่าพนักงานสอบสวนทำงานตามกรอบกฎหมาย
ด้านพล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบช.ก. ชี้แจงรายละเอียดการมอบตัวตามหมายเรียกว่า คดีนี้ดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย แต่ขอร้องว่าในวันที่เข้ามาพบพนักงานสอบสวนอย่ารวมตัวชุมนุมกัน เนื่องจากจะทำให้เกิดความวุ่นวาย และยากต่อการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งยังอยู่ในช่วงประกาศใช้พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ส่วนที่ออกหมายเรียกมาพบเพียงวันละ 3 คนนั้น เพราะต้องการอำนวยความสะดวก เพราะมีขั้นตอนตามกฎหมายหลายขั้น เกรงว่าหากมาพร้อมกันคราวละจำนวนมากจะไม่สามารถดำเนินการได้ทัน ทั้งนี้หากผู้ถูกกล่าวหาคนใดไม่มีทนาย ตำรวจได้จัดเตรียมไว้ให้ด้วย
ขณะที่นายนิติธรกล่าวว่า มาเพื่อขอทราบความชัดเจนว่าพนักงานสอบสวนดำเนินการเหมือนชุดก่อนหรือไม่ รวมทั้งมาขอทราบช่วงเวลาที่ชัดเจนในการมอบตัว เนื่องจากมีผู้ถูกกล่าวหามีจำนวนมากจะได้จัดทีมทนายได้ ซึ่งภายในสัปดาห์หน้าจะประชุมผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดเพื่อทำความเข้าใจขั้นตอนการเข้ามอบตัวตามหมายเรียก ก่อนมาพบพนักงานสอบสวนวันที่ 28 ก.ค.
-ป.ป.ช.สอบเพิ่มถอดถอน"กษิต"
ที่สำนักงานป.ป.ช. นายกล้านรงค์ จันทิก โฆษกคณะกรรมการป.ป.ช. แถลงว่า ตามที่มีผู้ยื่นถอดถอนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ ออกจากตำแหน่ง กรณีแต่งตั้งนายกษิต ภิรมย์ ดำรงตำแหน่งรมว.ต่างประเทศ ที่กระทำความผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2538 มาตรา 6 ทวิ และมาตรา 11 กรณีเป็นตัวการหรือสนับสนุน ทำให้การบริการของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมืองหยุดชะงักลง ซึ่งกรณีดังกล่าวมีการร้องถอดถอนนายกษิตมาด้วยเช่นเดียวกันนั้น จากการไต่สวนทราบว่ากลุ่มพันธมิตรฯได้เชิญนายกษิต ขณะนั้นยังไม่ได้ดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ไปร่วมแสดงความคิดเห็น วิจารณ์การทำงานรัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ และเมื่อมีรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ได้ตั้งนายกษิตเป็นรมว.ต่างประเทศ ซึ่งในประเด็นกล่าวหานี้ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการแต่งตั้งนายกษิต เหตุผลการแต่งตั้ง รวมทั้งคำร้องได้ร้องอีกว่า ต่อมามีการเสนอร่างกฎหมายว่าด้วยปลอดภัยและรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พ.ศ.... ซึ่งให้การชุมนุมดังกล่าวมีความผิดเป็นเพียงเสียค่าปรับเท่านั้น ซึ่งการเสนอร่างเพื่อให้นายกษิตกับกลุ่มพันธมิตรฯได้รับประโยชน์ ป.ป.ช.จึงมีมติมอบหมายพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการไต่สวนเพิ่มเติมก่อนจะวินิจฉัย
-"มาร์ค"แจงสหรัฐเรื่องเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 15.45 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าพบของนายวิลเลียม เบิร์นส์ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ฝ่ายกิจการการเมือง ว่าตนพูดเหมือนเดิมว่าปีนี้ยังต้องการความมีเสถียรภาพ ซึ่งตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไปก็ดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม ยังยืนยันในจุดยืนเดิมว่าอยากให้เลือกตั้งเร็วต้องช่วยทำให้บ้านเมืองสงบ แต่ใครที่คิดใช้กำลังข่มขู่เพื่อให้มีเลือกตั้ง ประเทศไม่ควรตอบสนองความต้องการลักษณะนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าวันนี้ยังมั่นใจสถานการณ์ว่ารัฐบาลสามารถควบคุมได้ นายกฯกล่าวว่าเป็นหน้าที่และเราทำอย่างเต็มที่ การจับกุมตัวนายสุรชัย หรือหรั่ง เทวรัตน์ ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญารายล่าสุดก็คงขยายผล เราต้องการเจาะเข้าไปเฉพาะกลุ่มที่ใช้ความรุนแรง ยืนยันว่าคนที่มีการเคลื่อนไหวมีความคิดเห็นแตกต่างขณะนี้ถ้าแยกออกมาได้จากกระบวนการของการใช้ความรุนแรงได้เมื่อไหร่ทุกอย่างจะง่ายขึ้น
เมื่อถามว่าแต่เจ้าหน้าที่ตั้งคำถามเหมือนเป็นการโยนความผิดให้คนตายอย่างพล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่าคงไม่ได้พูดในลักษณะนั้น น่าจะเป็นเรื่องของภาพรวมมากกว่า เพราะที่ผ่านมาจะพูดประหนึ่งว่าเหตุการณ์ความรุนแรงทั้งหลายมีทั้งการกล่าวหาว่ารัฐทำเองบ้าง หรือเป็นฝีมือกลุ่มอิสระโดยไม่โยงใยกับใคร แต่ความจริงไม่ใช่
-ศอฉ.จับตา"แดง"วันเกิดแม้ว
วันเดียวกันเวลา 16.00 น. ที่บก.ทบ. พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ในฐานะรองผอ.ศอฉ. เป็นประธานประชุมศอฉ. โดยมีพล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รองผบ.ทบ. พล.อ.พิรุณ แผ้วพลสง เสธ.ทบ. พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ นายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสมช. ร่วมประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมวันนี้สำนัก งานตำรวจแห่งชาติมอบหมายหน่วยอรินทราช รายงานผลจับกุมนายสุรชัย หรือหรั่ง คนใกล้ชิดเสธ.แดงให้ที่ประชุมรับทราบ ซึ่งที่ประชุมมอบดีเอสไอร่วมสอบสวนเพื่อขยายผลติดตามเครือข่ายกลุ่มก่อการร้ายว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างไร โดยที่ประชุมชื่นชมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่จับกุมนายหรั่งได้ เพราะจะสามารถขยายผลไปยังกลุ่มอื่นๆได้อีก โดยพบข้อมูลว่านายหรั่งพบกับแกนนำเสื้อแดงที่หนีหมายจับเข้าไปประเทศกัมพูชาหลายคน
รายงานข่าวเปิดเผยว่า กอ.รมน.รายงานความเคลื่อนไหวคนเสื้อแดงว่า ยังมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง ในการจัดงานบุญต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงวันเกิดพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ วันที่ 26 ก.ค.นี้ แต่ที่ประชุมไม่ได้สั่งการใดๆเป็นพิเศษ ทั้งนี้พล.อ.ประวิตรเป็นห่วงสถาน การณ์จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามจับกุมเครือข่ายก่อการร้ายที่ศาลอนุมัติหมายจับให้ได้ โดยเฉพาะนายกบ ไม่ทราบชื่อนามสกุลซึ่งกำลังเป็นที่ต้องการตัวอย่างมาก
-จตุพรไม่รู้จัก"หรั่ง"จับแค่ปั่นข่าว
ขณะที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แกนนำนปช. กล่าวถึงการจับตัวนายสุรชัย หรือหรั่งว่า ยืนยันว่าไม่เคยเจอตัวและไม่เคยรู้จักบุคคลดังกล่าว มองว่ากรณีนี้เหมือนกรณีที่จับกุมผู้ต้องหาวางระเบิดพรรคภูมิใจไทย เมื่อจับแล้วก็มีการสารภาพความผิดอย่างรวดเร็ว จากนั้นใช้กระบวนการปั่นข่าว แต่ปรากฏว่าโยงไปโยงมาก็ไปโยงกันเอง ที่ผ่านมาดีเอสไอเคยมีพฤติกรรมทำนองนี้มาแล้ว