พระลำพูนทำงามหน้าแจ้งความจับสีการีดไถเงิน อ้างถูกหลอกให้ไปหาที่ห้องเช่า
ก่อนได้เสียเป็นผัวเมียกันมานานกว่า 5 เดือน แถมยังให้เงินใช้ ล่าสุดถูกสาวใหญ่เรียกเงิน 3 หมื่นแลกคลิปขณะมั่วกาม ตร.ซ้อนแผนรวบสีกาพร้อมหนุ่มอีกคน สารภาพไปมาหาสู่กันนานกว่า 5 เดือนแล้ว แต่เกิดโลภเลยเรียกเงินก้อนใหญ่ ไม่คิดว่าพระจะหักหลัก ขณะที่พระละอายดอดไปสึกจากพระ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 15 ก.ค. พ.ต.ท. ปกรณ์ หวันชัยศรี สารวัตรเวรสภ.เมืองลำพูน
รับแจ้งจากพระเจริญ ธรรมชัยโย รองเจ้าอาวาสวัดต้นผึ้ง หมู่ 1 ต.เหมืองง่า ว่า ถูกนางสุกัญญา สุภามณี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ถ.เทศบาล 1 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ลำพูน เข้ามารีดไถ่เงิน 30,000 บาท พระเจริญให้การว่า ก่อนหน้านี้เมื่อต้นปี พ.ศ.2553 นางสุกัญญาเข้ามาหาขณะกำลังประกอบกิจของสงฆ์ ที่วัดต้นผึ้ง จากนั้นเรียกให้ไปพบที่บ้านเช่าข้างโรงเรียนประตูลี้ ต.ในเมือง เมื่อไปถึงนางสุกัญญาพาเข้าไปในห้อง และใช้กำลังปลุกปล้ำถอดผ้าจีวรออก พร้อมกับกอดจูบจนทำให้ตนเกิดอารมณ์ทางเพศและได้ร่วมหลับนอนด้วยกันตั้งแต่นั้น และอาตมาให้เงินไปใช้บางส่วนตลอดมา และในระหว่างที่ร่วมหลับนอนด้วยกัน ไม่ทราบว่านางสุกัญญาใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอระหว่างที่กำลังร่วมเพศกันไว้
กระทั่งช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ นางสุกัญญาโทรศัพท์มาหา บอกว่าต้องการเงิน 30,000 บาท เพื่อแลกกับคลิปวิดีโอที่แอบถ่ายไว้เมื่อครั้งหลับนอนด้วยกัน
โดยนางสุกัญญาบอกว่าหากไม่มีเงินให้ตามจำนวนดังกล่าว จะนำคลิปวิดีโอออกเผยแพร่ อาตมาจึงขอให้ตำรวจจับกุมตัวมาดำเนินคดีด้วย หลังรับแจ้งจึงได้ประสานกับพ.ต.ท.เอกพงษ์ ไชยวงศ์สาย สว.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และนายกิตติ ทิพย์มณี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.เหมืองง่า ให้สืบสวนวางแผนจับกุมนาง สุกัญญา
รวบสีกาขู่รีดเงินพระ-แลกคลิปกาม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนให้พระเจริญนำเงินสด 30,000 บาท ไปให้นางสุกัญญาตาม ที่นัดหมายไว้
แต่ตำรวจได้ถ่ายเอกสารเงินสดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งพระเจริญนัดหมายนางสุกัญญาที่ข้างโรงเรียนจักรคำคณาทร จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ซุ่มรออยู่ เมื่อถึงเวลานัดหมายนางสุกัญญานั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ฟีโน่มา โดยมีนายภาณุพันธ์ อูปแก้ว อายุ 21 ปี เป็นคนขับ ระหว่างที่กำลังส่งมอบเงินกันอยู่นั้น ตำรวจพร้อมผู้ใหญ่บ้านจึงแสดงตัวเข้าจับกุมตัวทั้ง 2 คนเอาไว้
ภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ยึดของกลางได้คือ 1.ซิมการ์ดโทรศัพท์ มีภาพพระเจริญกับนางสุกัญญา 1 อัน 2.เงินสดใช้ล่อไถ่ 30,000 บาท 3.สำเนาถ่ายธนบัตรเงินสด 1 ชุด 4.กระเป๋าใส่เงินแบบผ้าลายดอกสีน้ำเงินขาว 1 ใบ 5.กระเป๋า สะพายสีครีม 1 ใบ 6.ถุงผ้าสีน้ำตาล 1 ถุง 7.รถจักรยานยนต์ 1 คัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาว่าร่วมกันรีดเอาทรัพย์ของผู้อื่น ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพ
โดยนางสุกัญญายอมรับว่า คบหากับพระเจริญมานานกว่า 5 เดือนแล้ว โดยก่อนหน้าเป็นคนขายไอติม และติดต่อกันมานานจนมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง จะเรียกว่าสามีภรรยากันก็ว่าได้ เพราะพระให้เงินใช้มาตลอด แต่ตนไม่ดีเอง อยากได้เงินมาก จึงโทรศัพท์ไปเรียกเงินสด 30,000 บาทจากพระ เพื่อแลกกับซิมการ์ดโทรศัพท์ที่มีภาพทั้ง 2 คน โดยไม่ทราบว่าพระเจริญเข้าแจ้งความกับตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนพระเจริญได้เข้าลาสิกขาที่วัดศรีบุญยืน ต.เหมืองง่า ส่วนนายภาณุพันธ์คนขี่รถจักรยานยนต์พบว่า เป็นทหารสังกัด มทบ.33 กรมทหารราบที่ 7 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเจ้าตัวได้หนีทหาร มทบ.33 ได้ออกหมายจับเลขที่ 103/2552 ลงวันที่ 5 ธ.ค.2552 โดย ร.อ.นทีพร โกมลรัตน์ ได้แจ้งความดำเนินคดีในข้อหากระทำผิดฐานหนีราชการ