ถนนทรุดฮวบ-รถเมล์แล่นตก

เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 11 ก.ค. ร.ต.ท.จำเนียร เศษฤทธิ์ รอง สวป.ทำหน้าที่หัวหน้าสายตรวจ สน.เตาปูน

ได้รับแจ้งเหตุถนนทรุดตัวทำให้รถประจำทางตกลงไปในพื้นผิวถนนที่ทรุดตัว และมีน้ำรั่วไหลออกมาจำนวนมาก เหตุเกิดบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันปตท. สาขากรมการขนส่ง ทบ.ตรงข้ามกรมการทหารสื่อสาร ถนนพระราม 5 แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม.จึงประสานเจ้าหน้าที่การประปานครหลวงและนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลนวิ่งสวนกัน บริเวณหน้าปั๊มน้ำมันดังกล่าวพบรถประจำทางร่วมบริการสาย 5 สีขาวคาดน้ำเงิน

วิ่งระหว่างหมอชิตใหม่-สะพานพุทธ ทะเบียน 11-6032 กทม. หมายเลขข้างรถ 5-8 โดยมีนายสุชาติ พงศ์กัลปพฤกษ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/23 ซอยรัชดาภิเษก 58 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.เป็นผู้ขับขี่ จากการสอบถาม นายสุชาติ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้วิ่งขับรถรับส่งผู้โดยสารตามเส้นทางมุ่งหน้าไปสะพานพุทธ โดยมีผู้โดยสารในรถประมาณ 20 คน กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ ตนก็สังเกตเห็นว่ามีน้ำไหลทะลักออกมาจากบริเวณพื้นถนนหน้าปั๊ม พร้อมทั้งซัดเอาดินโคลนและทรายขึ้นมาจำนวนมาก ตนจึงพยายามจะขับเลี่ยงออกไปทางขวา แต่ยังไม่ทันจะหลบพ้นถนนก็เกิดการยุบตัวอย่างรวดเร็วทำให้รถเมล์ของตนตกหล่มอย่างแรงลงไป ทั้ง 4 ล้อ ทำให้ผู้โดยสารที่อยู่บนรถตื่นตกใจ แต่โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าฯการประปานครหลวง (กปน.)ได้เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับเปิดเผยว่า

สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้น่าจะเกิดจากการที่ท่อลำเลียงน้ำดิบจากโรงกรองน้ำบางซื่อไปโรงกรองน้ำธนบุรีที่มีการวางอยู่ใต้พื้นผิวถนนดังกล่าวเกิดการรั่วซึม เนื่องจากท่อลำเลียงน้ำนี้มีการวางท่อมาตั้งแต่ พ.ศ.2500 มีลักษณะเป็นท่อเหล็กหล่อ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 90 ซ.ม. อาจทำให้เกิดการเสื่อมตามข้อต่อท่อและมีน้ำรั่วซึมออกมา เป็นเหตุให้ดินใต้ผิวถนนเกิดการอ่อนตัวและทรุดตัวดังกล่าวเมื่อถูกน้ำหนักของรถกดทับ

นายเจริญ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จะให้เจ้าหน้าที่ปิดถนนตั้งแต่แยกสะพานแดงจนถึงแยกซอยระนอง 2

เพื่อตรวจสอบความเสียหายของพื้นผิวถนน และจะใช้เวลาในค่ำคืนนี้ซ่อมแซม เพื่อให้สามารถเปิดใช้เส้นทางได้โดยเร็วที่สุดเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับการจราจร รวมถึงจะต้องมีการปิดการส่งน้ำของท่อลำเลียงดังกล่าวเพื่อที่จะได้ยกรถออก จากพื้นผิวถนน รวมถึงอาจต้องลดแรงดันการส่งน้ำบริเวณนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วย สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้น้ำปะปาในบริเวณดังกล่าว