ขณะลาดตระเวนผ่านบ้านบาโย อ.ยะหา จ.ยะลา จนรถพังพินาศ
ทหารพลีชีพ 3 ศพ ชื่อ ส.อ.วีระยุทธ หวังกลิ่น ส.ต.วีระชาติ บุญเกื้อ
และพลฯกำมารูดิง ตูวี เมื่อบ่ายวันที่ 2 ก.ค.
ดับ3ทหารยะลา บึ้มรถเละทั้งคัน
โจรใต้บึ้มรถทหารดับอีก 3 นาย ขณะตรวจเส้นทางที่ยะหา จ.ยะลา ร่างแหลกดับคาที่ 3 ศพ ใช้ระเบิดแสวงเครื่อง20ก.ก.ยัดถังแก๊สปิคนิคฝังใต้ถนน
ก่อนแอบข้างทางกดทำลาย ส่วนเหตุบึ้มดับ 5 ศพที่รือเสาะ เมื่อคืนวันที่ 1 ก.ค. จนท.ระดมกำลังล่ามือระเบิดแล้ว คาดเป็นกลุ่มนายมานะ สาแม ที่เคลื่อน ไหวก่อเหตุในพื้นที่ รวบ 2 ผู้ต้องสงสัย ค้นบ้านเจอระเบิด-ประทัดยักษ์เพียบ ด้าน "เทพเทือก" รับเหตุการณ์ในกรุง ทำให้ห่าง 3 จว.ใต้ ระบุแม้จะมีเหตุแต่ภาพรวมถือว่าดีขึ้น ยันต้องพัฒนาโครงการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 2 ก.ค. พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ รองผบก.ภ.จ.นราธิวาส พ.ต.ท.จันที แจ่มจันทร์ หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิ วาส ร.ต.อ.ไพรัช เกียรติเจริญศิริ พนักงานสอบ
สวนสภ.รือเสาะ และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง เดินทางไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ทหารพรานชุดพัฒนาสันติที่ 3015 กรมทหารพรานที่ 46 เสียชีวิต 3 นาย พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชรบ. บนถนนในหมู่บ้านบอมิ หมู่ 5 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ เมื่อค่ำวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบหาวัตถุพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนเอสเคและปลอกกระสุนปืนพกสั้น ขนาด 9 ม.ม. ของคนร้ายกว่า 40 ปลอก
ที่ใช้ยิงถล่มใส่รถยนต์กระบะของเจ้าหน้าที่หลังวางระเบิดแล้ว ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน พร้อมด้วยชิ้นส่วนถังดับเพลิงใช้ประกอบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง รวมทั้งสายไฟฟ้าสีเขียวจำนวนหนึ่ง ที่คนร้ายต่อพ่วงไปจุดชนวนหลังต้นไม้ใหญ่ริมทาง ห่างจากจุดระเบิดประมาณ 80 เมตร จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือของกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเค กลุ่มนายมานะ สาแม ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุสร้างความวุ่นวาย อยู่ในพื้นที่บ้านบอมิ หมู่ 5 ต.รือ เสาะ ล่าสุด พ.ต.อ.บรรลือ ชูเวทย์ รองผบก. ภ.จ.นราธิวาส สั่งการให้ พ.ต.อ.สามารถ วิชัยขัทคะ ผกก.สภ.รือเสาะ สนธิกำลังกับทหารและฝ่ายปกครอง 70 นาย พร้อมสุนัขสงคราม 3 ตัว ติดตามไล่ล่าคนร้ายที่หลบหนีขึ้นเทือกเขาหลังหมู่บ้าน
ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.อ.จัตุพร กลัมพสุต หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายข่าว พตท. ร่วมสนธิกำลังกับตำรวจทหาร 50 นาย บุกจู่โจมตรวจค้นบ้านพักต้องสงสัย
ที่คาดว่ากลุ่มคนร้ายแอบกบดานอยู่ ที่บ้านเลขที่ 60 บ้านพงจือติ หมู่ 9 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เจ้าหน้า ที่ของกลางได้จำนวนมากคือ ระเบิด 50 ลูก ประทัดยักษ์ 100 อัน ซองกระสุนปืนอาก้า 1 ซอง หมวกไหมพรม กล้องติดปืน โทรศัพท์มือถือ และชุดลายพรางทหาร และควบคุมตัว 2 พี่น้องต้องสงสัย มาสอบสวนที่สภ.รือเสาะ คือ นายมะรอสือดี ซิกะ และนายมามะรอกิ ซิกะ เบื้องต้นทั้งสองให้การปฏิเสธ โดยให้การว่า ของกลางดังกล่าวเป็นของเพื่อนไม่ทราบชื่อ ซึ่งได้หลบหนีไปขณะเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่เตรียมนำผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนไปสอบสวนขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง กับเหตุคดีความมั่นคงในพื้นที่อ.รือเสาะ รวมไปถึงมีส่วนเกี่ยวข้องและรู้เห็นกับเหตุวางระเบิดทหารพรานเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมาหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เวลา 10.30 น. ที่วัดบางนรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส พล.ท.กสิกร คีรีศรี ผบ.พตท. เป็นประธานรดน้ำศพ จ.ส.อ.เกียรติชัย แย้มทับ หัวหน้าชุดทหารพัฒนาสันติที่ 30-15 และ อส.ทพ.พัสกร สุขประการ
ที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายวางระเบิดที่ อ.รือเสาะ โดยมีพ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ. กรมทหารพรานที่ 46 และเพื่อนข้าราชการทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครอง กว่า 300 นาย มาร่วมงานท่ามกลางบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ก่อนจะมีการเคลื่อนย้ายศพจ.ส.อ. เกียรติชัย ไปบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนาจ.ลพบุรี และเคลื่อนย้ายศพ อส.ทพ.พัสกร สุขประการ ไปบำเพ็ญกุศลที่จ.ชุมพร ส่วน ศพอส.ทพ.การิม แก้วสลำ กลับไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่บ้านเกิดอ.ควนโดน จ.สตูล
ส่วนศพของนายอับดุลรอแม แวกาจิ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านสโลว์ หมู่ 7 ต.รือเสาะ และศพของนายรุสมัน มะมิง ชรบ. ญาติรับศพไปประกอบพิธีฝังตามประเพณีแล้ว ตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา
พล.ท.กสิกรกล่าวว่า ได้กำชับให้พล.ต.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผบ.ฉก.นราธิวาส พ.อ.ไพศาล หนูสังข์ ผบ.กรมทหารพรานที่ 46 และพล.ต.ต. ชัยทัต อินทนูจิตร ผบก.ภ.จ.นราธิวาส และผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ให้เร่งรัดสืบสวนและติดตามคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วแล้ว
ต่อมาเวลา 10.30 น. พ.ต.อรัญ เอี่ยมอิ่มสำราญ หัวหน้าฝ่ายข่าวทหารพรานที่ 46 พร้อมกำลังพลเคลื่อนศพ อส.ทพ.การิม แก้วสลำ ลงที่สนามหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 45 อ.ควน โดน จ.สตูล โดยมี พ.อ.ปรีชา สาลีผล ผบ. นพค.45 ญาติ และนายอาหมาด แก้วสลำ บิดา นางฟาตีย๊ะ แก้วสลำ อายุ 53 ปี มารอรับ จากนั้นเคลื่อนศพด้วยรถยนต์ไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม ที่บ้านเกิดเลขที่ 37 หมู่ 7 ต.ควนโดน
จากนั้นเวลา 14.00 น. เคลื่อนศพไปฝังที่กุโบร์บ้านนาปริก หมู่ 9 โดยพ.ต.อรัญได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น แก่ครอบครัวของอส. ทพ.การิม เป็นเงิน 150,000 บาท และจะให้การช่วยเหลือตามระเบียบราชการต่อไป
วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ติดตามสถานการณ์และพยายามแก้ไขอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่บังเอิญที่ผ่านมามีปัญหาในกทม.มาก จึงเดินทางลงไปในพื้นที่น้อยมาก แต่ต่อไปนี้จะลงพื้นที่ให้มากขึ้น และเป็นห่วงโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตยกระดับรายได้ของประชาชน ซึ่งพยายามทำให้เสร็จสมบูรณ์ให้มากที่สุด อย่างไรก็ตามเท่าที่ลงไปในพื้นที่และได้สัมผัสกับประชาชน ข้าราช การ และผู้นำศาสนา ถือว่าสถานการณ์ในภาพรวมดีขึ้น แต่การก่อการร้ายยังมีอยู่เป็นธรรมดา และถือว่าประชาชนมีความพึงพอใจ มีความเชื่อมั่นในกระบวนการการพัฒนาของรัฐบาลที่เข้าถึงตัวประชาชน
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า วันนี้ได้เรียกสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มาประเมินเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น เพราะลักษณะ 2 เหตุการณ์หลัง มีการพัฒนาไปอีกระดับหนึ่งที่มีความรุนแรงมากขึ้น
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่า ที่เจ้าหน้าที่เสียชีวิตเพราะอุปกรณ์ตัดสัญญาณถูกนำมาให้ที่กทม.ทั้งหมด นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนจะสอบถามฝ่ายปฏิบัติว่ามีปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร และต้องดูลักษณะการจุดกับอุปกรณ์ด้วยว่าเป็นอย่างไร เมื่อถามว่าสาเหตุที่ผู้ก่อเหตุใช้วิธีรุนแรงขึ้นคืออะไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มันมีการพัฒนารูปแบบของฝ่ายที่ก่อความไม่สงบ เราจะเห็นว่ามันมีความเปลี่ยนแปลงมาตามลำดับ แต่สภาพความรุนแรงในพื้นที่แตกต่างกัน ตนจึงเร่งให้สมช.ไปดู
วันเดียวกัน เวลา 13.45 น. ศูนย์วิทยุสภ.ยะหา จ.ยะลา รับแจ้งจากทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 14 ยะหา ว่า
เกิดเหตุคนร้ายวางระเบิดรถยนต์ของทหารขณะลาดตระเวนเส้นทางในหมู่บ้าน ที่บ้านบาโย หมู่ 8 ต.บาโล๊ะ มีทหารเสียชีวิตคาที่ 3 นาย พล.ต.สายัณห์ กระ แสแสน ผบก.ภ.จว.ยะลา พ.อ.มณี จันทร์ทิพย์ รองผอ.รมน.ยะลา พ.ต.อ.สวัสดิ์ เตียวิรัตน์ ผกก.สภ.ยะหา และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด และชุดพิสูจน์หลักฐาน จากศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุเป็นถนนลูกรังผ่านสวนยางพาราในหมู่บ้าน พบซากรถยนต์กระบะ 4 ประตู บรอนซ์เงิน ทะเบียน ม 0514 ปัตตานี พังยับเสียหายทั้งคัน ใกล้กันพบศพส.อ.วีระยุทธ หวังกลิ่น ส.ต.วีระชาติ บุญเกื้อ และพลทหารกำมารูดิง ตูวี ทหารสังกัดร้อย ร.154 หน่วยเฉพาะกิจที่ 14 ยะหา ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่วัดสวนแก้ว บ้านปูแหล ต.บาโร๊ะ อ.ยะหา จ.ยะลา เสียชีวิตในสภาพร่างกายแหลกเละ กระจายไปทั่วบริเวณ
ในที่เกิดเหตุพบหลุมระเบิดกว้าง 180 ซ.ม. ลึก 80 ซ.ม. และสายไฟลากเข้าไปในสวนยางพาราใกล้ที่เกิดเหตุกว่า 150 เมตร โดยคนร้ายฝังระเบิดแสวงเครื่อง 20 ก.ก. ในถังแก๊สปิคนิคไว้ใต้ถนน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบลายนิ้วมือต่อไป สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทั้งหมดลาดตระเวนเส้นทางภายในหมู่บ้าน โดยใช้รถยนต์กระบะคันดังกล่าว เมื่อถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายได้กดชนวนระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว