สาวสุดทนโดนซ้อมประจำมีดแทงแฟนดับ

สาวแทงแฟนหนุ่มดับ สุดทนโดนซ้อมเป็นประจำเวลาทะเลาะกัน ครั้งนี้ทนไม่ไหวคว้ามีดปลอกผลไม้กระซวกราวนมด้านซ้าย กระเสือกกระสนขาดใจตายทางเข้าออกอพาร์ทเมนต์...

เมื่อเวลา 02.00 น.วันที่ 27 มิ.ย.2553 ร.ต.อ.วิชิต วรรณพฤกษ์ พงส.(สบ1) สน.พหลโยธิน รับแจ้งมีเหตุแทงกันตายภายใน ภาวิณี อพาร์ทเมนต์ ซอยพหลโยธิน 24 แยก 1 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ ผกก.สน.พหลโยธิน ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ตำรวจ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 5 ชั้น ที่ชั้นล่างภายในประตูทางเข้า-ออกอาคาร พบผู้เสียชีวิตเป็นชาย สภาพนอนหงายจมกองเลือด ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นลายการ์ตูนอยู่ที่หน้าศาลเจ้าของอาคารดังกล่าว มีร่องรอยถูกแทงด้วยของมีคม แทงเข้าที่เหนือราวนมด้านซ้าย 1 รู

ทราบชื่อต่อมาคือ นายกิตติศักดิ์ ใจสุบรรณ อายุ 28 ปี อาชีพคุมวินรถตู้ย่านอนุสาวรีย์ชัยฯ อยู่บ้านเลขที่ 52/1 หมู่1 ต.ทุ่งแค้ว อ.หนองม่วงไข่ จ.แพร่ ซึ่งพักอยู่ที่ห้องเลขที่ 222 ภายในอาคารดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ทราบว่าผู้ก่อเหตุแทงนายกิตติศักดิ์เสียชีวิต คือ น.ส.จิราพร บุญมา อายุ 29 ปี ซึ่งแฟนสาวของผู้ตายเอง หลังก่อเหตุได้หลบหนีเข้าไปอยู่ภายในห้องพัก จึงขึ้นไปควบคุมตัวได้พร้อมของกลางมีดปลอกผลไม้ปลายแหลม ยาวประมาณ 5 นิ้ว

จากการสอบสวนเบื้องต้น น.ส.จิราพร ยังอยู่ในอาการตกใจและร้องไห้ตลอดเวลา ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือแทงผู้ตาย เนื่องจากก่อนเกิดเหตุได้ทะเลาะกันกับผู้ตาย แล้วถูกผู้ตายตบตีจึงบันดาลโทสะหยิบมีดปลอกผลไม้ที่อยู่ใกล้ๆ แทงปักไปที่เหนือราวนมซ้าย 1 ครั้ง จนผู้ตายลมลงแล้วดิ้นทุรนทุราย ก่อนจะหนีออกจากห้องพักลงมาขอความช่วยเหลือจากผู้ที่อยู่ด้านล่างตึก และ เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้คิดจะฆ่าแฟนหนุ่มให้ถึงตาย เพราะตนรักแฟนหนุ่มอย่างมาก แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกันก็มักจะถูกทำร้ายร่างกายเสมอ ครั้งนี้จึงทนไม่ไหวเลยก่อเหตุดังกล่าว

จากการสอบถามผู้ดูแลอาคาร เล่าว่า ผู้ตายกับผู้ก่อเหตุได้มาพักอยู่ที่นี่ประมาณ 3 เดือนแล้ว ทราบเพียงว่าทั้งสองคนมีอาชีพคุมวินรถตู้อยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ โดยทั้งคู่มักมีปากเสียงกันเป็นประจำ ตนไปตักเตือนอยู่เสมอๆ ว่าอย่าทะเลาะกัน ให้เกรงใจผู้อยู่อาศัยรายอื่นๆ ด้วย และ น.ส.จิราพร เคยบ่นให้ฟังเสมอๆ ว่า ตอนที่ถูกทำร้ายร่างกายไม่เคยเห็นมีใครแจ้งความให้เลย และก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกัน จากนั้นมีผู้อยู่อาศัยในอาคารวิ่งมาบอกว่า นายกิตติศักดิ์ ถูกทำร้ายร่างกายเลือดท่วมตัวลงมาร้องขอความช่วยเหลืออยู่ที่ประตูทาง เข้า-ออก ด้านในอาคารจึงรีบวิ่งไปดู ก็เห็นนายกิตติศักดิ์ นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ให้เดินทางมาช่วยเหลือ แต่เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็ได้ช่วยปั๊มหัวใจให้กับนายกิตติศักดิ์แต่ไม่ทันการณ์

ด้าน ร.ต.อ.วิชิต กล่าวว่า เบื้องต้นได้ควบคุมตัว น.ส.จิราพร ไปที่ สน. แต่ยังคงสอบปากคำไม่ได้ เนื่องจาก น.ส.จิราพร ยังอยู่ในอาการตกใจ และเป็นลมอยู่ตลอดเวลา คงต้องรอให้อาการดีขึ้นก่อน และเหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าน่าจะเกิดจากการทะเลาะวิวาทกันจนเกิดการบันดาลโทสะ และ ก่อเหตุดังกล่าวขึ้น