ลักลอบขนตัวนิ่ม มูลค่ากว่าครึ่งล้าน

ตำรวจพรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร จับ 2 ผู้ต้องหาขนตัวนิ่มสัตว์ป่าคุ้มครองเต็มท้ายรถกระบะ รวมตัวนิ่มประมาณ 70 ตัว หนัก 200 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 5 แสนบาท สารภาพนายทุนจากเพชนบูรณ์จ้าง 5 พันให้มาขน......

เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.เวลา 20.00 น.ที่สถานีตำรวจภูธรพรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร พ.ต.อ.พิสิษฐ์ ทรัพย์สิน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพรานกระต่าย

ทำการสอบสวนนายสุรศักดิ์ กลิ่นสุคนธ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 146/1 ม.ที่ 3 ต.ระวิง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ และนายธีรยุทธ เนตรแสงศรี อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/4 ม.ที่ 2 ต.ระวิง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ พร้อมของกลางตัวนิ่มประมาณ 70 ตัว ใส่ในกระกระสอบตาข่าย 27 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 200 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 5 แสนบาท

โดยก่อน เกิดเหตุ พ.ต.ท.เสมอ แสงสนธ์ สารรวัตรสืบสวน พร้อมด้วย ร.ต.ท.ธวัช รุ่งโรจน์ รองสารวัตรสืบสวน

นำกำลังชุดสืบสวนออกตะเวณหาข่าวและดูแลความสงบเรียบร้อย ไปตามถนนสายพรานกระต่าย-ท่าไม้ เมื่อขับรถมาถึงบ้านลานสะเดา ม.ที่ 1 ต.ท่าไม้ อ.พรานกระต่าย พบเห็นรถกระบะ 2 คันขับผ่านมาด้วยความเร็วสูง ที่กระบะท้ายมีผ้าใบคลุมมิดชิดทั้ง 2 คัน ตำรวจจึงส่งสัญญาณให้รถจอดเพื่อขอตรวจค้น แต่รถทั้ง 2 คันกลับเร่งเครื่องหนี ตำรวจจึงขับรถติดตาม แต่รถคันหลังได้พยายามขับรถกันโดยขับส่ายไปมา ไม่ยอมให้รถตำรวจแซง หลังจากที่ขับไล่อยู่นานจนมาถึงบริเวณ 3 แยกวังประจบ รถทั้ง 2 ได้แยกไปคันละทาง ตำรวจตัดสินใจขับรถไล่ตามคันหน้าซึ่งเป็นรถกระบะยี่ห้อนิสสัน หมายเลขทะเบียน ถค.9954 กรุงเทพฯ เพราะคาดว่า คงจะต้องมีสิ่งของผิดกฎหมายซุกซ่อนมาในรถ

ในที่สุดตำรวจก็สามารถสกัดจับรถคันดังกล่าวได้ มีนายสุรศักดิ์ เป็นคนขับ ส่วนนายธีรยุทธ นั่งโดยสารมา

เมื่อเปิดผ้าคลุ่มท้ายรถออกก็พบตัวนิ่มจำนวนดังกล่าวอยู่เต็มท้ายรถ จึงนำตัวพร้อมของกลางทั้งหมดมาส่งให้ พ.ต.อ.พิสิษฐ์สอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่า นางกัลยา แก้วจินดา หรือเจ๊ตุ๊ก บ้านอยู่ ต.ระวิง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นเจ้าของรถ ว่าจ้างให้พวกตนเป็นเงิน 5 พันบาท ให้ขับรถมารับตัวนิ่มที่ ต.วังประจบ อ.เมือง จ.ตาก เมื่อตนขับรถมาถึง ต.วังประจบก็ต้องขับเข้าไปในป่า ซึ่งจะมีคนนำตัวนิ่มมารออยู่แล้ว จากนั้นก็รีบขนขึ้นรถ โดยพวกตนต้องขับรถขนตัวนิ่มไปส่งที่ จ.พิษณุโลก ซึ่งจะมีคนมารับไปอีกทอดหนึ่ง

ผู้ต้องหายังให้การอีกว่า เคยมารับตัวนิ่มไป 5-6 ครั้งแล้ว แต่ละครั้งจะมากัน 2 คันเหมือนกับครั้งนี้ และรถแต่ละคันก็จะขนตัวนิ่มไปจำนวนเท่ากัน

แต่ครั้งนี้ตนถูกจับ ส่วนรถอีกคันที่มาด้วยกันทราบชื่อคนขับว่านายแดง ซึ่งสามารถขนตัวนิ่มหลบหนีไปได้ สำหรับตัวนิ่มที่จับไป จะมีเอเย่นต์ส่งไปขายทางแถบประเทศใต้หวัน ฮองกงและจีน เนื่องจากเป็นที่นิยมรับประทาน โดยเชื่อว่าตัวนิ่มเป็นยาบำรุงกำลังและบำรุงสรรมรรถภาพทางเพศ ดังนั้นจึงทำให้ตัวนิ่มมีราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 2,500 บาท

หลังทำบันทึกจับกุมแล้ว ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมของกลางมอบให้ พ.ต.ท.ปรีดา บุญทน สารวัตรเวรอาญาสถานีตำรวจภูธรพรานกระต่าย

สอบสวนดำเนินคดี ในข้อหามีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และค้าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และในขณะที่ตำรวจขนตัวนิ่มลงจากท้ายรถกระบะ ประชาชนที่ทราบข่างต่างมาดูตัวนิ่มกันจำนวนมาก เนื่องที่ผ่านมาในเขตจังหวัดกำแพงเพชร ยังไม่เคยมีการจับได้ตัวนิ่มมากขนาดนี้มาก่อน.