ตามรวบได้อีกแก๊ง โทร.หลอกโอนเงิน

"ไถง ปราศจากศัตรู" ผบช.ก.แถลง ตำรวจสอบสวนกลางขยายผลรวบอีก 4 ผู้ต้องหาคดีคอลเซ็นเตอร์

โทรศัพท์ลวงเหยื่อสารพัดรูปแบบ จนหลงเชื่อโอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มให้ ความเสียหายมหาศาลเดือนละ 100 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ตำรวจไทยจับมือตำรวจจีน ทลายศูนย์คอลเซ็นเตอร์ของคนร้ายแก๊งนี้ในจีน 2 แห่ง จับกุมผู้ต้องหาคนไทย 13 ไต้หวัน 17 อยู่ระหว่างเร่งขอตัวผู้ต้องหาคนไทยกลับมาดำเนินคดี

ที่ บช.ก.เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก.

แถลงข่าวจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประกอบด้วย น.ส.นุช-จรินทร์ หวานชิต อายุ 20 ปี น.ส.ประภา โพบาง อายุ 45 ปี นางสมพร น้อยอิ่ม อายุ 43 ปี และนายเฉลิม จุฬาวไลวงศ์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ โดยชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยวจับกุมผู้ต้องหาได้บริเวณถนนเพชรหึง อ.บางยอ จ.สมุทรปราการ ทั้งหมดเป็นเครือข่ายขบวนการฉ้อโกงประชาชน โดยใช้ ระบบโทรศัพท์ Call Center หลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินผ่านเครื่องกดเงินอัตโนมัติ

พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น กล่าวว่า บช.ก.ได้รับหนังสือร้องทุกข์จากผู้เสียหายจำนวนมากว่า

ถูกกลุ่มคนร้ายโทรศัพท์เข้ามายังโทรศัพท์เคลื่อนที่แล้วพูดจาหลอกลวงด้วยวิธีการต่างๆ อาทิ เป็นผู้ได้รับรางวัลของ สลากกินแบ่งรัฐบาล เป็นหนี้จากการใช้เครดิต เป็นหนี้ค่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือกำลังถูกกลุ่มมิจฉาชีพนำบัตรเครดิตของผู้เสียหายไปใช้ เมื่อมีผู้เสียหายหลงเชื่อผู้ต้องหาจะหลอกให้นำบัตรกดเงินอัตโนมัติไปใช้กับเครื่องกดเงินอัตโนมัติ จึงจัดชุดสืบสวนตรวจสอบพบว่า มีต้นทางมาจากเมืองกวางเจา สาธารณรัฐประชาชนจีน และบางส่วนในประเทศไทย โดยมีชาวจีนและชาวไทยที่เดินทางไปทำงานเป็นพนักงานที่สาธารณรัฐประชาชนจีนเข้ามาเกี่ยวข้อง และมีการจ้างให้คนไทยไปเปิดบัญชีพร้อมทำบัตรกดเงินอัตโนมัติ เพื่อรองรับเงินที่จะถูกโอนมาจากบัญชีผู้เสียหาย

"รายนี้มีศูนย์คอลเซ็นเตอร์ที่สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยจะโทรศัพท์มายังเครื่องโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้เสียหาย จนทำให้เหยื่อโอนเงินออกจากบัญชีไปยังบัญชีของกลุ่มคนร้ายที่เปิดรองรับไว้ จากนั้นคนร้ายจะกดเงินแล้วนำไปโอนผ่านบริษัททัวร์ ร้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ หรือโอนเข้าบัญชีคนร้ายกลับไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อนหน้าชุดสืบสวนจับกุมเครือข่ายของนายสุริยงค์ บานแย้ม กับพวกรวม 24 คน ที่จังหวัดเชียงใหม่ และมีการประสานตำรวจสอบสวนกลาง มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เข้าตรวจค้นคอลเซ็นเตอร์ของกลุ่มคนร้ายที่เมืองฉางอัน และมีการขยายผลจับกุมเครือข่ายรายอื่นที่อยู่ในประเทศไทย" พล.ต.ต.ปัญญากล่าว

ด้าน พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ก. กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตำรวจสืบสวนทราบว่า แก๊งหลอกโอนเงินดำเนินการเป็นเครือข่าย

มีคนไทยร่วมกับคนจีนกระทำความผิดมาตั้งแต่ปี 2548 ใช้โทรศัพท์ระบบ VOIP (Voice Over Internet Protocol) สามารถตั้งค่าหมายเลขได้ โดยมีต้นทางจากเมืองกวางเจา ประเทศจีน และบางส่วนในประเทศไทย แต่ละปีจะมีมูลค่าความเสียหายเฉลี่ยสูงถึง 100 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนการดำเนินการจับกุมเป็นเรื่องที่ยาก เพราะการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ดังกล่าวมีความสลับสับซ้อนและเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ยังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น และเป็นเพียงแม่บ้านทำความสะอาดเท่านั้น

แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานการกระทำความผิดชัดเจน และตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นพนักงาน Call Center ส่วนนายเฉลิมทำหน้าที่เป็นคนกดเงินและโอนเงินกลับไปยังประเทศไต้หวัน จึงควบคุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอศ.ดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการจับกุมคนร้ายรายนี้ สืบเนื่องจากพนักงานสอบสวนของ บช.ก.

รวบรวมหลักฐานร่วมกับตำรวจสอบสวนกลางมณฑลกวางตุ้ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน วางแผนปฏิบัติการตรวจค้น Call Center ของกลุ่มคนร้ายรายนี้ที่เมืองฉางอัน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 15 คน มีชาวไทย 13 คน ชาวไต้หวัน 2 คน และที่เมืองจูไห่จับกุมชาวไต้หวัน 15 คน สำหรับผู้ต้องหาชาวไทยทั้ง 13 คน อยู่ระหว่างขอนำตัวกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์