เฝ้าระวังใกล้ชิด!สังเกตพฤติกรรมมั่นใจ1-2อาทิตย์ได้ข้อสรุปปมเหตุ
รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ถกทีมแพทย์สถาบันกัลยาณ์ฯ ดูแล “ม.5” วางเพลิงเผาโรงเรียน แจงอยู่ในขั้นตอนดูแลทางจิตใจ
เพราะเด็กยังตกใจและงง คาดอย่างน้อย 2 อาทิตย์ ได้ข้อสรุปปมเหตุก่อคดี ด้านนายอำเภอสั่ง ขึงแสลนอาคารหอสมุด หวั่นซากปรักหักพังร่วง ผู้คนเดินผ่านไป-มาบาดเจ็บ ด้านโรงเรียนหาห้องสมุด-ห้องเรียนชั่วคราวได้แล้ว
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. นายปริญญา โพธิสัตย์ นายอำเภอพุทธมณฑล จ.นครปฐม
เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี นร.ชั้น ม.5 วางเพลิงเผาอาคารหอสมุด โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ เบื้องต้นสาเหตุเพราะเครียดที่เข้ากับเพื่อนไม่ได้ และผลการเรียนตกต่ำว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเทศบาลตำบลศาลายา นำแสลนไปปิดบังด้านหน้าอาคารที่เกิดเหตุไว้ ป้องกันอันตรายจากซากปรักหักพังที่อาจหล่นลงมาจนเกิดอุบัติเหตุกับผู้คนที่เดินผ่านไป-มา ส่วนตัวอาคารจะต้องรอผลตรวจจากวิศวกร สำนักงานโยธาและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย อีกครั้ง ว่าสามารถซ่อมและใช้งานได้หรือไม่
ขณะที่ นายสุชิน ทำมาหากิน รอง ผอ.โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้ประชุมร่วมกับเครือข่ายผู้ปกครองและศิษย์เก่า
เพื่อการแก้ปัญหาทั้งเรื่องห้องสมุดและห้องเรียน เบื้องต้นให้ใช้ห้องเก็บเอกสารของนักเรียนอาคาร 1 และอาคาร 3 จำนวน 15 ห้อง พร้อมติดตั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนและแสงสว่าง ส่วนห้องสมุดได้กำหนดใช้ห้องอ่านหนังสือที่อาคารเรือนนอน ชั้น 2 เป็นห้องสมุดชั่วคราว นอกจากนี้ ทางมหาวิทยาลัยมหิดลยังได้อนุญาตให้นักเรียนเข้าไปใช้ห้องสมุดเพื่อการสืบค้นอย่างเต็มที่
ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวหลังประชุมร่วมกับคณะจิตแพทย์ ของสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์ จ.นครปฐม
ที่รับหน้าที่ดูแล นร.ที่ก่อเหตุว่า ได้ให้ทางคณะแพทย์ของสถาบันกัลยาณ์ราชนครินทร์เข้ามารายงาน หลังรับตัวเด็กนักเรียนรายนี้เข้ามาที่สถาบัน ด้วยการส่งตัวทางกระบวนการยุติธรรม ขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับเด็กทางจิตวิทยาในการดูแลทางจิตใจ เพราะเมื่อเกิดเหตุขึ้นเด็กคงรู้สึกตกใจและงง ต้องให้เวลาเด็กปรับตัวอีกระยะ และยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดเพราะต้องดำเนินการทางนิติจิตวิทยา หาข้อมูลจากหลายฝ่าย อาทิ ญาติ พ่อแม่ เพื่อน และครู รวมทั้งนักจิตวิทยาและทางสังคม คาดว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีก 2 สัปดาห์
นพ.เกียรติภูมิ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ให้การดูแลเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป ยังไม่ได้มีการรักษา
เพียงแต่สังเกตพฤติกรรมและให้เด็กอยู่ในสถานที่ที่ปลอดภัย ส่วนสาเหตุหรือการจะสรุปว่าเด็กป่วยทางจิตใจหรือไม่นั้น ต้องใช้เวลาอีก 1-2 สัปดาห์ในการตรวจสอบเรื่องป่วยเด็กก็มีสิทธิเจ็บป่วยได้ แต่การจะชี้ว่าเจ็บป่วยจากจิตใจหรือไม่นั้นจะมีผลกระทบกับตัวเด็กด้วย แต่เรายังไม่รู้ และอยากขอร้องให้สื่อระมัดระวังการเสนอข่าวที่จะกระทบกับเด็กด้วย เพราะไม่ว่าใครที่ทำเหตุการณ์เช่นนี้ก็ต้องรู้สึกว่าทำให้เกิดความเสียหาย.