ม้าทรงปลอม ร่วมพิธีแห่พระแอบคาบลิ้นหมู ´ซามูไร´ แทงโชว์

พ.ต.ท.วิทูรย์ กองสุดใจ รอง ผกก.หน.สภ.ต.ทุ่งทอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจากนายประเสริฐ ขาวกิจไพศาล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลกะทู้และประธานกรรมการศาลเจ้ากะทู้ว่า คุมตัวคนอ้างเป็นม้าทรงไว้ที่ศาลเจ้ากะทู้ ถนนวิชิตสงคราม ต.กะทู้ หลังรับแจ้งสั่งให้ พ.ต.ท.ภาสกร สนธิกุล สวส. พร้อมชุดสืบสวนไปตรวจสอบ

นุ่งขาวห่มขาวกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของประเพณีถือศีลกินผักประจำปี พบนายไพฑูรย์ ขอบเวช อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 10 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเหลือง นุ่งกางเกงขายาวสีขาว มีแจ็กเกตสีครีมแขนยาวสวมทับอีกชั้นนั่งหน้าซีดท่ามกลางบรรดาม้าทรงนับสิบคนที่รายล้อม บางคนพยายามที่จะเข้าเล่นงาน พรรคพวกต้องช่วยกันห้าม

นายไพฑูรย์มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม อ้างเป็นม้าทรงและร่วมขบวนแห่พระรอบเมืองของศาลเจ้า ซึ่งเป็นพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ของชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวภูเก็ต โดยนายไพฑูรย์ใช้ ลิ้นหมูแทนลิ้นตัวเองแทงด้วยดาบซามูไรและใบเลื่อย

แสดงการทรมานร่างกายเป็นการหลอกลวง

ให้ผู้คนคิดว่าเป็นม้าทรงและนั่งกราบไหว้ ทำให้เสื่อมเสียแก่ศาลเจ้ากะทู้ ซึ่งเป็นศาลเจ้าแห่งแรกบนเกาะภูเก็ตที่เริ่มประเพณีถือศีลกินผักมานาน

ม้าทรงหลายคนของศาลเจ้ากะทู้เริ่มสงสัย ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. เนื่องจากมีคนถ่ายรูปนายไพฑูรย์ขณะใช้ดาบซามูไรและใบเลื่อยแทงทะลุลิ้นมาให้ดู ซึ่งได้พิจารณากันแล้วว่าไม่น่าใช่ลิ้นของนายไพฑูรย์เพราะใหญ่คับปากและสีซีดอีกทั้งไม่มีเลือดไหล

พอนายไพฑูรย์มาที่ศาลเจ้าอีกครั้ง

จึงขอดูลิ้น ก็ยอมรับว่าใช้ลิ้นหมูแทนลิ้นของตัวเองเลยแจ้งความ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน

แต่เป็นช่างแกะสลักไม้ ช่วงวันแห่ของศาลเจ้ากะทู้ เกิดอยากเป็นม้าทรง จึงซื้อหัวหมูเอาไปตัดลิ้นอมส่วนโคนไว้โผล่แต่ปลายเหมือนแลบลิ้นก่อนใช้ดาบและใบเลื่อยแทงแล้วร่วมขบวนแห่พระของศาลเจ้ากะทู้ไปรอบเมืองท่ามกลางประชาชนที่เฝ้าดูพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์จนกระทั่งถูกม้าทรงของศาลเจ้ากะทู้จับได้ และรู้สึกผิดอยากกราบขอโทษม้าทรงและศาลเจ้ากะทู้ที่ทำให้เสื่อมเสียโดยคาดไม่ถึง

ด้าน พ.ต.ท.ภาสกร สนธิกุล สวส.สภ.ต.ทุ่งทองกล่าวว่า

หลังจากร่วมขบวนแห่ นายไพฑูรย์ยังไปรับเงินเบี้ยเลี้ยง 250 บาท จากศาลเจ้า ทำให้เข้าข้อกฎหมายฉ้อโกง จึงแจ้งข้อหาและคุมตัวไว้ที่โรงพักยังไม่ให้ประกัน เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัยโดนผู้ไม่พอใจทำร้ายบาดเจ็บได้

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ