หนุ่มอปพร.-ฆ่าสาว โมโหโดนบอกเลิก ลากไปสยอง

พ.ต.ท.ประเสริฐ พิมเสน พนักงานสอบสวน (สบ.3) สภ.อ.เมืองปทุมธานี รับแจ้งเหตุหญิงสาวถูกฆาตกรรมริมถนนบางคูวัด (สายใน) หมู่ 9 ต.บางคูวัด จึงรุดไปตรวจสอบร่วมกับ พ.ต.อ. ชาติชาย เอี่ยมแสง ผกก. พ.ต.ท.พีรธรรม ธรรมธีรดิลก รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.อริยะ พันธ์ฟัก รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พีรพล โชติกะเสถียร สวป. พ.ต.ท.จิรวัฒน์ แนวจำปา สว.สส. เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และ พญ.อรุณี สิงห์เสน่ห์ แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์

สภาพที่เกิดเหตุมีน้ำท่วมขังสองข้างทางและมีแนวกระสอบทรายทำคันกั้นน้ำ โดยมีหญ้าขึ้นรกตลอดแนวถนน พบศพหญิงสาวสภาพเน่าเปื่อยลอยอืดอยู่ในน้ำห่างจากถนนเพียงเล็กน้อย

นุ่งกางเกงสีเทา ถุงเท้าสีขาว ที่หน้าอกเสื้อซับในมีโลโก้บริษัทเอลเลค แอนด์ เอลเทค (ประเทศไทย) จำกัด ค้นในตัวพบบัตรประชาชนและบัตรพนักงานบริษัทเอลเลค แอนด์ เอลเทค (ประเทศไทย) จำกัด

ระบุชื่อ น.ส.สุกัญญา คงอิ่ม อายุ 32 ปี ตำแหน่งโอปะเรเตอร์ อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 3 ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี เบื้องต้นแพทย์ไม่สามารถตรวจสอบบาดแผลหรือร่องรอยถูกทำร้ายได้ เนื่องจากสภาพศพเน่าเปื่อยมาก โดยคาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 10 วัน จึงส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ. ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

ได้มีนางติ๋ม คงอิ่ม อายุ 51 ปี เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งขอดูศพก่อนร่ำไห้ให้การว่า ผู้ตายคือ น.ส.สุกัญญา คงอิ่ม ลูกสาว ที่หายตัวไปตั้งคืนวันที่ 19 ต.ค. พร้อมรถ จยย.ฮอนด้า สีแดง ทะเบียน นนค 944 กรุงเทพมหานคร โดยได้แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.อ.เมืองปทุมธานี

จากนั้นนางติ๋มได้ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า

น.ส.สุกัญญาเคยมีครอบครัวและมีลูกชาย 1 คน แต่ได้ แยกทางกับสามีแล้ว ปัจจุบันทำงานเป็นพนักงานรับโทรศัพท์บริษัทเอลเลคฯ เป็นโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ยังเป็นอาสาสมัคร อปพร.อยู่ที่ อบต. บางคูวัด ด้วย

ก่อนหน้านี้ลูกสาวคบหาอยู่กับนายธานินท์ ขาวผ่อง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/5 หมู่ 10 ต.บางคูวัด อ.เมืองปทุมธานี และเป็น อปพร.อบต.บางคูวัด แต่ระยะหลังผู้ตายจับได้ว่าฝ่ายชายมีครอบครัวแล้วจึงขอเลิก นายธานินท์พยายามตามขอคืนดี แต่ไม่เป็นผลเพราะผู้ตายไม่ยอม และมักถูกตามราวีตลอด

กระทั่งวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวจึงไปแจ้งความเอาไว้

แต่คู่กรณีก็ยังไม่ยอมเลิก จนเมื่อ 2-3 วันก่อนที่ลูกสาวจะหายตัวไป นายธานินท์ได้มาดักรอลูกสาวหลังเลิกงาน และขี่ไล่ตามมาที่บ้านก่อนใช้ ก้อนหินปาใส่บ้านจนข้าวของเสียหาย เนื่องจากโกรธแค้นที่ผู้ตายไม่ยอมพูดคุยด้วย แต่ตนไม่กล้าแจ้งความเพราะถูกนายธานินท์ขู่อาฆาตจะฆ่าลูกสาว

ทั้งนี้ หลังสอบปากคำในเบื้องต้น

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้หน่วยกู้ภัยงมหารถ จยย.ของผู้ตายรอบๆจุดพบศพ กระทั่งเจอรถจมอยู่ในน้ำสภาพมีกุญแจเสียบคาอยู่

เดินทางไปที่ร้านแก๊สเมืองประชา อ.เมืองปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานที่ ทำงานของนายธานินท์ เมื่อไปถึงพบนายธานินท์กำลังยกถังแก๊สขึ้นรถ จยย.เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้า ทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่ ถึงกับตกใจหน้าถอดสี แต่ยังทำใจดีสู้เสืออ้างไม่มีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของ น.ส.สุกัญญา

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวมาที่โรงพัก

และถูกคุมตัวสอบเค้นอย่างหนัก ในที่สุด นายธานินท์ก็ยอมรับว่าเป็นคนฆ่า น.ส.สุกัญญาจริง โดยมีสาเหตุมาจากหึงหวงที่ผู้ตาย จะตีจาก แถมยังด่าทอจนระงับอารมณ์โกรธไม่ไหว

รู้จักกับผู้ตายในช่วงที่มีการฝึกอบรม อปพร. ที่ อบต.บางคูวัด ถึงขั้นสนิทสนมและมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง ครั้งแรกตนบอกผู้ตายว่ายังโสดและทำงานรับเหมาทั่วไป แต่ต่อมา น.ส. สุกัญญาจับได้ว่าตนมีครอบครัวและมีลูกแล้ว แถมรู้ว่าเป็นแค่คนงานขับรถส่งแก๊ส จึงพยายามตีตัวออกห่าง แม้จะตามง้อหลายครั้ง แต่ผู้ตายพยายามหลบหน้าตลอด

ในวันเกิดเหตุคืนวันที่ 19 ต.ค.

ได้ขี่รถ จยย.มาดักรอผู้ตายที่ทำงาน จากนั้นขี่ไล่ตามไปและขอร้องให้จอดรถคุยกันบริเวณจุดเกิดเหตุเพื่อเคลียร์ปัญหาหัวใจ แต่ฝ่ายหญิงกลับด่าทอเสียหาย เลยระงับอารมณ์โกรธไม่อยู่ กระชากผู้ตายลงมา ก่อนลากลงไปจับหัวกดน้ำจนแน่นิ่ง แล้วนำรถ จยย.ของผู้ตายทิ้งน้ำเพื่อทำลายหลักฐาน

จากนั้นรีบกลับบ้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

กระทั่งถูกตามจับกุมได้ดังกล่าว หลังสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพทันที

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ