ครูชายแดนใต้อุ่นใจทหารตั้งฐานในร.ร

ผู้ว่าฯ ใต้วางมาตรการเข้มคุ้มครองครูช่วงเปิดเทอม 1 พ.ย.นี้ ดึงคนในพื้นที่เข้าช่วย ให้งบ ร.ร.ละ 2 อัตรา เน้นโรงเรียนพื้นที่ล่อแหลม ผอ.โรงเรียนพื้นที่สีแดง อุ่นใจหลังทหารตั้งฐานในโรงเรียน เชื่อเปิดเทอมใหม่ไร้ปัญหา

โจรใต้แผนสูงโปรยตะปูเรือใบรถชาวบ้าน ก่อนกดบึ้มช่วงเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเหตุ รมว.มหาดไทยเผย 1-2 วันรู้ว่าใครเป็น ผอ.ศอ.บต. ระบุต้องลงไปกำกับดูแลยุทธวิธีด้วยตัวเองช่วงแรก โฆษก ทบ.เผยชาวบ้านแห่สมัครทหารพรานหญิงร่วมดับไฟใต้

หลังจากหลายฝ่ายเกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับครูและสถานศึกษาในช่วงเปิดเทอมวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ได้วางมาตรการเพื่อรักษาความปลอดภัยครูและโรงเรียนในพื้นที่อย่างเข้มงวดแล้ว

นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้เชิญตัวแทนครูเข้าประชุมเพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางและมาตรการรักษาความปลอดภัยในด้านต่างๆ เบื้องต้นได้ข้อสรุปว่าทางจังหวัดและกองกำลังในพื้นที่จะเข้าไปให้การดูแลและรักษาความปลอดภัยครูใน 3 ประเด็นคือ 1.การให้ความคุ้มครองในช่วงการเดินทางไปและกลับ ที่ครูต้องเดินทางไปโรงเรียนเป็นหมู่คณะและมีการกำหนดเวลาที่ชัดเจน 2.การให้ความคุ้มครองขณะสอนหนังสือและปฏิบัติภารกิจในโรงเรียน และ 3.การให้การรักษาความปลอดภัยดูแลอาคารสถานที่

"นอกจากนี้ยังมีมาตรการเสริมคือการดึงคนในพื้นที่หรือศิษย์เก่าของโรงเรียนต่างๆ เข้ามาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนครูโรงเรียนละ 2 คน โดยการว่าจ้างผ่านโครงการจ้างงานเร่งด่วน อีกทั้งได้สั่งกำชับให้คณะกรรมการสถานศึกษาจัดเวรยามดูแลความปลอดภัยครูและโรงเรียนอย่างเข้มงวดแล้ว จากข้อมูลทั้งหมดผมมั่นใจว่าครูในพื้นที่คงมีกำลังใจและมั่นใจในมาตรการการรักษาความปลอดภัยในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่มากขึ้น" ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าว

ด้าน นายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ได้ร่วมกันประชุมและวางแผนเกี่ยวกับมาตรการการรักษาความปลอดภัยครูและโรงเรียนในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่กับผู้เกี่ยวข้องในทุกอำเภอแล้ว ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้นายอำเภอเป็นผู้ทำหน้าที่ประสานข้อมูลระหว่างฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร และตัวแทนครูในพื้นที่ ประกอบกับแผนการรักษาความปลอดภัยในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่นี้จะเน้นการมีส่วนร่วมจาภภาคประชาชนในพื้นที่ให้เข้ามาทำหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยครูและโรงเรียนด้วย ขณะเดียวกันจะมีความเข้มงวดในการตรวจสอบเส้นทางก่อนการเดินทางของครูให้เกิดความรัดกุมมากขึ้นเช่นกัน

นายปกรณ์ เทพศร ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 2 กล่าวว่า กอ.สสส.จชต.ได้จัดสรรงบประมาณให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานราธิวาส เขต 2 ในการเปิดรับสมัครลูกจ้างสถานศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 161 โรงเรียน เพื่อร่วมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยครูและนักเรียน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการเปิดเทอมภาคเรียนที่ 2 ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้

"งบประมาณส่วนดังกล่าว ทางเขตได้นำมาดำเนินการจัดจ้างลูกจ้างประจำสถานศึกษาโดยให้สถานศึกษาละ 2 อัตรา โดยเฉพาะโรงเรียนในพื้นที่ล่อแหลม และจะเน้นคัดเลือกบุคคลที่มีความคุ้นเคยเกี่ยวกับวัฒนธรรมในพื้นที่" นายปกรณ์ กล่าว

แผนด้านการรักษาความปลอดภัยครูในช่วงที่มีการสับเปลี่ยนกองกำลังใหม่นั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการประชุมทำความเข้าใจร่วมกับกองกำลังที่เพิ่งมาปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการปรับโครงสร้างการดำเนินการแผนคุ้มครองครู ซึ่งโดยภาพรวมยังอยู่บนพื้นฐานเดิมของมาตรการที่เคยปฏิบัติมา แต่จะเน้นในการเสริมกำลังเพิ่มความรัดกุมในการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว

นายรินทร์ คงชูดวง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเจาะเกราะ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ครูถูกจับเป็นตัวประกันเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2549 กล่าวว่า โรงเรียนพร้อมที่จะเปิดทำการเรียนการสอนสำหรับภาคเรียนที่ 2 ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ส่วนมาตรการการรักษาความปลอดภัยครูและโรงเรียนนั้น ได้ร่วมประชุมวางแผนกับทางอำเภอและฝ่ายกองกำลังในพื้นที่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยข้อสรุปส่วนใหญ่จะเน้นการให้ความคุ้มครองครูระหว่างเดินทางไปกลับและในขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในโรงเรียนเป็นพิเศษ

"ยอมรับว่าในช่วงหลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มชาวบ้านจับครูเป็นตัวประกันส่งผลให้ขวัญและกำลังใจของครูหดหายไปมาก แต่ในฐานะผู้บริหารโรงเรียนก็พยายามปลอบใจครูมาโดยตลอด แต่ที่ครูทุกคนมีความอุ่นใจและมีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเปิดเทอมใหม่มากที่สุดคือ การที่ฝ่ายกองกำลังของทหารประมาณ 40 นายเข้ามาตั้งฐานประจำการอยู่ในโรงเรียนโดยตรง ซึ่งวิธีการดังกล่าวสร้างความอุ่นใจและความเชื่อมั่นให้ครูได้อย่างมาก" นายรินทร์ กล่าว

ด้าน นายอิสมาน มุวรรณสินธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ครูจูหลิง ปงกันมูล และครูสิรินาถ ถาวรสุข ถูกชาวบ้านรุมทำร้าย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2549 กล่าวว่า มาตรการการรักษาความปลอดภัยครูและโรงเรียนโดยทั่วไป คงจะเหมือนโรงเรียนอื่นๆ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ที่มีความพิเศษคือหลังเกิดเหตุร้ายขึ้น มีทหารประมาณ 50 นายเข้ามาตั้งฐานประจำการอยู่ในโรงเรียน จนสร้างความมั่นใจและขวัญกำลังใจให้แก่ครูอย่างมาก และขอยืนยันว่าครูทั้ง 11 คนมีความพร้อมที่จะทำหน้าที่ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ อย่างแน่นอน

"นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังได้รับงบประมาณจากคณะกรรมการสถานศึกษาเพื่อนำมาว่าจ้างผู้รักษาความปลอดภัยโรงเรียนจำนวน 2 รายด้วย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครูจูหลิง ปงกันมูล นั้น ยอมรับว่าเป็นบาดแผลที่ติดลึกอยู่ในจิตใจของครูและนักเรียนไปแล้ว เนื่องจากยังมีนักเรียนบางคนบ่นคิดถึงและนึกถึงครูจูหลิงอยู่ ขณะเดียวกัน ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมระลึกถึงครูสาวมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน" นายอิสมาน กล่าว

ส่วนความคืบหน้าในการแต่งตั้งผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ผอ.ศอ.บต.) ซึ่งจะเริ่มทำงานเป็นทางการในวันที่ 1 พฤศจิกายนนั้น นายอารีย์ วงศ์อารยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ตำแหน่งดังกล่าวเป็นงานที่กดดัน คงไม่มีใครอยากจะมาลำบาก ทั้งนี้ ไม่ว่าใครจะมาดำรงตำแหน่ง ก็ต้องลงไปกำกับก่อนในช่วงต้น เพื่อให้เข้าที่เข้าทาง เพราะต้องบอกยุทธวิธีในการทำงาน เนื่องจาก ศอ.บต. ถูกยกเลิกไปหลายปี และในช่วง 2 เดือนแรก ยังเป็นช่วงที่มีการถ่ายโอนระหว่างกองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) ไปยัง ศอ.บต.

เมื่อถามว่า ผอ.ศอ.บต. ต้องเป็นผู้มีประสบการณ์ในพื้นที่หรือไม่ นายอารีย์ กล่าวว่า อย่าเพิ่งถาม เพราะภายใน 1-2 วันนี้ ก็จะรู้ว่าเป็นใคร ตอนนี้ก็ยังไม่ได้แจ้งใคร แม้แต่นายกรัฐมนตรีก็ยังไม่ทราบ ซึ่งการหารือกับนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ก็ไม่ได้พูดคุยถึงตำแหน่ง ผอ.ศอ.บต. แต่คุยเรื่องกำหนดการนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ภาคใต้วันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ว่า ต้องพบใครบ้าง

ด้าน นายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้ที่รับการคาดหมายว่าจะมาดำรงตำแหน่ง ผอ.ศอ.บต. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่พบกับนายอารีย์ ระหว่างการตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.นนทบุรี ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องตำแหน่งดังกล่าว เมื่อถามว่า ถ้าได้รับการทาบทามพร้อมรับตำแหน่งหรือไม่ นายพระนาย กล่าวว่า ตนเป็นข้าราชการ ถ้ามีการสั่งการและเห็นว่าสามารถทำประโยชน์ได้ก็ไปตามหน้าที่ คงไม่มีความเห็นอะไร

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ตามชื่อที่ออกมาจากสื่อมวลชน ไม่ว่าจะเป็นนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผู้ว่าฯ นนทบุรี หรือนายสมพร ใช้บางยาง อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดก็สามารถเข้ามารับผิดชอบ ศอ.บต.ได้ทั้งนั้น เพราะถือเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ในการทำงานเกี่ยวกับความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงน่าจะเข้ามาทำหน้าที่ได้โดยไม่มีปัญหา

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะต้องเข้าใจด้วยว่าประชาชนในพื้นที่ยังมีความหวั่นไหวกับเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น แม้จะเปลี่ยนรัฐบาลไปแล้วก็ตาม แต่ประชาชนก็ยังไม่รู้สึกดีขึ้นมากนัก จึงหวังว่าการมี ศอ.บต.เข้ามาจะบรรเทาความรุนแรงในภาคใต้ได้ รวมทั้งต้องจัดการปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น คือการอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในพื้นที่ และพยายามลดเงื่อนไขใดๆ ที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง และลดทอนความเชื่อมั่นของประชาชนว่าจะเกิดความยุติธรรมในพื้นที่ ซึ่งหากทำเช่นนี้ได้ เชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์ความรุนแรงคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น

วันเดียวกัน พ.ต.ต.กรกช พันธ์รัตน์ สารวัตรเวร สภ.อ.กรงปินัง จ.ยะลา รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตที่สนามกีฬาภายในหมู่บ้านที่หมู่ 2 ต.ปุโรง อ.กรงปินัง จ.ยะลา จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.วันชัย เปี่ยมสมบูรณ์ ผกก.สภ.อ.กรงปินัง และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที ที่เกิดเหตุบนถนนทางเข้าสนามกีฬา พบศพนายอาซิ ดอรอแป อายุ 45 ปี ชาวบ้าน หมู่ 2 ต.ปุโรง อ.กรงปินัง จ.ยะลา นอนเสียชีวิตข้างรถจักรยานยนต์ ในสภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่บริเวณลำตัวหลายนัด สอบสวนทราบว่าขณะที่นายอาซิ ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านเพื่อนำวัวไปเลี้ยง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุคนร้าย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ประกบยิงแล้วหลบหนีไป เจ้าหน้าที่เชื่อว่าคนร้ายต้องการสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน คนร้ายยังคงใช้แผนลวงเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบจุดเกิดเหตุแล้วกดระเบิดซ้ำ โดยเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 29 ตุลาคม ร.ต.ต.เด่นพงษ์ เต็มยอด ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดริมถนนบริเวณบ้านตาเซะเหนือ หมู่ 5 ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ พบหลุมระเบิดขนาดกว้าง 1 เมตร ลึก 50 ซม. มีเศษสะเก็ดระเบิดกระจายทั่วบริเวณ อาทิ เศษกล่องเหล็ก เศษดินระเบิด แผงวงจรระเบิด เหล็กหุนตัดสั้น เชื้อปะทุ เศษสายไฟ จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนั้นยังพบรถยนต์ของชาวบ้านหลายคันถูกตะปูเรือใบเจาะยางจนได้รับความเสียหาย

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุชาวบ้านใช้เส้นทางสายดังกล่าวเพื่อจะออกไปตลาดสุไหงปาดี แต่มาถูกตะปูเรือใบเจาะยางจนได้รับความเสียหาย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ทหารชุด ร้อย ร.6011 ฉก.39 ซึ่งตั้งฐานปฏิบัติการอยู่ในหมู่บ้านดังกล่าว ห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 500 เมตร หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบ แต่ขณะกำลังเก็บกวาดตะปูเรือใบได้เกิดระเบิดขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหวที่ริมถนน ห่างจากเจ้าหน้าที่ประมาณ 10 เมตร สะเก็ดระเบิดพุ่งขึ้นข้างบน ทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายนำระเบิดชนิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 5 กก. บรรจุไว้ในกล่องเหล็ก จุดชนวนระเบิดด้วยสัญญาณไฟฟ้าจากรีโมทคอนโทรล ส่วนสาเหตุเชื่อว่าเป็นการวางแผนเพื่อดักสังหารเจ้าหน้าที่

ที่ จ.ยะลา คนร้ายบุกยิงนายตอและ กาลิเซ็ง อายุ 49 ปี ที่บ้านเลขที่ 107 หมู่ 5 ต.ยะต๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา ขณะกำลังนั่งรับประทานอาหารในบ้าน อาการสาหัสถูกนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลา เบื้องต้นคาดว่าเป็นฝีมือแนวร่วมในพื้นที่ แต่ยังไม่ตัดประเด็นเรื่องส่วนตัวทิ้ง

วันเดียวกัน กองทัพเรือเคลื่อนศพพลทหารวชิราวุธ เกิดสุวรรณ ทหารนาวิกโยธินชุดคุ้มครองพระ ออกจากโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา หลังจากเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม โดยการเคลื่อนศพมีการตั้งทหารกองเกียรติยศอย่างสมเกียรติ เพื่อนำไปประกอบพิธีรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพที่วัดสระเกศ อ.เมือง จ.สงขลา พลทหารวชิราวุธ นับว่าเป็นผู้เสียชีวิตเป็นรายที่ 2 จากเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดขณะพระวัดพรหมนิวาส ออกบิณฑบาตในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ก่อนหน้านี้ พลทหารปราโมทย์ วรรณศุกร์ เสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกัน และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 6 ราย รวมทั้งพระสงฆ์ ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลสงขลานครินทร์

กรณีที่กระทรวงกลาโหมอนุมัติจัดตั้งทหารพราน 30 กองร้อย เพื่อร่วมแก้ปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในจำนวนนั้นมีทหารพรานหญิงร่วมปฏิบัติการด้วยนั้น พ.อ.อัคร ทิพย์โรจน์ โฆษกกองทัพบกและรองผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ กอ.สสส.จชต. กล่าวว่า ประชาชนในพื้นที่ตอบรับดีมาก เพราะนอกจากจะมีโอกาสร่วมแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้ชาวบ้านมีรายได้ เนื่องจากเข้ามาเป็นลูกจ้างชั่วคราวของกองทัพบก

"ในขณะนี้กระแสการตื่นตัวของชาวบ้านโดยเฉพาะกลุ่มกำลังที่เป็นผู้หญิงมีการแสดงความประสงค์ในการเข้าร่วมโครงการของกองทัพบกในการจัดตั้งทหารพรานหญิงเป็นจำนวนมาก โดยคนในพื้นที่มองว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมกับทหารในการแก้ปัญหาความไม่สงบ จึงเชื่อว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถลดภาพลักษณ์ความรุนแรงของสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้หญิงมีคุณสมบัติของความละเอียดอ่อน และถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการนำพามาซึ่งพลังมวลชน" พ.อ.อัคร กล่าว

พ.อ.อัคร กล่าวว่า ปัจจุบันกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพรานของกองทัพภาคที่ 4 ที่มีอยู่คือ กรมทหารพรานที่ 41, 43 และ 45 ซึ่งแต่ละกรมมีฐานปฏิบัติการกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ด้วยสถานการณ์ที่ยังคงมีความรุนแรง หน่วยงานต้นสังกัดมีนโยบายให้เพิ่มกรมทหารพรานอีก 2 กรม คือกรมทหารพรานที่ 42 และ 44 ส่วนนี้เชื่อว่าจะเป็นกลไกสำคัญในการนำพาซึ่งความสันติสุขในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้อย่างแน่นอน

นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.ปัตตานี และ สมาชิกสภานิติบัญญัติฯ กล่าวถึงแนวคิดในการเสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า หลังเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้มาเกือบ 3 ปี ส่งผลให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะปัญหาความไม่ยุติธรรมที่มักจะเกิดขึ้นระหว่างราษฎรในพื้นที่กับเจ้าหน้าที่หลังมีการจับกุมผู้ต้องสงสัยเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ได้เกิดปัญหาการร้องเรียนกับกลุ่มองค์กรต่างๆ ตามมาอีกมากมาย โดยเฉพาะในช่วงที่มีการประกาศใช้พระราชกำหนดบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ ที่พบว่ามีการลิดรอนสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลมากขึ้น จึงอยากเสนอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมาธิการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนขึ้นในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อปัญหาจะได้ทุเลาลงบ้าง

"ในเบื้องต้นผมจะนำข้อมูลเหล่านี้เข้าหารือกับสมาชิกสภานิติบัญญัติฯ ที่มีอยู่ในพื้นที่จำนวน 10 คนก่อน และหากทุกคนมีความเห็นที่ตรงกันก็พร้อมที่จะนำข้อมูลดังกล่าวเสนอต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ให้รับทราบในโอกาสเดินทางลงมายังพื้นที่ในวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้ ต่อไป" นายแวดือราแม กล่าว

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่ห้องประชุมคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส น.พ.แวมะฮาดี แวดาโอะ สมาชิกสภานิติบัญญัติ จัดให้มีเวทีข้อเสนอต่อนโยบายของคณะรัฐมนตรีขึ้น โดยมีประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ของ จ.นราธิวาส เข้าร่วมพูดคุย พร้อมกันนี้มีการคัดเลือกคณะกรรมาธิการการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อทำหน้าที่หลักในการตรวจสอบ ติดตามความช่วยเหลือและปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับด้านสิทธิมนุษย์ของประชาชนในพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างจริงจัง

ทั้งนี้ที่ประชุมได้ยื่นหนังสือต่อ น.พ.แวมะฮาดี เพื่อนำไปเสนอต่อสภานิติบัญญัติในการหาแนวทางแก้ปัญหาความไม่สงบที่ยังคงเกิดขึ้นในพื้นที่ต่อไป โดยในข้อแรกที่มีการเสนอ คือ ปัญหาทางประวัติศาสตร์ การครอบงำทางการเมืองต่อชาวไทยมุสลิม เห็นได้จากการปฏิเสธแนวทางสันติในภาคประชาชนในอดีต อาทิ การเจรจาของสุลต่าน หะยีสุหลง โต๊ะมีนา ส.ส.สมัคร เอี่ยมวิโรจน์ และทนายสมชาย นีละไพจิตร ที่ถูกจับกุมและหายตัวไป ประกอบกับหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วกลับไม่มีใครกล้าที่จะพูดหรือแสดงความคิดเห็นอีก เรื่องดังกล่าวจึงถือเป็นบ่อเกิดที่ทำให้เกิดการต่อสู้ด้วยความรุนแรงขึ้น อีกทั้งแนวทางการแก้ปัญหาต่างๆ ที่มาจากคนนอกพื้นที่ก็ไม่ได้การยอบรับจากคนในพื้นที่จึงทำให้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้

ข้อต่อมาคือ การกระจายตัวของชุมชนมลายูออกนอกพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งโดยสมัครใจและผลพวงของสงครามในอดีต ซึ่งต้องให้การยอมรับด้วยว่าประชาชนชาวมุสลิมสามารถที่จะอยู่กับผู้คนจากศาสนาอื่นได้ด้วยความสันติ โดยใช้มุมมองว่าทุกคนเป็นพี่น้องกัน

สุดท้าย คือ ความขัดแย้งแนวดิ่งระหว่างรัฐกับประชาชนมลายูมุสลิมที่เกิดจากนโยบายของรัฐบาลที่ผ่านมา การที่รัฐไม่เข้าใจและไม่พยายามเข้าใจตัวตนของคนใต้ขาดการคำนึงถึงประเพณี ภาษา วัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อัตลักษณ์ความเป็นมลายูได้ถูกคุกคามอย่างหนักหน่วงที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่ทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นในพื้นที่

น.พ.แวมะฮาดี กล่าวว่า สิ่งที่คณะกรรมาธิการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอไป ก็เพื่อให้สภานิติบัญญัตินำไปเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาความไม่สงบให้ตรงจุดยิ่งขึ้น อีกทั้งเข้าใจบ่อเกิดของปัญหาที่เกิดขึ้นในยุคปัจจุบันด้วย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก