พ่อจับลูก5ขวบ โยนลงตึก ร้องปวีณาช่วย

ร้อง"ปวีณา"พ่อแท้ๆ จับลูกชายวัย 5 ขวบ โยนลงจากบันไดชั้น 2 ตกลงไปชั้น 1 ขณะที่อาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลคลองหลวง เตรียมเรียกพ่อโหดมาสอบสวน.....

เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 26 พ.ค.นางวรรณพร แก้วนอก อายุ 28 ปี ได้เดินทางเข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล “ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี”

กรณี ด.ช.เก่ง(นามสมมติ) บุตรชาย อายุ 5 ปี ถูกนายนิธิกร แก้วนอก อายุ 33 ปี บิดาแท้ๆ โยนลงจากบันไดชั้น 2 ตกลงไปชั้น 1 อาการสาหัส ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลคลองหลวง เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น.ของวันที่ 25 พค.ที่ผ่านมา ภายในบ้านเลขที่ 90/9 ม.9 ซอยรัตนะ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง

นางวรรณพร แก้วนอก เปิดเผยว่า ตนได้จดทะเบียนสมรส อยู่กินกับนายนิธิกร แก้วนอก อายุ 33 ปี จนมีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ ด.ช.เก่ง

ระหว่างที่อยู่ด้วยกันตนถูกนายนิธิกร ทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ต่อมาเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ก็ถูกสามีทำร้ายจึงไปแจ้งความดำเนินคดีกับสามีและขอหย่า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการฟ้องหย่า โดยเด็กอยู่ในความดูแลของปู่และย่าตลอดเวลา ทั้งนี้ สามีไม่ยอมหย่าและได้พยายามขอคืนดีกับตนมาตลอด แต่ตนเองกลัวจะถูกทำร้ายอีกจึงไม่ยอมทำให้สามีไม่พอใจ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 25 พ.ค.เวลา 21.00 น. สามีซึ่งดื่มสุราและมีอาการเมาได้จับลูกชายโยนลงจากบันไดชั้น 2 ตกลงไปที่ชั้น 1 จนทำให้ ด.ช.เก่ง บาดเจ็บสาหัส ตาบวมทั้ง 2 ข้าง มีรอยเขียวช้ำทั้งตัว ผู้เป็นย่าต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลคลองหลวง ต่อมาย่าเด็กได้โทรศัพท์แจ้งให้ตนทราบแต่ตนไม่กล้าไปเยี่ยมลูกที่โรงพยาบาล เพราะกลัวว่าสามีจะดักทำร้ายและเกรงว่าลูกชายจะได้รับอันตรายจากสามีอีก จึงขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณา ดังกล่าว

ต่อมาเวลา 19.00 น.นางปวีณา หงสกุล “ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี” ได้เดินทางไปเยี่ยมดูอาการของ ด.ช.เก่ง ที่โรงพยาบาลคลองหลวง

โดย แพทย์หญิงบุตรี ชลาภาพ แพทย์เจ้าของไข้ ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการของน้องเก่งปลอดภัยแล้ว โดยมีร่องรอยฟกช้ำที่บริเวณตาขวา และศรีษะ โดยเฉพาะตาขาวนั้นมีเลือดคลั่งในเยื่อบุตา ส่วนอาการโดยทั่วไปถือว่าปกติ แต่ทั้งนี้ในวันพรุ่งนี้จะได้ให้แพทย์เฉพาะทางทำการตรวจร่างกายอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด

นางปวีณา หงสกุล กล่าวว่า ในเบื้องต้นนั้นทราบว่าเด็กปลอดภัยแล้ว และจะได้ประสานงานกับ พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงค์ ผกก.สภ.คลองหลวง ให้เร่งรัดตรวจสอบและดำเนินการจับกุมตัวผู้เป็นพ่อที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี อย่างเร่งด่วนต่อไป.