มะกันแฉจีไอฆ่าเมีย แปลงโฉมใช้ไฮเทค-ล่าทั่วไทย

ปมแค้น-การพนันเลยทุบทั้งท้องแก่หอบ4ล.กลับไทยญาติเชื่อตายแล้ว!


เอฟบีไอ-ตำรวจไทยเร่งเช็กคลินิกศัลยกรรม เพราะสงสัยพันจ่า"เสนอ"ฆ่าเมียอาจแปลงโฉม รองผบ.ตร.ร่วมกับเอฟบีไอแถลงแล้วตั้งเงินค่าหัว 1 ล้านล่าตัวพันจ่าหนุ่มไทยสัญชาติมะกันหนีคดีฆ่าเมียไทยตายทั้งกลมที่อเมริกาเมื่อ 12 ปีก่อนแล้วเผ่นกบดานไทย แฉใช้ไม้เบสบอลทุบเมียสาวที่ตั้งท้อง 8 เดือนตายแล้วห่อศพไปทิ้งริมถนน

เหตุเพราะแค้นเมียติดพนันงอมแงม จากนั้นก็บินกลับไทยพร้อมเงินเกือบ 4 ล้านแล้วหายตัวไปไร้วี่แวว พี่สะใภ้ที่ปราจีนบุรีเผยหายตัวไป 10 ปีแล้ว ไม่เคยกลับมาเยี่ยมบ้านเลยจนต้องไปแจ้งความคนสาบสูญ พี่เขยก็เชื่อว่าตายไปแล้วเหมือนกัน เอฟบีไอโชว์ไฮเทคทำรูปหน้าที่เข้ากับอายุปัจจุบัน ชี้อาจหลบหนีไปบวชที่แถวอีสานตั้งแต่ปี 47 ระบุคนให้เบาะแสจะได้รางวัล 1 ล้านต่อเมื่อตามจับตัวได้ หากตายไปแล้วก็ต้องเอาดีเอ็นเอไปพิสูจน์ถึงจะได้เงิน

"ค่าหัว 1 ล้าน"


จากกรณีทางการสหรัฐอเมริกาประสานตำรวจไทยติดตามจับกุมพ.อ.ท.เสนอ วงษ์กวน อายุ 59 ปี พันจ่าโทสังกัดกองทัพอากาศสหรัฐ ผู้ต้องหาฆ่านางโสภา วงษ์กวน ภรรยาตัวเองขณะท้องแก่ 8 เดือน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2537 โดยตั้งรางวัลนำจับจำนวน 1 ล้านบาท เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้หลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย ตามที่ข่าวสดเสนอข่าวไปแล้วนั้น

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 27 ต.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองผบ.ตร.กศ. พร้อมด้วยนายโรเบิร์ต เอ. เบิร์ก ผู้ช่วยทูตฝ่ายกฎหมาย ประจำ 5 ประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวนกลางสหรัฐอเมริกา (FBI) ร่วมกันแถลงข่าวตั้งรางวัลนำจับพ.อ.ท.เสนอ จำนวน 1 ล้านบาท หรือ 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยพล.ต.อ.อิสระพันธ์กล่าวว่า คดีนี้เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกาในการติดตามตัวนายเสนอ ชาวอเมริกันเชื้อชาติไทย ที่หลบหนีคดีฆ่านางโสภา ภรรยาคนไทยที่กำลังตั้งครรภ์ 8 เดือน เมื่อวันที่ 6 ม.ค.2537

"ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ"


รองผบ.ตร.กล่าวว่า สำหรับประวัตินายเสนอ เกิดที่นครนายก และย้ายไปอยู่ในประเทศสหรัฐเมื่ออายุ 21 ปี ต่อมานายเสนอได้สมัครเข้ารับราชการทหารในกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ในปีพ.ศ.2513-2523 ได้รับสัญชาติอเมริกันในปี 2521 ต่อมานายเสนอได้แต่งงานกับนางโสภา ยอดเพ็ชร เมื่อปี 2524 มีลูกชายหญิงรวมสองคน จากนั้นได้ย้ายครอบครัวมาอยู่ในบ้านพักในฐานทัพอากาศแทรวิส รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยนายเสนอได้รับตำแหน่งเป็นผู้ควบคุมดูแลสินค้าทางอากาศประจำฝูงบินท่าสินค้าทางอากาศ ยศครั้งสุดท้ายคือพันจ่าอากาศโท (พ.อ.ท.)

พล.ต.อ.อิสระพันธ์กล่าวต่อว่า ต่อมาม.ค.2537 ได้มีผู้พบศพหญิงท้องแก่ห่อด้วยถุงนอนถูกทิ้งไว้บริเวณริมถนน ซึ่งแยกออกมาจากทางหลวงหมายเลข 1 ในมารินเคาน์ตี้ รัฐแคลิฟอร์เนีย ทราบชื่อผู้ตายต่อมาว่าคือนางโสภา วงษ์กวน เจ้าหน้าที่จึงพยายามติดต่อนายเสนอมาสอบปากคำในเรื่องนี้ แต่นายเสนอได้หนีออกจากบ้านพัก โดยทิ้งลูกสาวและลูกชายไว้กับเพื่อนบ้าน และข้อมูลการเข้าออกประเทศไทยระบุว่านายเสนอเดือนทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 ม.ค.2537 โดยทางเครื่องบิน และขณะนี้จากข้อมูลชื่อเสนอ วงษ์กวน ยังไม่มีการออกจากประเทศไทยแต่ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อก็ไม่ทราบได้ ทางสหรัฐถือว่าคดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เพราะฆ่าผู้หญิงท้องแก่ อีกทั้งคนร้ายก็หลบหนีเข้ามาในเมืองไทยนานมากแล้ว การให้ข้อมูลทั้งรูปภาพในอดีตและรูปภาพที่จัดทำขึ้นใหม่ที่คาดว่าคนร้ายอาจจะเปลี่ยนไปตามอายุที่เพิ่มขึ้นมาแจกจ่ายเผยแพร่ต่อสาธารณชน น่าจะทำให้การติดตามจับกุมคนร้ายรายนี้ได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ลูกชายของเขาที่อยู่ในอเมริกาก็เคยมาตามหานายเสนอที่เมืองไทยแต่ก็ไม่พบและนายเสนอก็ไม่เคยติดต่อลูกอีกเลย

"ติดตามคว้านหาตัว"


พล.ต.อ.อิสระพันธ์กล่าวว่า โดยผู้ให้เบาะแสต้องสามารถระบุข้อมูลจนทำให้เจ้าหน้าที่จับกุมได้ หรือแจ้งเบาะแสกรณีที่คนร้ายรายนี้เสียชีวิตแล้วนำศพไปเก็บไว้ที่ไหน แล้วนำกระดูกมาตรวจดีเอ็นเอจนระบุว่าคือนายเสนอจริงก็จะได้รางวัลนำจับเช่นกัน ซึ่งผู้ที่ให้ข้อมูลทางการไทยและสหรัฐจะเก็บไว้เป็นความลับ โดยผู้ที่มีเบาะแสสามารถแจ้งเข้ามาที่สายด่วน 24 ช.ม. หมายเลข 08-6066-1782 / 08-6066-1788 หรืออีเมล์ usfugitive@yahoo.com และที่สำนักงานความมั่นคงทางการทูต สถานทูตสหรัฐ หมายเลขโทรศัพท์ 0-2205-4108 หรืออีเมล์ DS RSOBangkok@state.gov

ด้านนายโรเบิร์ตกล่าวว่า คดีนี้ทางการสหรัฐได้ให้ความสนใจมาก เพราะคนร้ายก่อคดีอย่างโหดเหี้ยม ตามรายงานสุดท้ายที่เราทราบคือ นายเสนอมีชื่อเล่นว่าบั๊ค หรือชอร์ตตี้ เกิดเมื่อวันที่ 22 ม.ค.2490 เชื้อชาติไทย สัญชาติอเมริกา น้ำหนัก 61 ก.ก. (135 ปอนด์) สูง 150 ซ.ม.(5 ฟุต) สีตาและสีผมดำ มีแผลเป็นความยาว 3.5 ซ.ม.ที่บริเวณคาง และมีแผลเป็นบริเวณข้อมือซ้าย พูดภาษาอังกฤษคล่อง และเคยทำงานเป็นจิตรกรและคนสวน ตอนนี้ทางเอฟบีไอและตำรวจไทยได้พยายามสืบตามคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ทำศัลยกรรม เพราะคาดว่าอาจจะมีการทำศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า และอาจจะมีการเปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่ได้

"หนีเข้าไทย"


รายงานจากชุดสืบสวนทราบว่า นายเสนอมีบิดาชื่อนายชิน มารดาชื่อนางหมุ่ย เสียชีวิตแล้วทั้งสองคน ส่วนพี่น้องมีด้วยกัน 3 คน นายเสนอเดินทางไปทำงานที่ประเทศสหรัฐเมื่ออายุ 21 ปี โดยเริ่มจากเป็นจิตรกรรับจ้างเขียนภาพ ก่อนที่จะสอบบรรจุเป็นทหารในสังกัดกองทัพอากาศสหรัฐ จากนั้นเมื่อเดินทางมาเมืองไทยจึงมาพบกับนางโสภา ยอดเพ็ชร ที่ร้าน Blue Parot ที่พัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นร้านอาหารกึ่งผับที่เป็นแหล่งชุมนุมของทหารอากาศสหรัฐที่เดินทางเข้ามาฝึกในไทย โดยนางโสภามีอาชีพให้บริการกับนักท่องเที่ยวทั่วไป จากนั้นจึงได้คบหากันจนเดินทางไปอยู่กินกันที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จนมีลูกชายหญิงด้วยกันรวม 2 คน

ต่อมาเมื่อเกิดเหตุพบศพนางโสภาบริเวณริมถนนในแคลิฟอร์เนีย นายเสนอได้เดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 14 ม.ค.2537 โดยเดินทางเข้ามาทางท่าอากาศยานดอนเมืองโดยใช้ตั๋วโดยสารแบบเที่ยวเดียว ซึ่งเมื่อเดินทางเข้ามาในประเทศไทยนายเสนอได้เขียนจดหมาย 2 ฉบับ โดยฉบับแรกได้เขียนถึงน.ส.อุ่นฤดี ยอดเพ็ชร พี่สาวของนางโสภา ที่บ้านเลขที่ 12/10 บ้านสุนเส้า ต.สุนเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี โดยแจ้งข่าวว่านางโสภาเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่ได้ระบุว่าตนเองเป็นคนฆ่า ส่วนจดหมายฉบับที่สองเขียนถึงต้นสังกัดกองทัพอากาศอเมริกาที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อขอลางาน 54 วัน โดยอ้างเหตุผลว่าถูกตำรวจจับและกำลังติดคุกอยู่

"หลบหนี 12 ปี"


จากนั้นได้เปิดบัญชีธนาคารในประเทศไทย โดยเริ่มเปิดบัญชีที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาปราจีนบุรี จำนวน 2.9 ล้านบาท บัญชีธนาคารกสิกรไทย ชนิดฝากประจำจำนวน 4.7 แสนบาท บัญชีแบบออมทรัพย์จำนวน 6.9 หมื่นบาท โดยบุคคลที่นายเสนอเคยติดต่อด้วยจะเป็นเพื่อนสนิทที่อยู่ที่ คาวบอยเกสต์เฮาส์ ถ.เจริญราษฎร์ ต.วัดเกตุ จ.เชียงใหม่ เพื่อนๆ ของนางโสภาที่อยู่พัทยาบ้าง รวมถึงญาติๆ ที่อยู่ที่ จ.ปราจีนบุรี จนเมื่อประมาณปี 2547 นายไล้ วงษ์กวน อายุ 81 ปี พี่ชายคนโตของตระกูลได้ทำหนังสือร้องขอต่อศาลเพื่อขอปิดบัญชีธนาคารทั้งหมดของนายเสนอ โดยอ้างเหตุผลว่านายเสนอเป็นบุคคลสูญหาย จากนั้นได้มีการนำเงินบางส่วนไปซื้อบ้านในพื้นที่ ต.ดงพระราม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โดยใช้ชื่อของหลานชายนายเสนอเป็นเจ้าของ

ส่วนสาเหตุการสังหารนางโสภานั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคาดว่าน่าจะมาจากนายเสนอระงับโทสะไม่อยู่ จึงลงมือทำร้ายร่างกายจนนางโสภาเสียชีวิต ส่วนสาเหตุคงมาจากนางโสภาเมื่อมาอยู่ที่สหรัฐแล้วยังไม่ยอมเลิกนิสัยที่ชอบคบหาผู้ชายมากหน้าหลายตา รวมทั้งชอบเล่นการพนันจนมีปากเสียงกับนายเสนอบ่อยครั้ง และอาวุธที่คาดว่าจะใช้สังหารน่าจะเป็นท่อนไม้หรือไม้เบสบอล ส่วนที่นายเสนอได้หลบหนีการจับกุมมานานกว่า 12 ปีได้ก็เนื่องจากนายเสนอเป็นคนชอบเก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใครถ้าไม่จำเป็น รวมทั้งข้อมูลล่าสุดนายเสนอซึ่งชอบปลีกวิเวกอาจจะสละเงินทองทั้งหมดให้กับญาติพี่น้อง และออกบวชในวัดในพื้นที่ภาคอีสานตั้งแต่ปี 2547

"หายไป 10 ปี"


วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 281/2 ม.1 ต.ดงพระราม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นที่อยู่ตามบัตรประชาชนของพ.อ.ท.เสนอ พบพบนางบาง สุชินดำรงค์ อายุ 74 ปี พี่สะใภ้ของพ.อ.ท.เสนอ เปิดเผยว่า พ.อ.ท.เสนอหายสาบสูญไปเป็นเวลากว่า 10 ปี ไม่มีการติดต่อกลับมา และเคยไปแจ้งความว่าเป็นผู้หายสาบสูญเมื่อหลายปีก่อนตามคำแนะนำของตำรวจ หลังจากที่ได้แจ้งที่อำเภอไว้แล้วไม่เคยมีใครมาสอบถามถึง จนระยะหลังนี้มีตำรวจและผู้สื่อข่าวเดินทางมาสอบถามอยู่บ่อยๆ

นางบางกล่าวว่า พ.อ.ท.เสนอเรียนจบที่โรงเรียนค่ายจักรพงษ์ จากนั้นไปเรียนต่อที่วิทยาลัยเพาะช่าง ต่อมามีเจ้าหน้าที่สหรัฐมาพบ และชอบงานวาดของพ.อ.ท.เสนอ สนิทกันจนเจ้าหน้าที่คนนั้นให้พ.อ.ท.เสนอเลี้ยงลูกให้ และเมื่อเดินทางกลับสหรัฐ ได้ให้พ.อ.ท.เสนอตามไปเรียนต่อที่สหรัฐด้วย หลังจากนั้นได้ขาดการติดต่อไปช่วงหนึ่ง จนมาทราบอีกครั้งว่าเป็นทหารในกองทัพอากาศสหรัฐ และติดต่อกันไม่ได้อีก จนเวลาผ่านไป 5 ปี พ.อ.ท.เสนอกลับมาที่บ้าน และหายไปอีก 3-4 ปีจึงติดต่อกลับมาครั้งหนึ่ง ซึ่งการติดต่อกลับมาครั้งล่าสุดเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว ไม่ทราบว่าเป็นตายอย่างไรบ้าง ขนาดพี่ชายของพ.อ.ท.เสนอป่วยหนักเป็นเวลานาน 4 ปี และเสียชีวิตไปเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา พ.อ.ท.เสนอไม่เคยมาเยี่ยมสักครั้ง

"ญาติเชื่อเสียชีวิตไปแล้ว"


นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 5 ต.บางปลากด อ.องครักษ์ จ.นครนายก เป็นบ้านที่พ.อ.ท.เสนอเคยมาพักอยู่ โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ซึ่งเจ้าของบ้านดังกล่าวคือนางลิ รุ่งกำจัด พี่สาวของพ.อ.ท.เสนอ ปัจจุบันนางลิเสียชีวิตไปแล้ว เหลืออยู่เพียงนายบุญส่ง รุ่งกำจัด อายุ 85 ปี สามีของนางลิ ซึ่งอยู่อาศัยกับลูกสาวและลูกเขยรวม 3 คน

นายบุญส่งกล่าวว่า พ.อ.ท.เสนอเกิดที่ ต.บางปลากด พอโตแล้วจึงย้ายไปทำงานยังประเทศฟิลิปปินส์ก่อน จากนั้นจึงย้ายไปอยู่ที่ประเทศสหรัฐ สำหรับเรื่องคดีฆาตกรรมนั้นตนก็เพิ่งทราบข่าวมาจากทางหนังสือพิมพ์ และยืนยันพ.อ.ท.เสนอไม่เคยกลับมาที่นี่นานนับสิบปีแล้ว ครั้งล่าสุดที่กลับมาบ้านคือตอนปี 2530 ที่มาเผาศพมารดาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าพ.อ.ท.เสนอได้เสียชีวิตไปแล้ว เพราะหากยังอยู่เขามักจะส่งการ์ดปีใหม่มาให้เสมอ อีกทั้งลูกชายของพ.อ.ท.เสนอที่เกิดจากนางโสภาก็เคยนำเอารูปของบิดามาตามหาเช่นกัน ซึ่งพ.อ.ท.เสนอมีบุตรกับนางโสภาแล้ว 2 คน ลูกชายชื่อแซนเดอร์ ส่วนลูกสาวชื่อโซเฟีย ซึ่งตอนที่ลูกๆ มาตามหา ก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่พ.อ.ท.เสนอก่อคดีนี้เลย

"มีคนมาตามหาเยอะ"


นายมานิตย์ หน่องพงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.บางปลากด เปิดเผยว่า พ.อ.ท.เสนอมักจะมาพักที่นี่เสมอเวลากลับมาจากเมืองนอก และเขายังได้บวชที่วัดอรุณฉายารังสีที่ ต.บางปลากด นี่เอง ซึ่งตนมีบ้านอยู่ติดกับบ้านหลังนี้ ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และมีคนแปลกหน้าอีกหลายคนมาตามหาพ.อ.ท.เสนออยู่บ่อยๆ มาทีไรตนก็เป็นคนพามาที่บ้านนี้อยู่ประจำ สำหรับพ.อ.ท.เสนอมีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 5 คน เป็นพี่ชาย 3 พี่สาว 2 คน ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 2 คน คนหนึ่งอาศัยอยู่ที่บ้านคลอง 11 ต.บางปลากด อีกคนหนึ่งอาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ

นายสมบัติ รุ่งสวัสดิ์ นายก อบต.บางปลากด เพื่อนของพ.อ.ท.เสนอ กล่าวว่า ตนรู้จักกับพ.อ.ท.เสนอมาตั้งแต่สมัยเด็กๆ เพราะบ้านอยู่ติดกัน ครั้งสุดท้ายที่ได้พบกันคือเมื่อครั้งงานฝังลูกนิมิตที่วัดประจำหมู่บ้านเมื่อปี 2536 จากนั้นก็หายสาบสูญไป ไม่เคยได้รับข่าวอีกเลย ซึ่งตนก็คิดว่าป่านนี้พ.อ.ท.เสนอน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนสาเหตุที่ตนเองคิดเช่นนั้น เพราะได้ข่าวว่าพ.อ.ท.เสนอเบิกเงินสด 8 แสนบาทซื้อบ้านที่ จ.ปราจีนบุรี แล้วเงียบหายไปเลย


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์