บึ้มรถวีโก้พังยับ! เจ๊เขียงหมูนครปฐม

ระทึกเมืองนครปฐม มือดีดอดวางบึ้มรถกระบะ วีโก้ เจ๊เจ้าของเขียงหมูขณะจอดอยู่ภายในบ้านพังยับเป็นแถบๆ ตัวรถฉีกขาดเสียหายเกือบทั้งคัน เผยก่อนเกิดเหตุรปภ.หมู่บ้านพบคนร้ายขับมอเตอร์ไซค์มาจอดอยู่หน้าบ้าน จากนั้นก็มีเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว ด้านเจ้าของรถระบุไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่อาจจะเป็นได้ที่สามีซึ่งมีกิจการรถขนส่งสิบล้อไปขัดผลประโยชน์กับคู่แข่ง เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยโดนลอบยิงมาแล้วครั้งหนึ่ง

เมื่อเวลา 07.55 น. วันที่ 26 ต.ค. เจ้าหน้าที่ศูนย์รับแจ้งเหตุ 191 ภ.จว.นครปฐม รับแจ้งว่ามีเหตุระเบิดรถยนต์ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดหมู่บ้านเบญจวรรณ บ้านเลขที่ 222 ต.หนองปากโลง อ.เมือง จ.นครปฐม หลังรับแจ้งจึงประสานให้ท้องที่ทราบ

ต่อมาเวลา 08.10 น. พ.ต.ต.วิรัตน์ ผลพัฒนาสกุลชัย พงส. (สบ 2) เวรสอบสวน สภ.อ.เมือง ได้รุดไปพร้อม พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.สภ.อ.เมือง พ.ต.ท.วัฒนา พิมพ์อัฐ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ไชยศ มุกดาหาญ สว.สส.ฯ และกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งไปตรวจสอบ พร้อมทั้งรายงานเหตุเบื้องต้นให้ พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผบก.นครปฐม พ.ต.อ.วิรัช วัชรขจร รองผบก.นครปฐม ทราบร่วมรุดไปที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบว่า ภายในที่จอดรถของบ้านหรู เจ้าหน้าที่พบรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ ชนิดตอนเดียว สีเทา ป้ายแดง ทะเบียน ง 0204 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพพังยับ ที่กระบะท้าย แก้มบังโคลนทั้งสองข้างโป่งพองฉีกขาดออกด้วยแรงระเบิด ชิ้นส่วนของรถหลายชิ้นตกเกลื่อนกระจาย ที่หลังคาห้องโดยสารมีแผ่นฝ้าเพดานยิปซัมบอร์ดทั้งแผ่นหลุดลงมาทับอยู่

น.ส.ชุตินันท์ หลีเจริญ อายุ 38 ปี เจ้าของบ้านออกมาพบให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนว่า ตนมีอาชีพค้าขายสุกรชำแหละอยู่ที่ตลาดปฐมมงคล ในเมืองนครปฐม และขับรถคันเกิดเหตุกลับเข้าบ้านหลังเก็บร้านเมื่อเวลาประมาณ 00.00 น. วันที่ 26 ต.ค. เข้านอนตามปกติ กระทั่งเช้าเวลาประมาณ 06.30 น. ตื่นขึ้นมาส่งลูกสาววัย 10 ขวบ ที่หน้าบ้านให้นั่งจักรยานยนต์รับจ้างไปโรงเรียน แล้วกลับเข้าบ้านโดยไม่ได้ล็อกประตูรั้ว จากนั้นอีกประมาณ 1 ชั่วโมงต่อมาก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว พร้อมเสียงสิ่งของร่วงหล่นที่หน้าบ้านตรงจุดจอดรถ จึงลงมาดูก็พบว่ารถยนต์กระบะป้ายแดงของตนที่จอดอยู่หน้าบ้านได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีผู้ใดในบ้านได้รับอันตรายอย่างใดจึงโทร.แจ้งเหตุไปที่ 191

เบื้องต้นจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบชิ้นส่วนใดๆ ของวัตถุระเบิด ตามพื้นตรงที่จอดรถก็ไม่มีร่องรอยความเสียหายจากแรงระเบิด แต่ความเสียหายที่ตัวถังรถยนต์กระบะพบว่าเกิดจากแรงอัดอย่างรุนแรงของวัตถุระเบิด ซึ่งไม่ทราบชนิด จึงได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากเจ้าหน้าที่วิทยาการ เขต 15 นครปฐมไปตรวจสอบ ซึ่งเบื้องต้นพบเพียงชิ้นส่วนเปลือกของวัตถุระเบิดเป็นชนิดกระดาษแข็งคล้ายประทัดยักษ์จำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ค่าเสียหายเบื้องต้นทั้งรถยนต์และบ้านประมาณ 850,000 บาท

น.ส.ชุตินันท์ ให้การต่อว่า ตนเองไม่มีปัญหาอะไรกับใคร ทั้งที่ค้าขายและอื่นๆ แต่ที่น่าสังเกตอาจเป็นได้ว่าสามีของตนที่อยู่กินกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส คือ นายครรชิต ขำเกิด อายุ 43 ปี ที่แยกกันพักอาศัยอยู่คนละบ้าน และมีธุรกิจรถบรรทุกสิบล้อ 2 คัน รับงานส่งหิน ทราย ก่อสร้างวิ่งส่งงานในกทม.โดยรับงานในราคาถูกกว่าคนอื่น และคู่แข่งรายหนึ่งในเมืองนครปฐม

น.ส.ชุตินันท์ ให้การต่อว่า ปกติช่วงกลางวัน สามีจะใช้รถกระบะคันที่ถูกระเบิด โดยตนจะใช้เฉพาะช่วงกลางคืนขับไปขายสุกรชำแหละที่เขียงในตลาดปฐมมงคล ซึ่งจะกลับเข้าบ้านช่วงเที่ยงคืนโดยประมาณทุกวัน และก่อนจะถูกวางระเบิดครั้งนี้ เมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมาก็มีคนร้ายใช้อาวุธปืนมายิงใส่รถที่จอดอยู่ที่นี่ครั้งหนึ่งแล้ว

จากการสอบปากคำนายสุวรรณรัตน์ จันทร์เสงี่ยม อายุ 21 ปี รปภ.ของหมู่บ้าน ทราบว่าช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนที่ผ่านมา หลังจากน.ส.ชุตินันท์ขับรถกลับเข้ามาจอดในบ้านได้ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มีคนแปลกหน้าเป็นวัยรุ่นชาย 4 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนกันมา 2 คน โดยคันหนึ่งเป็นฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน อีกคันเป็นยามาฮ่า มีโอ สีเทาดำโดยหนึ่งใน 4 รูปร่างท้วม ได้ขับรถมาจอดที่หน้าประตูบ้านเกิดเหตุครู่หนึ่งก็พากันขับรถออกไปซึ่งอาจเป็นคนร้ายที่นำวัตถุระเบิดมาวางก็เป็นได้

จากสภาพการระเบิดคาดว่า น่าจะเป็นการข่มขู่มากกว่าประสงต่อชีวิต อย่างไรก็ตาม หลังตรวจที่เกิดเหตุ พล.ต.ท.วีรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.ภ.7 ได้กำชับให้ พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผบก.นครปฐม สั่งการตำรวจท้องที่ สืบสวนติดตามคนร้ายและสอบสวนหาสาเหตุการลอบวางระเบิดครั้งนี้ด้วย โดยให้สอบปากคำเจ้าของบ้าน เจ้าของรถทั้งตัวภรรยาและสามีให้ชัดเจนอีกครั้ง

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด